ในพิธีบัลลงดอร์ รางวัลที่มีดราม่าเยอะที่สุด คือ "โกปา โทรฟี่" เพราะโหวตจากความรู้สึก ไม่ได้โหวตจากผลงานของนักเตะ เรื่องราวเป็นอย่างไร เราจะไปย้อนดูด้วยกัน
โกปา โทรฟี่ คือรางวัลที่มอบให้นักเตะอายุไม่เกิน 21 ปี ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในซีซั่น โดยนิตยสารฟรองซ์ ฟุตบอล ตั้งรางวัลนี้เพื่อเอามาสู้กับรางวัลโกลเด้นบอยของสำนักพิมพ์ตุ๊ตโต้สปอร์ตนั่นเอง
โกปา โทรฟี่ มีขึ้นครั้งแรกในปี 2018 โดยผู้ที่เคยชนะมาแล้วหนึ่งครั้ง จะไม่มีสิทธิ์เป็นแคนดิเดทอีก ซึ่งผู้ชนะรางวัลตั้งแต่ครั้งแรกประกอบด้วย
2018 - คีลียัน เอ็มบัปเป้ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)
2019 - มัทไธส์ เดอ ลิกต์ (ยูเวนตุส)
2020 - ไม่มีการแจกเนื่องจากเว้นช่วงโควิด
2021 - เปดรี (บาร์เซโลน่า)
2022 - กาบี (บาร์เซโลน่า)
สำหรับรางวัลในปี 2022 สาเหตุที่มันดราม่า เพราะผู้คนเชื่อว่ามีคนอื่นที่สมควรได้รับมากกว่ากาบี กองกลางจากบาร์เซโลน่า
ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เฮดโค้ชของบาเยิร์น มิวนิค เปิดหน้าวิจารณ์เลยว่า "ในมุมมองของผม จามาล มูเซียล่า กับ จู๊ด เบลลิงแฮม มีฤดูกาลที่ดีกว่าผู้ได้รางวัล"
ไม่ใช่แค่นาเกลส์มันน์ แต่แฟนบอลทั่วๆ ไป ก็คิดแบบนั้น มีทวีตหนึ่งเขียนว่า "กาบีชนะรางวัลนี้ แซงหน้ามูเซียล่า กับ เบลลิงแฮม นี่เป็นเรื่องตลกที่สุดในรอบศตวรรษ"
คือไม่ใช่ว่ากาบีไม่เก่ง เขาก็มีพรสวรรค์สูง แต่ปัญหาคือในฤดูกาลที่ผ่านมา เขาเทียบเรื่อง "ตัวเลข" กับมูเซียล่า และ เบลลิงแฮมไม่ได้เลย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน สถิติในฤดูกาล 2021-22 ทุกรายการ มีดังนี้
กาบี
- ลงเล่น 48 นัด
- ยิง 2
- แอสซิสต์ 6
- ใบเหลือง 15
- โทรฟี่ 0
เบลลิงแฮม
- ลงเล่น 44 นัด
- ยิง 6
- แอสซิสต์ 14
- ใบเหลือง 11
- โทรฟี่ 0
มูเซียล่า
- ลงเล่น 40 นัด
- ยิง 8
- แอสซิสต์ 6
- ใบเหลือง 2
- โทรฟี่ 2 (บุนเดสลีกา, เยอรมันซูเปอร์คัพ)
จะเห็นได้เลยว่า ถ้าเทียบกันด้วย "ตัวเลข" ไม่มีอะไรที่กาบี จะเหนือกว่าเบลลิงแฮม และมูเซียล่า ยกเว้นจำนวนนัดที่ได้ลงสนามแค่นั้น
ซีซั่นที่แล้ว กาบีไม่มีแชมป์อะไรเลย ยิงน้อยกว่า แอสซิสต์น้อยกว่า โดนใบเหลืองมากกว่า
ซีซั่นที่แล้ว กาบีลงเล่นในยูโรป้าลีก ส่วนมูเซียล่า ลงเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ขณะที่โปรแกรมทีมชาติ ซีซั่นที่แล้วก็ไม่ได้มีอีเวนต์อะไร ดังนั้นเราพอจะบอกได้ว่า ทุกสถิติ กาบีไม่มีอะไรเหนือกว่ามูเซียล่า และ เบลลิงแฮมเลย ไม่แปลกที่จะเกิดดราม่าขึ้น ว่ากาบีควรได้รางวัลจริงๆ หรือ? คุณใช้เกณฑ์อะไรตัดสินกันแน่
