ดังนั้นในการใช้งานเบรกเกอร์ RCCB จึงต้องเลือกค่า AT ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ให้มีค่าเท่ากันหรือค่า AT ของเซอร์กิตเบรกเกอร์น้อยกว่าค่า A ของเบรกเกอร์ RCCB ครับ
เบรกเกอร์กันไฟรั่ว RCBO เพื่อนๆจะสังเกตเห็นตัวอักษร C ที่ระบุอยู่บนเบรกเกอร์ซึ่งตัวอักษร C ตัวนี้หมายถึง Trapping Type ของฟังก์ชั่นเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่จะตัดวงจรเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดกระแสไฟฟ้าเกิน แบบ Type C ที่ถูกรวมเข้ามาอยู่ในตัวเบรกเกอร์กันไฟรั่ว ชนิด RCBO ครับ ( แต่ที่เบรกเกอร์ RCCB จะไม่มีการระบุค่า Trapping Type C ที่เบรกเกอร์ครับ )
ตัวอย่างเบรกเกอร์กันไฟรั่ว RCBO
เบรกเกอร์ที่นิยมใช้งานในประเทศไทยที่พบเห็นได้มากที่สุดจะเป็นเบรกเกอร์ที่ผลิตตามมาตรฐ IEC แบบ Type C ครับ
เงื่อนไขการตัดวงจรและไม่ตัดวงจรของเบรกเกอร์กันไฟรั่วชนิด RCCB และ RCBO ก็จะเหมือนกันครับ ยกตัวอย่างรูปเบรกเกอร์กันไฟรั่วตัวนี้จะระบุค่าการตัดวงจรเมื่อเกิดกระแสรั่ว I delta n ที่ 0.03 แอมแปร์ ( 0.03 A ) ก็คือ 30 มิลลิแอมแปร์ ( 30 mA ) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานขั้นต่ำทัวไป จะมีเงื่อนไขดังนี้ครับ
(1) กรณีที่มีกระแสไฟรั่วน้อยกว่า 0.5 เท่าของค่าพิกัด I delta n คือ กระแสไฟรั่วมีค่าน้อยกว่าครี่งนึงของ 30 mA ก็คือกระแสไฟรั่วมีค่าน้อยกว่า 15mA เบรกเกอร์ตัวนี้จะไม่ตัดการทำงานครับ แต่เบรกเกอร์ตัวนี้จะเริ่มตัดวงจรเมื่อมีกระแสไฟรั่วตั้งแต่ 0.5 เท่าของพิกัด I delta n ขึ้นไป นั่นก็หมายความว่า ถ้ามีกระแสไฟฟ้ารั่วตั้งแต่ 15mA ขึ้นไปเบรกเกอร์ตัวนี้จะตัดการทำงานครับ
(2) ถ้ากระแสไฟรั่วมีค่าเท่ากับพิกัด I delta n คือ มีกระแสรั่ว 30mA เบรกเกอร์ตัวนี้จะตัดการทำงานภายใน 0.3 วินาทีครับ
(3) ถ้ากระแสไฟรั่ว มีค่า 2 เท่าของพิกัด I delta n คือ มีกระแสรั่ว 60mA เบรกเกอร์ตัวนี้จะตัดการทำงานภายใน 0.15 วินาทีครับ
(4) ถ้ากระแสไฟรั่ว มีค่า 5 เท่าของพิกัด I delta n คือ มีกระแสรั่ว 150mA เบรกเกอร์ตัวนี้จะตัดการทำงานภายใน 0.04 วินาทีครับ