22 ต.ค. 2022 เวลา 14:03 • การ์ตูน
EP : 1,143
ChoujinX
หลังจากสร้างชื่อกับมังงะผีดิบชื่อดังอย่าง “Tokyo Ghoul” ชื่อของ อ. SUI ISHIDA ก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในฐานะที่มีเรื่องนี้(แต่ยังอ่านไม่จบ) ก็ต้องยอมรับว่า Tokyo Ghoul ได้สร้างบรรยากาศของมังงะแนวผีดิบที่มีโทนดิบและน่าหลงไหลออกมาได้อย่างน่าชื่นชม
และนี่คือผลงานใหม่ล่าสุดของ อ. ISHIDA ที่ผมเพิ่งได้อ่านเล่มแรกจบ กับงานที่มีทั้งเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ อ. และความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอในงานก่อนๆ กับโลกที่เต็มไปด้วย “เหล่ายอดมนุษย์”​ ใน “ChoujinX”
… แม้โลกทั้งโลกตอนนี้จะเปลี่ยนไป หลังจากการเกิดขึ้นของเหล่า “ยอดมนุษย์” ดินแดนที่เรียกว่า “ประเทศ” ก็แตกและต้องปรับเปลี่ยนสู่ยุคที่มีแต่ “เขตการปกครอง” .. ในโลกที่ตอนนี้แบ่งแยกเป็นเขตปกครองแบบนี้ “อาสึมะและโทคิโอะ” คือสองเพื่อนซี้ที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองยามาโตะด้วยกัน
… แม้จะเป็นเพื่อนซี้กัน แต่ทั้ง 2 แตกต่างกันอย่างมาก ในวงกว้าง “อาสึมะ” คือชายผู้พึ่งพาได้ แข็งแกร่ง และพร้อมไฟว้กับทุกคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวายหรือสร้างปัญหาให้กับเขตปกครองแห่งนี้ ในทางกลับกัน “โทคิโอะ” คือไอ้หนุ่มด้อยฝีมือ ที่ทำได้เพียงสนับสนุนช่วยเหลือ อาสึมะอยู่หลังแผ่นหลังอาสึมะอยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่หลายๆคนในเขตยามาโตะนี้จะเรียกโทคิโอะว่า “อีแร้งโทคิโอะ”​
… เเต่ไม่ว่าใครจะนินทาว่าร้ายโทคิโอะอย่างไร คาสึมะก็ไม่เคยทำท่าทางดูถูกเขาเลย ยังคงให้ความสนิทกับเขาเหมือนเดิม จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่งที่ทั้งคู่พบว่า พวกเขาได้เจอปัญหาใหญ่ เพราะคู่อริที่กลับมาแก้แค้นพวกเขานั้น ไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป พวกมันได้ฉีดยาบางอย่างและกลายร่างเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ยอดมนุษย์” ไปแล้ว และพวกมันก็มีพลังเกินกว่าที่มนุษย์อย่างเขาจะต้านทานได้
เพราะแบบนั้นทางเลือกสำหรับการมีชีวิตรอดจึงมีหนทางเดียว นั่นก็คือการฉีดยาแบบเดียวกันที่พวกเขาได้มันมาระหว่างหนีอย่างหัวซุกหัวซุน และเขาก็รู้ดีว่าหลังจากฉีดยาเข็มนี้ไปแล้ว พวกเขาจะไม่อาจกลับมาเป็นคนธรรมดาได้อีกต่อไป และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการเป็นยอดมนุษย์โดยที่ได้คาดคิดไว้ในค่ำคืนสุดท้ายของการเป็นมนุษย์ใน “ChoujinX”
เรื่องที่แล้วพูดเกี่ยวกับ “ผีดิบ” เรื่องนี้พูดถึง “ยอดมนุษย์” ผมมองว่านี่คือความเหมือนที่แตกต่างเพราะทั้ง 2 เรื่องนี้นำเสนอสิ่งที่คล้ายๆกันนั่นก็คือ โลกของความแฟนตาซี โดยแม้มันอาจจะไม่ใช่แบบเดียวกันเเป๊ะ แต่เราเห็นได้เลยว่านี่คือเรื่องราว ของตัวเอก ที่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงจาก “มนุษย์”กลายเป็นสิ่งที่ “ไม่ใช่มนุษย์” แต่สุดท้ายผมก็เชื่อว่า อ. เขาก็จะพูดความไม่เป็นมนุษย์นี้ ให้อยู่ในกรอบความเป็นมนุษย์อยู่ดีแหละครับ