สำหรับคำอธิบายในดราม่านี้ เราจำเป็นต้องเข้าใจ "กฎการเลือก" ผู้ชนะโกปา โทรฟี่เสียก่อนว่ามันไม่เหมือนบัลลงดอร์
ในขณะที่บัลลงดอร์ คนโหวตคือนักข่าวทั่วโลก โหวตโดยมีเกณฑ์ชัดเจนว่า คำนึงถึงผลงานส่วนตัว ก่อนโทรฟี่แชมป์ที่มีร่วมกับทีม ทำให้คาริม เบนเซม่า ที่เป็นดาวซัลโวทั้งลาลีกา และ แชมเปี้ยนส์ลีก เข้าป้ายเป็นอันดับหนึ่งแบบสบายๆ
แต่โกปา โทรฟี่นั้น โหวตโดย "ความรู้สึก"
โกปา โทรฟี่ ไม่ได้โหวตด้วยนักข่าว แต่ฟรองซ์ ฟุตบอล จะให้เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ที่ยังมีชีวิตอยู่ (และสามารถมาโหวตได้) เป็นคนโหวต เลือกผู้ชนะดาวรุ่งแห่งปี โดยจะเลือกอันดับ 1 2 3 ที่ตัวเองคิดว่ายอดเยี่ยมที่สุดในปีนั้น
อันดับ 1 ได้คะแนนเยอะสุด อันดับ 2 และ 3 ก็ได้คะแนนลดหลั่นกันลงมา
คนที่มีสิทธิ์โหวตเช่น เดนิส ลอว์ , ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ , รุด กุลลิท , ซีเนอดีน ซีดาน, ริวัลโด้ , หลุยส์ ฟิโก้ ,ไมเคิล โอเว่น, พาเวล เน็ดเว็ด รวมถึง นักเตะยุคปัจจุบันที่เคยได้บัลลงดอร์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลีโอเนล เมสซี่, ลูก้า โมดริช พวกนี้ก็มีสิทธิ์โหวตทั้งหมด
แต่บางคนที่ไม่พร้อมมาโหวต เช่น เซอร์บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ที่อายุ 85 ปีแล้ว, จอร์จ เวอาห์ ที่ทำหน้าที่ประธานาธิบดีของไลบีเรีย หรือ มิเชล พลาตินี่ ที่ยังติดคดีความคอรัปชั่นอยู่ กลุ่มนี้ก็ข้ามไป ไม่เป็นไร
ไอเดียการโหวตด้วยอดีตนักเตะบัลลงดอร์ ฟังเผินๆ ก็เป็นแนวคิดที่ดี เพราะจะมีใครสามารถตัดสินพรสวรรค์ของดาวรุ่ง ได้ดีไปกว่านักเตะผู้อยู่จุดสูงสุดของโลกกันล่ะ
แต่เมื่อมองลึกลงไป การโหวตแบบนี้ มันมีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ คือคนโหวตอาจเทใจเลือกดาวรุ่งที่อยู่สโมสรที่ตัวเองเคยสังกัดอยู่ก็ได้ ไปๆ มาๆ มันเลยกลายเป็นการเลือกด้วยความรู้สึก ด้วยความชอบส่วนตัว มากกว่าเลือกด้วยผลงานที่แท้จริง
ตัวอย่างเช่น การเลือกผู้ชนะโกปา โทรฟี่ ในปี 2021
- โลธาร์ มัทเทอุส อดีตนักเตะบาเยิร์น มิวนิค เลือกมูเซียล่า อันดับ 1
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลือกเมสัน กรีนวู้ด ที่เป็นรุ่นน้องแมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 1
- มัทเธียส ซามเมอร์ อดีตนักเตะดอร์ทมุนด์ เลือกจู๊ด เบลลิงแฮม อันดับ 1
- ลีโอเนล เมสซี่ เลือกเปดรี รุ่นน้องจากบาร์เซโลน่า อันดับ 1
ในปีที่แล้วนั้น มีจุดที่น่าสนใจก็คือ อดีตนักเตะบาร์เซโลน่าทุกคน ที่เคยได้บัลลงดอร์แล้วมาร่วมโหวต ประกอบด้วย หลุยส์ ซัวเรซ (กองหน้าสเปน ยุค 1960) ,ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ, ริวัลโด้, หลุยส์ ฟิโก้, โรนัลดินโญ่ ,ลีโอเนล เมสซี่
ทั้งหมดโหวตให้ เปดรี เป็นอันดับหนึ่งอย่างพร้อมเพรียงกัน และใน 6 คนนี้ ไม่มีใครโหวตให้มูเซียล่าเลยใน 3 อันดับ แต่ไปโหวตให้บูกาโย่ ซาก้าบ้าง หรือ นูโน่ เมนเดสบ้าง หลายคนจึงมองว่า เป็นกลยุทธ์ที่นัดแนะกันมาหรือเปล่า เพื่อตัดแต้ม มูเซียล่า และ เบลลิงแฮม
ปีที่แล้ว ผู้ชนะรางวัลคือเปดรี แต่ครั้งนั้นก็ไม่ค่อยมีดราม่าเท่าไหร่ เพราะปีที่แล้ว เปดรี ก็เด่นในระดับหนึ่ง พาสเปนเข้ารอบรองชนะเลิศยูโร ตามด้วยเหรียญเงินโอลิมปิก ผลงานจับต้องได้ คือได้รางวัลก็เข้าใจได้
แต่มาปีนี้ เมื่อผู้ชนะเป็นกาบี จากบาร์เซโลน่า ทั้งๆ ที่ ไม่ได้มีผลงานเทียบไม่ได้กับแคนดิเดตคนอื่น จึงเกิดคำถามว่า ถ้ากลุ่มอดีตนักเตะบัลลงดอร์มีการนัดแนะกันว่าจะระดมโหวตให้ใคร แบบนี้รางวัลโกปา โทรฟี่ จะยังเชื่อถือได้แค่ไหน มันจะกลายเป็นรางวัลของพวกพ้องที่ช่วยดันกันเองหรือเปล่า
บทสรุปของเรื่องนี้ ถามว่า กาบีผิดไหมที่ได้รางวัล คำตอบคือ ก็ไม่ผิด ก็เขาได้คะแนนโหวตมากสุด แต่คำถามอยู่ที่ กฎการโหวตต่างหาก ที่ส่อแววจะนำมาซึ่งดราม่าได้
- ไม่มีเกณฑ์การโหวตที่ชัดเจน เน้นความรู้สึกส่วนตัว
- อดีตนักเตะบัลลงดอร์ หลายคน มีความสัมพันธ์กับสโมสรของดาวรุ่ง
- ไม่มีคะแนนเสียงจากนักข่าวเข้ามาถ่วงดุล
แต่ความซับซ้อนก็อยู่ที่ ถ้าเปลี่ยนมาใช้ สถิติก่อนความรู้สึก แล้วแบบนี้นักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์อย่างเปดรี หรือ กาบี รวมถึงเซ็นเตอร์แบ็คอย่างเดอ ลิกต์ จะมีสิทธิ์ได้รางวัลนี้ได้อย่างไร เพราะยังไงสถิติยิงและแอสซิสต์ก็ต้องเป็นรองตัวบุกอย่างมูเซียล่าอยู่แล้ว
บางคนบอกว่า ในการมอบรางวัลเยาวชน การโหวตด้วยความรู้สึก อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีด้วยซ้ำ ดูจากองค์ประกอบทักษะโดยรวม ไม่ต้องไปอิงกับสถิติให้เยอะเกินควร
ดังนั้นเมื่อมีคนเห็นไม่ตรงกัน การถกเถียงก็เลยเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอน ทางฟรองซ์ ฟุตบอล ก็คงเห็นปัญหานี้แล้วและ น่าสนใจดีว่าในการมอบรางวัลปีหน้าพวกเขาจะทำอย่างไรให้เสียงวิจารณ์น้อยลงกว่านี้
ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าปีหน้า อันซู ฟาติ (19 ปี) ชนะโกปา โทรฟี่อีกสักคน แล้วบาร์ซ่าได้รางวัลนี้สามปีซ้อน นึกไม่ออกเลยว่า ดราม่าจะเพิ่มดีกรีความหนักหน่วงขนาดไหน
สุดท้ายแล้ว การสรรหาดาวรุ่งยอดเยี่ยม มันควรอิงจากความรู้สึกว่าคนนี้เล่นดี เป็นหัวใจของทีมตั้งแต่อายุน้อย หรือ อิงจากสถิติ อิงจากตัวเลขที่จับต้องได้ชัดเจน เรื่องนี้ยังเป็นคำถามที่ตอบได้ยากจริงๆ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
