ทรู (true & dtac) ดีแทค กับ 5 เหตุผลที่ต้องควบรวม
ประเด็นร้อนๆ ของประเทศวันนี้เรื่องค่ายมือถือก็คงเป็นหนึ่งในนั้น ส่วนว่าจะได้ควบรวมมั้ยก็คงต้องรอดูต่อไป หรือเมื่อควบรวมแล้วจะส่งผลอย่างไรก็ว่ากันในอนาคตอีกทีนะครับ
แต่ตอนนี้ขออนุญาตวิเคราะห์ก่อนแล้วกันนะครับว่าทำไม true ถึงอยากที่จะควบรวมจนเกิดกระแสต่อต้านกันในวงกว้างปัจจุบัน
ขอขอบคุณ ภาพ และข้อมูลจาก marketeer online
1. ปัจจุบัน ทรู ประสพปัญหาขาดทุน จากข้อมูลด้านบนเทียบกับคู่แข่งแล้ว ดูเหมือนจะมี performance ที่ดูไม่ดีเท่าไร ส่วนตัวผมว่านี่เองเป็นปัญหาสำคัญที่สุด ในเชิงธุรกิจย่อมไม่มีเหตุผลใดสำคัญไปกว่ากำไร หรือขาดทุน แม้ว่าหลายๆ ธุรกิจจะบอกว่าไม่ได้หวังผลกำไรเป็นลำดับแรก แต่ในฐานะผู้บริหารย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลต่อ performance ส่วนบุคคล รวมไปถึงภาพที่ผู้ถือหุ้นมองมายังตัวผู้บริหาร
2. เป็นโอกาสที่จะได้ฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน true มีลูกค้าเป็นอันดับ 2 และ dtac เป็นอันดับ 3 เมื่อควบรวมกันก็จะส่งผลให้แซงขึ้นเป็นอันดับ 1 ทันที ต้องยอมรับว่าวิธีนี้ง่าย และไวที่สุด หลายๆ กิจการเลือกใช้วิธีนี้เพราะ การจะมีลูกค้าที่อยู่กับเรายาวนานการสร้างและรักษาเป็นเรื่องที่ยาก และใช้เวลา การลงทุนแบบนี้รวดเร็วและเห็นผลทันทีชั่วข้ามคืน และอาจจะส่งผลต่อจำนวนผู้ใช้บรอดแบรนด์ อาจจะเพิ่มสูงขึ้นจากลูกค้าของ dtac
3. รายได้เติบโตเป็นระดับ 1 แสนล้าน อย่างที่กล่าวไว้ในข้อก่อนหน้านี้การจะสร้างลูกค้า และยอดขายให้ก้าวกระโดดมากๆ เป็นเรื่องยากแต่ถ้าใช้วิธีควบรวมจะได้แบบรวดเร็วกว่าสร้างเอง และอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าด้วย และที่สำคัญส่งผลต่อมูลค่าหุ้น มูลค่าตลาด และอื่นๆ ที่จะตามมาจากยอดขายมหาศาลนี้ด้วย
4. ได้คลื่นความถี่เพิ่มโดยอัตโนมัติ จากข้อมูลจะเห็นว่า 3 ค่ายดังถือครองคลื่นความถี่คนละช่อง เมื่อเกิดการควบรวมสิทธิ์นั้นก็จะตกไปถึ true โดยอัตโนมัติ ทำให้บริการได้ครอบคลุมกว่าเดิม และย่อมส่งผลถึงเสาสัญญาณต่างๆ ที่ทาง dtac มีอยู่ ก็จะตกเป็นของ true ด้วย ก็หมายความว่าอาจจะดีกว่าการลงทุนสร้างเสาเองในแต่ละจุด ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายได้อีก
5. โอกาสมาต้องคว้าไว้ เมื่อเหตุผลหลักคือการต้องแก้ไขให้ ทรู เกิดกำไร และ dtac พร้อมที่จะขายกิจการ จึงไม่อาจปฏิเสธโอกาสนี้ได้ ยิ่งส่งผลต่อการลด หรือเพิ่มจำนวนคู่แข่งในธุรกิจโดยตรงด้วยแล้ว การที่เปลี่ยนคู่แข่งมาเป็นของตัวเองย่อมดีกว่า เปิดโอกาสให้เกิดคู่แข่งใหม่เข้ามาในกรณีที่มีรายใหม่จากต่างประเทศมาซื้อกิจการแทน อาจจะทำให้ true ต้องเหนื่อยกว่าเดิม หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้น ais เกิดควบรวมได้ขึ้นมาละก็…. true คงแย่มากๆ ฉะนั้นนอกจากจะเป็นทั้งโอกาสของ true เองแล้วยังเป็นการปิดโอกาสคู่แข่งในอนาคตด้วย
อีกทั้ง รูปแบบการทำธุรกิจเครือ CP นิยมใช้กลยุทธ์ควบรวม ซึ่งในฐานะคนมีเงินย่อมเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เพราะลดเวลา และค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เยอะซึ่งอาจจะถูกกว่าต้องสร้างเองตั้งแต่ต้น และเพิ่มมูลค่าธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง ธุรกิจนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ไล่ตั้งแต่ค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ เสาสัญญาณ และ shop ต่างๆ อีกมากมาย ทำให้เชื่อได้เลยว่า เมื่อเหลือแต่ 2 ค่ายในอนาคตก็ยากที่ คู่แข่งรายใหม่จะเข้ามาในประเทศไทยได้ง่ายๆ อีกแล้ว
ทั้งหมดเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน ที่ติดตาม ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ฝากกด like กด แชร์ รวมแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันได้นะครับผม
ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพประกอบจาก marketeer online ครับ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