ตัวเรื่องเล่าด้วยโทนและใช้วิธีที่แตกต่างจาก “Tokyo Ghoul” อย่างเห็นได้ชัดครับ ถ้าหากใครจำเรื่อง TG ได้เราจะพบว่าเรื่องนั้นเปิดตัวด้วยตัวเอกและเน้นไปที่ตัวเอกเป็นสำคัญ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ครับ เปิดตัวด้วยความสับสน และสร้างความงุนงงให้กับเราได้อย่างมาก ด้วยความที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยบกับเรื่องนี้เลย การที่อยู่ๆ เรื่องเปิดมาก็แสดงจัดหนักให้เห็นเลยนั้น มันคือความเสี่ยงที่จะสร้างความสับสนหากใครไม่ถนัดเรื่องการปะติปะต่อเรื่องราวครับ
ก่อนที่เรื่องจะค่อยๆ แกะและขยายความเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนแรก ซึ่งบอกได้เลยว่าก็ยังดูสับสนและเต็มไปด้วยความโฉ่งฉ่าง ซึ่งวิธีการเล่าแบบนี้ไม่พบเจอในเรื่อง TG ก่อนหน้านี้ครับ
อาจจะด้วยตัวเอกของเรื่องนี้ที่ อ. วางไว้มีมากกว่า 1 คนชัดเจน อ. ถึงเลือกใช้วิธีเล่าเรื่องแบบนี้ ซึ่งผมไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ในงานของ อ. ครับ
เพราะฉะนั้นหากมองจากเล่มแรกนี้ ผมว่าเรื่องนี้เปิดตัวมาด้วยความโฉ่งฉ่างในการนำเสนอ ในขณะที่ TG มาแบบเรียบๆ ก่อนจะพาเราเข้าไปสู่ความมืดของเรื่องราว นั่นก็อาจเป็นเพราะพล็อตของเรื่องนี้มันแฟนตาซีกว่า TG ก็เป็นได้
แต่ในความต่างที่ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้โทนเรื่องจะออกมาแนวที่สว่างกว่า TG ก็อาจจะเป็นความคิดที่ผิดก็ได้นะครับ เพราะเมื่ออ่านไปเรื่อยๆ แม้ผมจะเห็นอยู่ว่าโทนมันสว่างกว่าก็ตาม แต่เนื้อหาก็เริ่มจูงเราเข้าไปสู่ความมืดในแบบฉบับของเรื่องนี้ ด้วยวิธีการเล่าที่เริ่มมีความคุ้นเคยเพราะเราได้เห็นการค่อยๆ ใส่ความสับสนและขัดแย้งจากตัวเองและสถานะที่กำลังเปลี่ยนไป ดูแล้วรู้สึกว่าตอนต่อๆไป ปมที่สร้างไว้ น่าจะผลิดอกออกผลและนำเราไปสู่ทางครึ้มฟ้าครึ้มฝน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากเห็นในงานของ อ. อยู่เสมอครับ
ตัวเรื่องถือว่ามีความหลากหลายในเนื้อหามากกว่า เพราะนี่คือเรื่องของยอดมนุษย์ ซึ่งมีความแฟนตาซีมากกว่าเรื่องผีดิบในแง่ความวาไรตี้ เมื่อเจอกับการเล่าเรื่องที่มีความหวือหวาและต้องการสร้างความสับสนในความโฉ่งฉ่างที่ใส่ไว้ให้กับคนอ่าน ซึ่งมันคือความแปลกใหม่ในผลงานเรื่องนี้
แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือดูลื่นไหลมากขึ้นนั่นคือภาพวาดครับ ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ งานภาพวาดของ อ. ถือว่าเป็นหนึ่งในนักวาดที่วาดออกมาได้เป็นเอกลักษณ์ ทั้งโทน และอารมณ์ ซึ่งนี้คือหนึ่งในจุดขายที่สำคัญของ อ. เขา
