20 ต.ค. 2022 เวลา 06:08 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ตำแหน่งอยู่(ไม่)นาน ตำนานอยู่ตลอดไป
ตำแหน่งอยู่(ไม่)นาน ตำนานอยู่ตลอดไป
ในหลายๆประเทศที่พัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนาที่เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ก็มักจะมีจัดตั้งองค์กรมาสนับสนุน ดูแลและบริหารงานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตำแหน่งที่สำคัญจึงเป็นผู้อำนวยการในการส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะ การวางรากฐานการเรียนรู้ที่ดีจะนำไปสู่การพัฒนาวิทยาศาสตร์ในอนาคต
ตำแหน่งนี้ต้องมีการเปลี่ยนผันตามวาระจึงมีความสำคัญมาก หากในวาระที่ดำรงตำแหน่งทำผลงานออกมาไม่ว่าดีหรือร้ายก็ตาม สิ่งนั้นจะเป็นตำนานให้คนในวงการวิทยาศาสตร์ได้จดจำ วันนี้เรามาดูกรณีตัวอย่างที่เรียกว่าเป็นตำแหน่งและตำนานด้านงานบริหารองค์กรโดยนักฟิสิกส์ระดับโลก มาดูกันว่าเขาได้สร้างหายนะหรือคุณูปการใดไว้บ้าง
ก่อนอื่นเราต้องเล่าถึงองค์กรวิทยาศาสตร์ในอังกฤษที่มีสมาชิกเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกนั่นคือ ราชสมาคมแห่งลอนดอน (The Royal Society of London) ก่อตั้งวันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 1660 ตามพระราชโองการของพระเจ้าชาร์ลที่ 2 (King Charles II) มีจุดประสงค์มุ่งเน้นในการส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ ความร่วมมือระหว่างประเทศ การศึกษาและสาธารณประโยชน์ ซึ่งองค์กรนี้ยังคงดำเนินการตั้งแต่ 361 ปีก่อนถึงปัจจุบัน
ราชสมาคมแห่งลอนดอน (The Royal Society of London)
สมาชิกของราชสมาคม (Fellow of the Royal Society : FRS) เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังและคนหนึ่งที่ถือว่าสำคัญเป็นอย่างมากคือ ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton) เขาคือผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการวิทยาศาสตร์ตลอด 300 ปีที่ผ่านมา มาเฟียวิทยาศาสตร์ในช่วงศตวรรษที่ 17 นอกจากผลงานด้านฟิสิกส์อย่าง กฎการเคลื่อนที่และกฎแรงโน้มถ่วง ทัศนศาสตร์และกล้องโทรทรรศน์แล้ว นิวตันถือว่าเป็นผู้เล่นที่เก่งฉกาจในเกมการเมืองเสียด้วย
หลังจากที่นิวตันได้แสดงผลงานการประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงต่อทางราชสมาคมและได้รับเลือกเป็นสมาชิกในปี 1672 สถานะการภายในองค์กรช่วงทศวรรษ 1670 ก็เริ่มมีปัญหาขึ้นมา เนื่องจากราชสมาคมเป็นโครงการที่ได้รับราชพระโองการให้จัดตั้งขึ้นแต่ไม่ได้รับพระราชทุนในการดำเนินกิจการ จึงทำให้สมาชิกทุกคนจึงต้องจ่ายค่าสมาชิกภาพรายปีเอง ซึ่งหลายคนก็จนปัญญาที่จะจ่าย พูดง่ายๆคือ เข้าไปเป็นสมาชิกก็ว่ายากแล้วเพราะต้องแสดงผลงานวิทยาศาสตร์เป็นที่เข้าตากรรมการ
แต่การดำรงสมาชิกภาพยากกว่าเพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่าสมาชิกภาพ สมาชิกหลายคนจึงทะยอยถอนตัวออกไป การประชุมแลกเปลี่ยนและแสดงผลงานวิทยาศาสตร์ค่อยๆเลือนหายไป สมาชิกที่เหลือเร่งประชุมหาทางออกให้กับวิกฤติ แม้จะมีผู้ใหญ่ใจดีออกมาสนับสนุนเงินทุนให้ พร้อมพ่วงตำแหน่งประธานราชสมาคม (President of the Royal Society)
ไอแซก นิวตัน (Isaac Newton; 1642-1726)
แต่ดูเหมือนวิกฤตจะกลายเป็นหายนะเสียมากกว่า เหล่าขุนนางและนักการเมืองไม่ใช้ผู้บริหารองค์กรวิทยาศาสตร์ที่ดีเท่าไรนัก ปัญหาการขาดแคลนทุนทรัพย์และบุคลากรปัญญาชนทำให้สถานการณ์ของราชสมาคมเข้าใกล้ปากเหวทุกวินาที
