21 ต.ค. 2022 เวลา 13:00 • การศึกษา
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งกับนางสาวศรีสมร (หยอกๆ) พบกับบีมสุดสวยประจำกลุ่ม (เพราะมีคนเดียวค่ะ เล่นมุกเดิมอีกแล้ว แป๋ว..) วันนี้นะคะ บีมมีเรื่องที่อยากจะมาเล่าให้ทุกๆนอ่านกัน จำได้ไหมคะ ที่คุณวาวาผู้น่ารักเคยเขียนถึงตัวอย่างงานสื่อเคลื่อนไหวกับ Soft power ของผู้เล่นเบอร์ใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้
ในครั้งที่แล้วคุณวาวาผู้น่ารักบอกไว้ว่า จริงๆแล้วมีตัวอย่างที่น่าสนใจอีกบางประเทศที่ไม่ได้เอามาเขียนไว้ เนื่องจากกลัวว่าโพสต์จะยาวเกินไป (จริงๆแล้วคุณวาวา ขี้เกียจแหละ) เพราะฉะนั้นวันนี้ บีมจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังเองค่ะ
ตัวอย่างที่ยังไม่ได้ยกมาเลย นั่นก็คือ จีนและอินเดียค่ะ จริงๆทั้งสองประเทศไม่ได้มีความเคลื่อนไหวว่าจะใช้สื่อภาพยนตร์ในด้านsoft powerเลย ทั้งๆที่อุตสหกรรมบันเทิงของจีนมีสำคัญเป็นลำดับ 3 ของประเทศเลย มูลค่าของตลาดภาพยนตร์จีนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุกๆปี จีนจึงกลายเป็นตลาดภาพยนตร์ที่หลายชาติหมายปอง (เนื้อหอมจริงๆนะตัว) แต่เขาก็มีการวางโควต้าเพื่อลดจำนวนภาพยนตร์จากต่างประเทศ เพื่อป้องกันตลาดของตนเอง
จีนมีการเมืองภายในที่มั่นคง มีการเปลี่ยนแนวคิดจาก made in china เป็น made for the world โดยจะเปลี่ยนเป็นบริษัทสื่อกลางระหว่างผู้ให้ทุนกับผู้ควบคุมการผลิต พูดง่ายๆคือดูแลความเรียบร้อยในด้านเอกสารและทุน ประเมินความเสี่ยงให้กับนายทุน
ช่วงปี 2019 - 2020 งานภาพยนตร์กลุ่มซีรีส์จีนเริ่มได้รับความนิยมในต่างแดนมากขึ้น เช่น ปรมาจารย์ลัทธิมาร หรือเรื่องอื่นๆ แต่ยังมีจำนวนไม่มากพอ ที่จะสร้างผลลัพธ์แบบ soft power
นักแสดงนำ เซียวจ้าน และ หวัง อีปั๋ว จากซีรีส์ ปรมาจารย์ลัทธิมาร
จีนอาจจะต้องเพิ่มปริมาณการส่งออก รักษามาตรฐานและเมื่อประสมกับแผนการบุกตลาด ภาพยนตร์จีนจะได้เป็นเครื่องมือ soft power อย่างเต็มตัว
และต่อมากับอินเดีย บอลลีวูด คือทรัพยากรชั้นดีสำหรับ Indian soft power มีภาพยนตร์ไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในต่างแดน มีหลายเรื่องที่คุณภาพเทียบฮอลลีวูด นอกจากนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย ยังเข้มข้นมากกว่าในอดีต อย่างไรก็ตาม อินเดียยังไม่ได้มีความคิดมากไปกว่าการรักษาตลาดผู้ชมชาวอินเดียในฝั่งโพ้นทะเล โดยเฉพาะในอังกฤษและสหรัฐ งานศึกษาบางฉบับมองว่าอินเดียไม่ได้มองข้ามนโยบาย soft power เพียงแค่ติดอุปสรรคบางอย่าง
พูดง่ายๆ ภาพยนตร์อินเดียยังมีสถานะเป็นเครื่องด้านวัฒนธรรมสัมพันธ์มากกว่าจะเป็นเครื่องมือด้าน soft power เว้นแต่จะมีคนระดับรัฐมาสนับสนุน และได้มียุทธศาสตร์ (ยิ่งใหญ่ ความตั้งใจเด็ดเดี่ยว) มานำเหมือนมหาอำนาจรายอื่น
คังคุไบ ภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นการการันตีว่า บอลลีวูดกำลังขยับไปอีกขั้น
สรุปว่า ทั้ง2 ประเทศที่ยกเป็นตัวอย่างมีทรัพยากรที่เพียงพอต่อการทำ soft power ด้านภาพยนตร์ แต่อาจจะติดปัญหาเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น อาจจะมีภาพยนตร์เด่นๆไม่มากพอหรือรัฐไม่สนับสนุน แต่ทั้ง 2 ประเทศก็ถือได้ว่าถ้าเขาเอาจริง จะเป็นมหาอำนาจในด้านนี้
ก็จบกันไปแล้วนะคะ ในโพสต์นี้ข้อมูลอาจจะน้อยไปซักหน่อย เพราะว่าวันนี้ คือวันที่21 เรามีงานใหญ่รออยู่ค่ะ ขออุ๊บอิ๊บไว้ก่อนแล้วกัน แต่รับรองได้เลยว่า เซอร์ไพร์ส เตรียมรับความมันส์กันได้เลย พรุ่งนี้จะเป็นโพสต์ของน้องชายวาวาสุดน่ารักประจำกลุ่มของเรานะคะ (อวยเก่งเวอร์) สำหรับวันนี้ ก็ขอตัวลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโพสต์หน้า สวัสดีค่า
อย่าลืมเข้าไปติดตามเราได้ในช่องทางอื่น
อ้างอิง :
โฆษณา