22 ต.ค. 2022 เวลา 06:13 • คริปโทเคอร์เรนซี
โปรเจ็ค NFT ใหญ่ๆเขาสร้าง Brand กันยังไง? ทำไมเขาถึงดัง? แต่ก็มีความยากที่จะทำให้ดังเช่นกันนะครับ ยิ่งถ้าเป็นอย่างทุกวันนี้ก็คูณความยากที่จะทำให้โปรเจ็คดังไปเลย 10 เท่า วันนี้ผมจึงจะมาเล่าให้ฟังครับ เผื่อจะมีประโยชน์ต่อหลายๆคน
การสร้างโปรเจ็ค NFT ขึ้นมา ไม่ยากเลย แต่ความยากคือการขาย! ทุกวันนี้มีโปรเจ็คออกใหม่มาทุกวันๆ และเดือนๆนึงไม่รู้กี่พันโปรเจ็คการที่เราจะเป็น 1% ที่รอดได้ต้องทำอย่างไร
มีวิธีการหลากหลายรูปแบบมาก แต่ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน และที่สำคัญไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุด อยู่ที่ว่าโปรเจ็คคุณเข้ากับวิธีไหนมากกว่า และ!! ไม่มีสูตรสำเร็จ!!
วิธีที่จะทำให้คนสนใจโปรเจ็คคือ
- joint twitter spaces - เข้า ฟัง-พูด-คุย ใน space บ่อยๆจะทำให้คนจำเราได้
- meme contests - ทำมีม ร่วมกิจกรรมทำมีมของโปรเจ็คอื่นๆ หรือแม้แต่การนำมีมเราไปใช้ใน discord ของโปรเจ็คนั้น
- closing the discord to create FOMO - ปิด discord ให้เกิดการ FOMO จะทำให้คนอยากเข้า อยากรู้ว่าข้างในมีอะไร? และคนที่เข้าได้จะรู้สึกเท่
- puzzles - ทำเกมให้คนเข้ามาร่วมสนุก
- raffles - ลุ้นหวย เพื่อให้เกิด demand ในการซื้อ ( ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิ์ซื้อ คนที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ซื้อ ) ทำในทวิตหรือในห้อง Discord ก็ได้ เวลาทำ raffle พยายามทำยังไงก็ได้ให้มันสนุก เคยมีโปรเจคนึงเปิดเพลงแล้วทำ raffle อย่างมันส์
- like/follow/retweet giveaways - ที่เราเคยเห็นๆกันในทวิตเตอร์นั้นแหละครับ like/follow/retweet เพื่อลุ้นรับของรางวัล ( ของฟรีใครจะไม่ชอบ? ) และอีกอย่าง ถ้าแจกเงินคนจะยิ่งชอบกว่าการแจก NFT
- paid ads - ยิง ads โฆษณา ( ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ )
- เป็น Partner กับโปรเจ็คอื่นๆ หรือแม้แต่การ collab กันด้านศิลปะก็ถือว่าได้ผลดีเช่นกัน
- สร้าง Story ให้กับงาน การมี Story จะทำให้งานมีมูลค่ามากขึ้น ลองส่องโปรเจ็ค
3Landers ดู ( แต่งานจะต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง งาน Art ต้องดีก่อน )
- อย่าขายของอย่างเดียว พัฒนาตัวเราเองด้วย เช่นการเขียน Tread ทวิตในสิ่งเราชอบ เราเข้าใจ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เราจะสามารถดึงคนให้เข้ามาเห็นผลงานของเราได้มากขึ้น
- การมี Utility จะช่วยดึงดูด Holder ได้ดีมากกว่า ถ้าเราทำให้มันน่าสนใจและ ต่างแตกจากที่โปรเจ็คอื่นๆมี
- ต้องพยายามพาตัวเองเข้าไปทำความรู้จัก community ให้มากขึ้น แล้วเขาก็จะเห็นผลงานของเราเอง ว่าเราทำอะไร ไม่ต้องเข้าไปเพื่อขาย เข้าไปเพื่อต้องการทำความรู้จัก แค่เราได้เพื่อนเพื่อขึ้นก็ถือว่ากำไรแล้ว และถ้าเข้าไปใน community ไหนเราควรทำตัวเราให้มีประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย
*** และวิธีที่ได้ผลมากที่สุด คงหนีไม่พ้น Organic Marketing ***
มันคือการสร้างกลุ่มเพื่อน การมี connection เยอะๆ เราจะต้องจริงจังกับมันมากๆ ต้องใช้เวลา 3 ส่วน 4 ของวันนั้นอยู่กับ community เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี
พยายามเข้าไปทักมายเพื่อนๆใน twitter พูดคุยกับเพื่อนๆใน discord พยายามหาเพื่อนให้ได้มากที่สุด ชีวิตประจำวันขอองเราทุกวันต้องเป็นแบบนี้ เราต้อง All in กับมัน อย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นๆในวงการรู้จักเรา พอเรารู้จักกับหลายๆคนแล้ว เขาก็จะสนใจในตัวเราเอง
และหลังจากนั้นก็จะมีคนจำนวนนึงเข้าไปดูโปรไฟล์คุณ และเขาก็จะรู้ว่าเรามีโปรเจคเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปเปล่าประกาศให้คนเขารำคาญหรอกครับ ( ไม่ได้ต้องการจะบอกว่าการ Shill ไม่ดีนะครับ บางครั้งมันก็ตอบโจทย์ ยังไงการ shill ก็ต้องมีอยู่แล้ว เป็นการแจ้งกิจกรรมของโปรเจ็คอย่างนึง )
การเติบโตแบบ organic เป็นอะไรที่ส่งผลต่อตัวเราในระยะยาวได้จริงๆ แต่การเติบโตแบบ organic มันต้องใช้เวลาและความพยายามที่สูงมาก อาจจะเกิดการเหนื่อยการท้อได้ แต่มันคุ้มค่ามาก ที่เราจะได้เจอกลุ่มคนที่เห็นค่าวิสัยทัศน์ของเรา และกลุ่มคนที่สนใจใน project ของเราจริงๆ
พวกเขามาเพราะสนใจและชอบในตัวงานของเราจริงๆไม่ใช่คนที่มาเพราะ tag เพื่อน 3 คนแล้วดันฟลุ๊คได้สิทธิ mintlist และมองหาแต่โอกาสที่จะทำกำไร ( ยืมบทความนี้มาจากพี่กันนะครับ เพจ Ape x crypto ขออนุญาตนะครับพี่ ) และผมขอย้ำอีกครั้งว่า การเติบโตแบบ organic จะดีต่อตัวเองมากที่สุดครับ
แหล่งในความรู้มาจาก พี่กัน และ Zeneca นะครับ ไปติดตามวกเขาได้ พี่กันอยู่เพจ Ape x crypto และ zeneca ครับ ขอบคุณครับ
โฆษณา