28 ต.ค. 2022 เวลา 12:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🚗ครูพักลักคนขับรถ Chauffeur Knowledge👨🏻‍✈️
ในการบรรยายวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับฟิสิกส์ในเมืองมิวนิก วิทยากรเริ่มบรรยายวิชาใหม่สุดแปลกประหลาดที่พูดถึงพลังงานที่เป็นก้อนๆ เขาเรียกมันว่า Quanta ชายคนนี้เล่าเรื่องราววิทยาศาสตร์ออกมาได้อย่างน่าสนใจและสร้างความประหลาดใจให้ผู้ฟังในความสามารถของเขา เมื่อบรรยายจบมีผู้ฟังยกมือสอบถาม วิทยากรกลับตอบผู้ถามไปว่า “ผมรู้สึกแปลกใจในความก้าวหน้าของเมืองมิวนิกแห่งนี้ที่ผมเพิ่งได้รับคำถามไป จะดีกว่าถ้าให้คนขับรถของผมเป็นคนตอบ”
เหตุการณ์โอละพ่อเมื่อนักวิทยาศาสตร์สลับตัวกับคนขับรถของตน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่เราไม่ทราบ แต่คนขับรถคนนั้นที่รอตอบคำถามคือ Max Planck บิดาเเห่งกลศาสตร์ควอนตัมนั่นเอง เรื่องวุ่นๆเหมือนพล็อดละครหลังข่าวที่เจ้านายสลับตัวกับคนใช้นี้มีชื่อว่า Chauffeur Knowledge
มักส์ พลังค์ (Max Planck; 1858-1947)
บนโลกของเรามีคนเก่งอยู่สองประเภท ประเภทที่พบได้ทั่วไปที่สุดคือคนที่อ่านหนังสือมาเยอะ ฟังมามาก แต่เมื่อต้องถ่ายทอดความรู้กลับเหมือนการเอาหนังสือมาเล่าให้ฟัง คนประเภทนี้เมื่อเจอกับคำถามนอกตำราและต้องใช้การวิเคราะห์ก็จะเริ่มไปไม่เป็น เหมือนเหตุการณ์โชเฟอร์ (Chauffeur) หรือคนขับรถที่เล่าไป
นึกถึงเหตุการณ์ง่ายๆเวลาเรานั่งรถแท็กซี่และคนขับเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับสถานการณ์การบ้านเมืองหรือประวัติศาสตร์ เขาเหล่านั้นจะพูดออกมาดังเรียนจบรัฐศาสตร์และการเมืองมาอย่างไรอย่างนั้น แต่เมื่อเราเริ่มถามถึงเนื้อหาที่ลึกซึ้งเช่น ประชาธิปไตยคืออะไร ความเท่าเทียมคืออะไร คำตอบที่ออกมามักเป็นคำนิยามในหนังสือหรือก็เลี่ยงไม่ตอบไปเลย
เราคงหาคนขับรถที่หาหนังสืออ่านหรือเข้าถึงความรู้ได้ยาก ตราบที่พวกเขาต้องดิ้นรนในสังคมที่มีแต่ความไม่แน่นอนต่างๆ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการศึกษา ที่สงวนไว้แต่ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
ความรู้เเบบโชเฟอร์จะเห็นได้ชัดจากคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์จริง ไม่เคยศึกษาจริง เรียนรู้ผ่านการท่องจำมาเล่าโดยขาดความเข้าใจในเรื่องนั้นๆด้วยซำ้ เขามักใช้ศัพท์แสงเยอะๆโดยไม่จำเป็น ตอบแบบคลุมเคลือหาสาระไม่ได้ (อาจเจอบ้างในวงวิชาการ แต่เราต้องตระหนักเสมอว่า ในบางครั้งก็เลี่ยงไม่ได้จริง ซึ่งไม่ได้แปลว่านักวิชาการคนนั้นมีความรู้แบบคนขับรถ) และหากมีใครถามอะไรนอกเหนือจากที่จำมา เขาเหล่านั้นไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสังเคราะห์เป็นคำตอบได้เลย