ในเรื่องนี้ อ. ก็ยังคงทำได้ดี และก็อย่างที่บอก มันดูลื่นไหลตามเนื้อหาที่นำเสนอ ด้วยการเล่าเรื่องเต็มไปด้วยวิธีการที่ทำให้ดูมีสีสัน ภาพวาดหลายฉากหลายซีนจะมีความวาไรตี้ และเน้นสร้างความสนุกในรูปแบบมังงะอย่างชัดเจน ในขณะที่จุดที่ซีเรียสหรือต้องการสื่ออารมณ์ อ. ก็กลับมาใช้การนำเสนอแบบเดิม ผมจึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ อ. ใช้ภาพวาดที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งสไตล์และวิธีการ
ซึ่งส่วนตัวผมคาดหวังในเรื่องลายเส้นสูงมากนะครับ เพราะชอบงานวาดของ อ. มากๆ และยิ่งเรื่องนี้ออกแนวยอดมนุษย์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ อ. จัดหนักเรื่องการออกแบบยอดมนุษย์แบบต่างๆด้วย ซึ่งเท่าที่เห็นออกมาก็รู้สึกว่าสร้างสรรค์ออกมาได้น่าสนใจ บางครั้งให้ฟิลลิ่งแบบภาพแนวฮ่องกงอยู่ในหลายๆจังหวะ ตัวผมคิดเองว่า เล่มต่อๆไป น่าจะได้เห็นอะไรที่ชอบมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ
“ChoujinX” เรื่องและภาพโดย อ. SUI ISHIDA ในไทยเพิ่งออกเล่มแรกออกมากับทางค่าย SIC โดยเล่มนี้มีหน้าสีด้านในด้วยนะครับกับราคาหนังสือ 105 บาทก้าวผ่านเล่มละ 100 ไปเรียบร้อยแล้ว เอาเหอะครับ ถ้างานดีก็ยอมจ่าย และหากมองอีกแง่ก็ถือว่าเป็นราคาใกล้เคียงมาตรฐานในยุคนี้อยู่นะครับ
ถือว่าเป็นงานที่มีทั้งความแตกต่างและความเป็นเอกลักษณ์ของ อ. อยู่ครบถ้วน ผมรู้สึกเลยว่า อาจเป็นเพราะเรื่อง TG ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมาก ก็เลยอาจจะทำให้ อ. ได้รับสิทธิ์ในการนำเสนอในแบบที่ อ. ต้องการมากกว่าแต่ก่อนจากกอง บก ก็ได้นะครับ ถึงได้เห็นความแตกต่างในการเล่าเรื่องที่ผมว่ามันอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากๆ
มันไม่ใช่ไม่ดีนะครับการนำเสนอแบบนี้ เพียงแต่ว่ามันสร้างความสับสนไม่น้อยกับการเปิดเรื่องที่ดำเนินเรื่องด้วยจังหวะแบบนั้น และรวดเร็วอย่างนั้น ดีที่นี่คือฉบับรวมเล่มเลยมีเนื้อหาหลังๆที่ต่อติดกับตอนแรกเเละทำให้เราเข้าใจว่าตอนแรกเขาเล่าเกี่ยวกับอะไรกันแน่ เอาเป็นว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยความแปลกใหม่ของ อ. ISHIDA ถ้าใครชอบแนวแฟนตาซีเรื่องนี้ห้ามพลาดครับ และผมก็คาดหวังได้อย่างมากว่าจะได้เห็น “โลกของยอดมนุษย์” ที่แตกต่างจาก อ. เขาในเล่มต่อๆไป..ครับ
** คะแนนที่ให้ไว้สำหรับอ่านจบเล่ม 1 เท่านั้น อนาคตถ้าได้อ่านจนจบจะมารีวิวใหม่ครับ **
ภาพ 9/10
เรื่อง 8.9/10
ความประทับใจ 9/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ#SiamInterComics #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #การ์ตูนแนวดราม่า #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #9คะแนน #ChoujinX #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
โฆษณา