20 ต.ค. 2022 เวลา 01:08 • ธุรกิจ
เกิดอะไรขึ้นใน UK ทำไมผลผลิตเหล็กต่ำสุด ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
อุตสาหกรรมผลิตเหล็กคาดว่าจะผลิตเหล็กออกมาน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์
ซึ่งจะเป็นจุดที่ผลผลิตเหล็กต่ำสุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
และในปี 2023 ก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้อย่างง่ายดาย
📌 ผู้คนนับพันเสี่ยงตกงาน จากอุตสาหกรรมเหล็กชะลอตัว
คุณ Jacob Rees-Mogg เลขาธิการฝ่ายธุรกิจของรัฐบาลเข้าพูดคุยกับผู้ผลิตเหล็กในสหราชอาณาจักร ท่ามกลางความกังวลด้านความเสี่ยงที่แรงงานจำนวนมากในอุตสาหกรรมนี้จะตกงาน
รัฐบาลได้ยืนยันแล้วว่าได้มีการพูดคุยกับ Tata Steel ผู้ผลิตเหล็กที่มีจำนวนแรงงานมากที่สุดในสหราชอาณาจักร ในขณะที่ Jingye Group บริษัทจากจีนได้ซื้อบริษัทผลิตเหล็กของสหราชอาณาจักรที่ล้มละลายไปในปี 2020
ซึ่งบริษัทจากจีนนี้ได้ตกลงว่า จะพยายามรักษาอัตราการจ้างงานไว้ให้ได้
โดยทางบริษัทก็มีการเตือนรัฐบาลแล้วว่า เตาหลอมเหล็กสองเตาที่โรงงานใน Scunthorpe, Lincolnshire ไม่สามารถใช้งานได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล
ซึ่งคนกว่า 3,500 อยู่ภายใต้การจ้างงานของ Tata Steel ที่ได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินและต้องการเงินอุดหนุนจำนวน 1,500 ล้านปอนด์
ซึ่งการสนทนาระหว่างบริษัทและรัฐบาลเกิดขึ้นภายใต้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ Boris Johnson
อย่างไรก็ตาม Boris Johnson สัญญาว่าจะไม่ทำภาระผูกพันทางการเงินที่สำคัญใด ๆ ก่อนออกจากตำแหน่ง
📌 เกิดอะไรขึ้น ?
อุตสาหกรรมผลิตเหล็กคาดว่าจะผลิตเหล็กออกมาน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์
ซึ่งจะเป็นจุดที่ผลผลิตเหล็กต่ำสุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
และในปี 2023 ก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้อย่างง่ายดาย
1
โดยผลผลิตเหล็กกล้าดิบร่วงลงต่ำกว่า 7 ล้านเมตริกตัน จาก 7.2 ล้านเมตริกตัน ในปี 2021 และ ปี 7 ล้านเมตริกตัน ในปี 2020 จากการได้รับผลกระทบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด ที่ไปส่งผลกระทบต่อตลาดเหล็ก และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
ซึ่งการที่ผลผลิตลดลงในปีนี้มาจากการที่ผลผลิตทั่วโลกลดลง
โดยจากข้อมูลของ The World Steel Association เมื่อวันที่ 22 กันยายน พบว่า
การผลิตเหล็กดิบทั่วโลกลดลง 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงมกราคมถึงสิงหาคม มาอยู่ที่ 1,250 ล้านตัน
ซึ่งตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคเดียวที่การผลิตเหล็กเพิ่มขึ้น
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานน้อยกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
โดยการผลิตเหล็กของสหราชอาณาจักรลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานับ 10 ปี
ในปี 2000 การผลิตเหล็กในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 15 ล้านตัน
ซึ่งในตอนนี้การผลิตเหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
ในครึ่งหลังของปี ความต้องการเหล็กจะลดลง โดยเฉพาะจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อสูง ก็กำลังกระทบไปกับความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ดัชนี PMI ซึ่งวัดกิจกรรมฝั่งภาคผลิต นั้นอยู่ต่ำกว่าจุดตัด 50
ซึ่งบ่งบอกว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
แต่ข้อดี คือ การฟื้นตัวในอุตสาหกรรมการบิน ที่เข้ามาช่วยพยุงความต้องการเหล็ก
การนำเข้าเหล็กของสหราชอาณาจักร 3.15 ล้านเมตริกตันในช่วงเดือนมกราคม ถึง มิถุนายน ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความคาดหวังว่าภาคธุรกิจเหล็กของสหราชอาณาจักรจะเติบโตในอนาคต
แต่การลงทุนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลสร้างสภาพแวดล้องทางธุรกิจให้มีการแข่งขันสูง
และหากรัฐบาลสามารถสร้างตลาดสำหรับเหล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
โฆษณา