แต่คงเป็นการยากที่เราจะแยกคนรู้แบบโชเฟอร์ออกจากคนที่รู้จริง หลายครั้งที่เราอ่านบทความหรือฟังคลิปจากหลายๆที่ในแต่ละสาขาวิชา ผู้เล่านั้นก็มีหลายประเภท ตั้งแต่ประเภทที่ลงลึกเข้าใจเนื้อหาก่อนเริ่มการเล่าเรื่อง สอดแทรกการวิเคราะห์ประกอบความรู้ที่นำเสนอ ประเภทเข้าไปในอินเทอร์เน็ตและค้นหาคีย์เวิร์ด นั่งแปลบทความโต้งๆเลยก็มี การเขียนหรือพูดถ่ายทอดความรู้จึงมีทั้งที่รู้จริง อ่านเจอ หรือแค่กด ctrl C ก็พบได้ทั่วไป ทำให้บางครั้งก็เห็นได้ชัดแต่หลายครั้งก็อาจไม่รู้จนคิดว่าผู้เล่านั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ
วิทยาศาสตร์เรื่องหนึ่งที่มีคนที่มีความรู้แบบคนขับรถมาเล่าเยอะมาก คือเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพและฟิสิกส์ควอนตัม จากความนิยมไม่ว่าจากภาพยนตร์วิทยาศาสตร์หรือหนังสือ Pop science ที่ดูอ่านง่าย เข้าใจในไม่กี่ประโยค แต่ส่วนมากแล้วผู้เล่าหลายคนขาดความเข้าใจเนื้อหาจริง เราต้องยอมรับว่าการเล่าในบางครั้งก็เกิดความคลาดเคลื่อนทางแนวคิด (misconception) ผลอันเนื่องมาจากการเล่าจนง่ายเกินไป (oversimplified) ตัดเนื้อหาบางอย่างออก เล่าบางอย่างเกินเป็นต้น
ความรู้และเรื่องเล่าวิทยาศาสตร์นั้นก็มีหลายแบบ ทั้งการเล่าข่าวสารทั่วไป การอ่านหนังสือมาเล่าเนื้อหาวิทยาศาสตร์ด้านใน น้อยครั้งที่เราจะเอาวิทยาศาสตร์ไปจับกับเรื่องทั่วไป เช่น ประวัติศาสตร์ ปรัชญา การเมือง การโยงความรู้เข่นนี้คงยากหากเราเพียงอ่านหนังสือเพื่อจำมาตอบ ไม่จำว่านักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงเรื่องไม่ได้ไม่ใช่คนไม่รู้จริง เพียงแต่พวกเขามีความรู้ที่ลงลึกในสาขานั้นๆ
แต่ในฐานะที่เราจะสื่อสารวิทยาศาสตร์ออกไปให้คนนอกวงการ การเสนอเพียงความเป็นวิทยาศาสตร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็อาจยากสำหรับคนเรียนสาขาอื่นมา เราจึงอาจต้องการคนที่เข้าใจวิทยาศาสตร์จริงๆควบคู่ไปกับความรู้สาขาอื่นๆด้วย เพื่อเติมเต็มช่องว่างในการสื่อสารวิทยาศาสตร์
ไอน์สไตน์ได้กล่าวไว้ “Any fool can know. The point is to understand.” ฉะนั้นหลายคนคงเริ่มต้นจากการเป็นคนขับรถที่อยากมีความรู้ หมั่นศึกษาเพื่อนำมาเล่า การที่คุณจะพัฒนาจากความรู้แบบโชเฟอร์สู่ผู้รู้จริง คือการยอมรับว่าตนรู้และไม่รู้อะไร เมื่อมีคำถามก็พร้อมจะตอบคำถามทุกครั้ง
“Any fool can know. The point is to understand.” -Albert Einstein
เเม้จะตอบไม่ได้แต่ก็ยอมรับที่จะตอบคำว่า “ไม่ทราบครับ ไว้ผมจะไปศึกษามาใหม่” และเมื่อออกจากขอบเขตที่ตนรู้และเชี่ยวชาญ ก็พร้อมจะรับฟังความรู้อื่นควบคู่ไปด้วย เปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและไม่ทรงนงในความรู้ของตนเอง
1
โฆษณา