เหมือนพระเจ้าจะลงโทษราชสมาคมซ้ำอีก นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญที่สุดที่คอยดูแลการจัดแสดงการทดลองอย่าง โรเบิร์ต ฮุก (Robert Hooke) เสียชีวิตลงในปี 1703 ทวีความรุนแรงของวิกฤตินี้ แต่ดูเหมือนมรณกรรมของฮุกจะเปิดทางให้นิวตันคู่ปรับตัวฉกาจที่ไม่สบอารมณ์ที่จะเจอฮุกเท่าไรกลับเข้ามามีบทบาทในราชสมาคมอีกครั้ง พร้อมกับแผนการในการรับตำแหน่งประธานราชสมาคมในวันเซนต์แอนดิวในปลายปีเดียวกับที่ฮุกเสียชีวิต
ผลการเลือกตั้ง 22 ต่อ 30 เสียงออกมาว่านิวตันได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานราชสมาคม หลังจากนั้นสองปีเขาก็รับตำแหน่งเป็นพัศดีโรงกษาปณ์ (Warden of the Mint) ด้วยต้องดำรงตำแหน่งสำคัญถึงสองตำแหน่งในเวลาพร้อมกัน ในระยะแรกๆเขาไม่มีเวลามาร่วมประชุม ทั้งยังใช้อำนาจสั่งการเพื่อมุ่งจะพัฒนาองค์กรให้มีมาตรฐานเท่ากับโรงกษาปณ์ที่เขาดูแล
นักวิทยาศาสตร์ที่ราชสมาคม
เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปเข้ารอย นิวตันมาประชุมเป็นประจำและเข้ามาช่วยราชสมาคมทางด้านธุรการมากกว่าทางด้านวิชาการ ในระยะแรกที่นิวตันมาบริหาร สิ่งที่เขาต้องรีบทำคือกำจัดฮุกออกไปจากราชสมาคม แม้ฮุกจะตายแล้วก็ตามแต่ความแค้นนี้ถ่ายทอดผ่านการพยายามที่จะลบฮุกออกจากประวัติศาสตร์ เราจึงไม่เหลือภาพเหมือนของฮุกหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่ภาพเดียว
นิวตันยังใช้อำนาจที่มีอยู่เต็มมือในการพิจารณาข้อพิพาทกรณีการค้นพบแคลคูลัสของนิวตันและไลบ์นิทซ์ (Leibniz–Newton calculus controversy) โดยคณะพิจารณาคดีก็คือประธานราชสามคม นั่นก็คือตัวนิวตันเอง! และผู้ชนะข้อพิพาทก็คือนิวตันเช่นกัน นิวตันถือได้ว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เล่นเกมการเมืองได้เก่งและสกปรกที่สุดคนหนึ่ง ระหว่างทางก็มีผู้คนมากมายพยายามโค่นเขาลงแต่ก็ถูกนิวตันเล่นเกมการเมืองใส่ ขจัดคู่แข่งทางการเมืองผ่านการวิจารณ์ผลงานผู้อื่น
ใครคิดแคลคูลัสก่อนกัน
แต่ถึงอย่างไรราชสมาคมในช่วงที่นิวตันเป็นประธานก็มีสามชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคู่ไปกับการต่อต้านนิวตันจนสิ้นสุดลงเมื่อเขาล่วงหลับไปอยู่กับพระเจ้าในปี 1727 จบตำแหน่งประธานราชสมาคมวิทยาศาสตร์ถึง 24 ปี และผู้ดำรงตำแหน่งมากมาย แต่ตำนานแห่งวงการวิทยาศาสตร์ยังคงเล่าขานต่อไป
การบริหารองค์กรวิทยาศาสตร์ควรมุ่งเน้นประโยชน์ที่คนในสังคมควรได้รับเป็นหลัก การขับเคลื่อนองค์กรด้วยคิดเห็นของสมาชิกจึงเป็นเรื่องสำคัญ แนวคิดเสรีประชาธิปไตยจะทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดแบะผลิตอวค์ความรู้วิทยาศาสตร์ใหม่ๆออกมา การเลือกตั้งหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์กรวิทยาศาสตร์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ อำนาจที่ได้มาเพื่อพัฒนาอาจเปลี่ยนเป็นการครอบงำสังคมแบบเผด็จการหากเราลงในอำนาจมากกว่าจะพัฒนาวิทยาศาสตร์ และนี่ถือเป็นเนื้อร้ายของวิทยาศาสตร์
สุดท้ายขอฝากประโยคของโทมัส จิฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 3 ที่กล่าวไว้ว่า “Liberty is the great parent of science and of virtue; and a nation will be great in both in proportion as it is free.” (เสรีภาพเป็นบ่อเกิดที่ยิ่งใหญ่ของวิทยาศาสตร์และคุณธรรม และประเทศชาติจะยิ่งใหญ่ในทั้งสองทางเมื่อมีอิสรภาพ)
RICHARD S. WESTFALL. NEVER AT REST | A Biography of Isaac
Newton; CAMBRIDGE UNIVERSITY PRESS
โฆษณา