Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
18 ต.ค. 2022 เวลา 13:55 • การ์ตูน
EP : 1,139
วุ่นรักยัยเทพสามพันปี
ในช่วงที่ผ่านมาผมได้อ่านมังงะแนว Love story หรือ Love Comedy มากมายอยู่หลายเรื่อง แม้จะไม่ทุกเรื่อง แต่ผมก็พบสรุปได้ว่ามังงะแนวนี้ในยุคนี้ เน้นความมีสีสันของตัวละคร เรื่องราวความรักเชิงที่มีความปวดตับมากขึ้น และงานภาพที่มีฉากเซอร์วิสทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจให้เห็นตลอดทั้งเรื่องมากขึ้น ผมว่าเรื่องสไตล์นี้ที่หลายๆคนชอบอยู่ในตอนนี้ ไม่มากก็น้อยจะต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างนี้เข้าไปอย่างแน่นอนครับ
ก็ไม่แปลกที่ปัจจุบันมังงะแนวรักจะพัฒนาและออกไปทางนี้มากขึ้น เพราะทางหนึ่งเกิดจากการอึ่มตัวของเนื้อหาแนวรักใสๆ ที่หาได้ง่ายในยุค 90 และอีกนัยนึงคือสังคมที่เปิดรับเรื่องราวใหม่ๆมากขึ้น รวมถึงมันไม่ง่ายที่จะนำเสนออะไรซ้ำๆกับแนวทางเดิมและจะได้รับการตอบรับจากกระแสของสังคมที่อยากเห็นเรื่องราวแบบใหม่ในตอนนี้ เพราะฉะนั้นโดยสัดส่วนคร่าวๆ แล้วผมเชื่อว่า มังงะแนวรักแบบในอดีต ขายได้ยากในยุคสมัยนี้ครับ
แต่..ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีซักทีเดียวสำหรับมังงะสไตล์ 90 ในยุคนี้ที่เราอ่านแล้วจะถูกใจในการนำเสนอ ที่ไม่ได้เน้นเนื้อหาให้มันปวดตับมากนัก และไม่ได้เน้นโทนภาพให้มันมีฉากเซอร์วิสเพื่อเรียกความสนใจ แต่เน้นความน่ารักและความสนุกของการผจญภัยและการเรียนรู้เล็กๆน้อยๆระหว่างกัน โดยที่มีความไม่ธรรมดาผสมอยู่ นั่นก็คือเป็นความรักระหว่างหญิงสาวผู้เป็นเทพกับเด็กผู้ชายคนนึงใน “วุ่นรักยัยเทพสามพันปี” ครับ
… เช้าวันแรกกับการเดินทางไปยังโรงเรียนแห่งใหม่ของ “ชิบะ จูโซ” ต้องสะดุด เพราะเขาได้ไปพบสาวน้อยคนนึงติดอยู่ในพุ่มไม้ปากทางเข้าศาลเจ้า จูโซ ผู้ซึ่งมีจิตสำผัสพิเศษมาตั้งแต่เด็กรู้ในทันทีว่าเธอผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา ใช่ครับ เธอบอกว่าเธอเป็น “เทพ” ที่ดูแลพื้นที่ตรงนี้มานานกว่า 3000 ปี
แต่เขาไม่คิดว่าหลังจากที่เขาช่วยเธอออกจากพุ่มไม้ตรงนี้ได้ เธอคนนี้จะขอเขาแต่งงาน ที่สำคัญเธอโครตน่ารักเกินกว่าที่เขาจะปฎิเสธได้ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา กับการพบเจอกับเทพสาวผู้น่ารักเกินห้ามใจคนนี้ ทุกอย่างกำลังจะเกิดขึ้นใน “วุ่นรักยัยเทพสามพันปี”
สิ่งที่เรื่องนี้ทำออกมาได้น่าสนใจอย่างมาก ผมมองว่าเป็นพล็อตเรื่องและการรนำเสนอเรื่องราวให้อยู่ในเกณฑ์พอดีที่หาได้ยากในยุคนี้ครับ มามองที่พล็อตเรื่องกันก่อน แน่นอนเรื่องราวความรักระหว่างคนกับเทพ
เป็นอะไรที่เราได้อ่านมาตลอดยุคสมัยกันอยู่แล้ว เรื่องราวที่เน้นความต่างของสถานะ ฐานะ ตัวตน หรือ ชนชั้น แบบนี้ ส่วนใหญ่มักจะขายความสนุกจากความต่างกันของการใช้ชีวิตและองค์ประกอบของสถานะของแต่ละคนนั้นเป็นสำคัญ แน่นอนครับ เรื่องนี้ก็ใช้ประโยชน์จากจุดนั้นและก็เล่าเรื่องราวออกไปโทนที่ผมไว้ตั้งแต่ต้นก่อนได้อ่านครับ
เพราะฉะนั้นเนื้อหาของมันจริงๆดูไม่แปลกอะไรนักในสายตาของผม แต่สิ่งที่เรื่องนี้ทำสิ่งซ้ำๆนำเสนอออกมาได้ดีก็คือการสร้างบรรยากาศของเรื่องราวให้มันดูมีความน่ารักด้วยความต่างที่สอดคล้องไปกับจุดประสงค์หลักของนางเอกเรา นั่นก็คือ “การแต่งงาน” ครับ ซึ่งตรงจุดนี้หากใครได้อ่านจะเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร
ผมชอบที่เรื่องผูกเนื้อหาและเล่าเรื่องราวของการเดินทางในเล่มแรกนี้เข้ากับการแต่งงานที่เธอต้องการ ด้วยองค์ประกอบแบบเรียบง่าย โดยสิ่งที่เห็นเลยก็คือ การใส่ความเป็นผู้หญิงเข้าไปในเรื่องราวแต่ละตอนที่เดินไปเรื่อยๆ ครับ มันมีอารมณ์ของความเป็นเด็กหญิงที่เข้าใจง่าย และรวมถึงความง่ายของความรู้สีกของพระเอกด้วยเช่นกันที่ชัดเจนและถูกสื่อสารออกมาให้เห็นง่ายๆครับ
เรื่องนี้จึงเล่าไปบนพื้นฐานอย่างความง่ายของตัวละครที่เป็นเด็กสาวและเด็กผู้ชายที่คนอ่านอย่างเราเข้าใจในสิ่งที่เขาคิดง่ายๆ และความแตกต่างของสถานะความเป็นคนและเทพ ล้อกันไปเรื่อยๆในแต่ละตอนที่เขียนออกมาให้เราได้อ่านกัน ซึ่งเรื่องราวที่นำเสนอนั้น มันน่ารักและทำหัวใจพองฟูได้ดีเลยทีเดียวครับ
เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรยาก หรือวุ่นวายนักในแง่เนื้อหา เอาจริงๆเราเดาได้แหละว่าสุดท้ายเรื่องจะเป็นอย่างไร เพราะสไตล์มันออกมาฟิลกู๊ดอย่างชัดเจน แต่ความลงตัวของเรื่องราวที่เล่าออกมานี่สิคือสิ่งที่ทำให้นึกถึงเรื่องราวความรักที่มักถูกหยิบมาใช้ในยุค 90 ที่มักจะเน้นบรรยากาศความรักที่สดใส ไม่ได้ซับซ้อนหรือเน้นความดราม่าเกินความจำเป็น ใช้จังหวะโบ๊ะบ๊ะเล็กๆสร้างความสนุกและความน่ารักที่ลงตัวครับ
แต่เรื่องนี้ไม่ได้มีดีที่จังหวะในการเล่า หรือสไตล์การเล่าที่ดูน่ารักน่าชังเท่านั้น งานภาพยังเป็นอะไรที่โดดเด่นไม่น้อยครับ ซึ่งผมมองว่านำเสนอภาพออกมาได้ลงตัวมาก มีความเป็นญี่ปุ่นในแบบฉบับของสมัยก่อนและสมัยปัจจุบันได้ลงตัว ด้วยเรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างเทพกับมนุษย์ สิ่งที่เรื่องวาดลงมา มันดูแฟนตาซีบนพื้นฐานความเป็นญี่ปุ่นมากๆ ฉากและซีนต่างๆที่เราได้เห็นในเล่มผมว่ามีเอกลักษณ์ชวนจดจำได้ดี รวมถึงออกแบบประสานเรื่องราวต่างภพนี้ให้อยู่ในกรอบที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแปลกแยกครับ
ในขณะที่การวาดตัวคนผมมองว่าก็น่ารักดีนะ แม้จะดูตาโตไปซักหน่อยก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เห็นปุ๊ปแล้วคนอ่านอย่างผมชอบได้เลยในทันทีครับ มันอยู่ในระดับนั้นเลย ทำให้ภาพรวมของงานภาพในเรื่องนี้อยู่ในระดับที่ดีในสายตาผมนะครับ
“วุ่นรักยัยเทพสามพันปี” เรื่องและภาพโดย อ. FUMITAKA KATO ในไทยเจ้าของ LC คือ SIC เพิ่งเปิดตัวไม่นานและเพิ่งออกมาเล่มแรกเท่านั้น ข้อดีคือราคาไม่แรงมาก 100 นึงมีทอน 10 บาท แต่ที่สังเกตเลยคือตัวเล่มบางกว่าหลายๆเรื่องด้วยจำนวนหน้าราวๆ 140 หน้าได้ครับ อันนี้ไม่รู้เป็นเพราะชนิดกระดาษด้วยหรือเปล่าที่ทำให้รู้สึกมันบางขนาดนี้ครับ
อันนี้เป็นอีกเรื่องใหม่เรื่องนึงที่ผมอ่านแล้วชอบนะครับ อ่านสนุกทั้งในแง่เนื้อหาที่ดูน่ารัก เป็นรักที่ดูใสๆ แต่ผสมความตลกและน่าติดตามจากความต่างของสถานะ รวมถึงงานภาพที่ดูสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ถือเป็นเล่มแรกที่เปิดตัวออกมาได้น่าประทับใจ และชวนให้อยากอ่านเล่มต่อไปด้วย เป็นอีกเรื่องที่เนื้อหาสมกับเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรักครับ แนะนำครับเรื่องนี้
** เรื่องนี้ให้คะแนนหลังจากอ่านเล่ม 1 จบ หากมีโอกาสได้อ่านจนจบเล่มสุดท้าย จะมารีวิวให้อ่านกันอีกครั้งครับ ***
ภาพ 9.2/10
เรื่อง 8.9/10
ความประทับใจ 9/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวรัก #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวผจญภัย #9คะแนน #วุ่นรักยัยเทพสามพันปี #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
1 บันทึก
1
1
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย