28 ต.ค. 2022 เวลา 05:37 • กีฬา
ม้าในตำนาน "Rock of Gibraltar" นำมาสู่การเปลี่ยนเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้อย่างไร วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง อย่างเข้าใจง่าย
เมื่อเราพูดถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เราจะคิดถึงความเฮี้ยบในเรื่องระเบียบวินัยของนักเตะ แต่สิ่งที่เขายอมปล่อยผ่านเป็นกรณีพิเศษอยู่เสมอคือเรื่องการพนัน
1
ถ้าเป็นอะไรที่ไม่เกี่ยวกับการล็อกผลบอล เฟอร์กูสันจะอนุญาตให้นักเตะและสตาฟฟ์เล่นได้เลย เพราะเขาเองก็เล่นด้วย
1
ตัวอย่างเช่น คีธ จิลเลสพี อดีตนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด เคยเป็นโต๊ะรับแทงม้าให้เพื่อนๆ ในทีมปีศาจแดง หรือเวลาแข่งขันทีมเยือน ที่ต้องนั่งรถบัสหลายชั่วโมง แกรี่ พัลลิสเตอร์, ไบรอัน ร็อบสัน, สตีฟ บรูซ และตัวเฟอร์กี้ จะเปิดวงไพ่ ที่ด้านหลังรถ เล่นกินเงินกันแบบซีเรียสมาก
หรืออย่างในยูโร 2000 รอบชิงชนะเลิศ ฝรั่งเศส เจอ อิตาลี กัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ด รอย คีน เล่นพนันฝั่งอิตาลีไป 5,000 ปอนด์ กับบ่อนแลดโบรกส์ ซึ่งบทสรุปคือเสียเงิน เพราะอิตาลีแพ้ในช่วงโกลเด้นโกล เรื่องนี้เฟอร์กูสันรู้เข้า แต่แทนที่จะโมโห เฟอร์กี้บอกแค่ว่า "แล้วทำไมไปเลือกแทงอิตาลีล่ะ?" ไม่ได้ว่าอะไรเลย
ตามกฎด้วยทั่วไปแล้ว นักฟุตบอลห้ามเล่นพนันเฉพาะการแข่งที่เกี่ยวกับทีมตัวเอง และ การแข่งที่เกี่ยวกับลีกในประเทศตัวเองทั้งหมด แต่ถ้าพนันกีฬาอื่น หรือลีกอื่น แบบนี้จะอนุญาตให้ทำได้
แต่ถ้าบางสโมสรที่เขี้ยวๆ ก็จะวางกฎระเบียบในองค์กรห้ามยุ่งเกี่ยวกับการพนันทั้งหมด แต่เฟอร์กี้จะสบายๆ เขาไม่ได้ว่าอะไรเรื่องนี้
การพนันที่เฟอร์กี้ชอบที่สุดคือแทงม้า เขาเห็นคุณพ่อของตัวเองขลุกอยู่กับการแทงม้ามาตลอดตั้งแต่เด็ก พอตัวเองโตขึ้นก็ซึมซับสิ่งนี้เข้าไปด้วย และจากที่แทงเฉยๆ เฟอร์กี้เริ่มคลั่งไคล้ Horse Racing เขาอยากจะไปไกลกว่านั้น ด้วยการมีม้าแข่งของตัวเองไปเลย
ในช่วงต้นทศวรรษ 90 เฟอร์กี้บอกภรรยาเคธี่ ว่าเขาอยากจะซื้อมาสัก 1-2 ตัวเอามาลงแข่งดู ถ้าชนะการแข่งด้วยม้าของตัวเอง มันคงสุดยอดไปเลย
ณ เวลานั้น เพื่อนของเฟอร์กี้ก็เตือนว่า "การลงทุนกับม้า คือวิธีเร็วที่สุดในการผลาญเงิน" แต่เฟอร์กี้ ไม่สนใจเขาอยากพาม้าสักตัว ก้าวไปเป็นแชมเปี้ยนของประเทศให้ได้
1
เฟอร์กี้ตัดสินใจเปิดคอกม้าของตัวเองสำหรับแข่งขัน โดยเขาจะตระเวนไปตามฟาร์มม้าหรืองานประมูลม้า โดยจะเล็งม้าเด็กที่ท่าทางมีแววน่าจะปลุกปั้นได้ ซื้อมาเป็นของตัวเอง
เวลาเฟอร์กี้ทำอะไร ทำจริง ในเรื่องฟุตบอลเขาทำทุกอย่างจนประสบความสำเร็จ เรื่อง Horse Racing ก็เช่นกันเขาทุ่มเทสุดใจ ไม่ต่างอะไรกับการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล นี่คือโลกใบที่สองของเฟอร์กี้เลยก็ว่าได้
ม้าตัวแรกเขาซื้อ มาจากงานประมูลที่แททเทอร์แซลส์ ในราคา 17,000 ปอนด์ ก่อนจะตั้งชื่อว่า Queensland Star ตั้งชื่อตามเรือลำเล็ก ที่คุณพ่อของเฟอร์กี้เคยสร้างไว้
จากนั้นก็มาสู่ตัวที่สอง ชื่อ Harmony Row ราคา 30,000 ปอนด์ ตั้งชื่อตามสโมสรเยาวชนของเฟอร์กูสัน และตัวที่สามราคา 35,000 ปอนด์ ชื่อ Candleriggs เป็นชื่อตลาดที่โด่งดังในเมืองกลาสโกว์บ้านเกิดของเฟอร์กูสัน และตัวที่ 4 ราคา 47,000 ปอนด์ ชื่อ Caledonian Colours เป็นม้าที่ซื้อจากเทรนเนอร์ที่อยู่ที่ฮ่องกง
1
เคธี่ ภรรยาของเฟอร์กูสัน ใช้คำว่าสามีของเธอ "บ้าคลั่ง" ม้าแข่งอย่างมาก หลายๆครั้ง ที่เฟอร์กี้จะขึ้นเครื่องบิน เวลา 06.50 น. ที่แมนเชสเตอร์ แอร์พอร์ต ไปลงที่ลอนดอน เพื่อไปดูม้าของตัวเองทำการฝึกฝนที่คอกในย่านนิวมาร์เก็ต จากนั้นก็ขึ้นเครื่องกลับเพื่อนำลูกทีมซ้อมในช่วงเย็น
หลายคนบอกว่า เฟอร์กี้อุทิศตัวเองให้ม้าแข่งขนาดนี้ แล้วจะแบ่งเวลาให้ฟุตบอลได้หรือ แต่เฟอร์กี้ก็สยบเสียงวิจารณ์ทั้งมวล ด้วยการพาแมนฯ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่อง เขาจัดการทุกเรื่องได้ดีหมดนั่นแหละ
หนึ่งในหุ้นส่วนของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ เวลานั้น มีชื่อว่าจอห์น แม็คเนียร์ เขามีอาชีพหลักเป็นเจ้าของฟาร์มม้าที่ใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์ ชื่อ Coolmore Stud
วันที่ 8 มีนาคม 1999 ฟาร์มแห่งนี้ ให้กำเนิดม้าเพศผู้หนึ่งตัว ชื่อ Rock of Gibraltar (ร็อค ออฟ ยิบรอลตาร์) ชื่อเล่นว่า Rocky-ร็อคกี้
หลังจากเกิดมา 2 ปี เจ้าร็อคกี้เติบโตขึ้น และมีแววจะเป็นม้าที่แข็งแกร่ง ทางจอห์น แม็คเนียร์ เห็นว่าเฟอร์กูสันเปิดคอกม้าสำหรับ Horse Racing อยู่ จึงถามว่าสนใจจะมาเป็นเจ้าของร็อคกี้ร่วมกันหรือไม่ ช่วยกันจ่ายค่าบำรุงรักษา ค่าจ๊อกกี้ ค่าเทรนเนอร์ คนละครึ่ง จากนั้นถ้าร็อคกี้ไปแข่งแล้วได้เงินเท่าไหร่ ก็แบ่งกัน 50-50
1
เฟอร์กูสันตอบตกลง เพราะเจ้าร็อคกี้มีแววมาก มันเป็นลูกของม้าพ่อพันธุ์ชื่อ เดนฮิลล์ ซึ่งเป็นม้าระดับแชมเปี้ยนจากสหรัฐฯ ที่คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย มีสายพันธุ์ที่ดีเยี่ยม เฟอร์กี้เล็งแล้ว Rock of Gibraltar มีแววมากที่จะปั้นขึ้น
Rock of Gibraltar เติบโตมาอย่างสมบูรณ์ และถูกเรียกว่า เป็นม้าประเภท "หนึ่งในล้าน" มันแข็งแรง ปราดเปรียว และชนะในการแข่งขันอย่างง่ายดาย จนถูกตั้งฉายาว่า Monster ปีศาจร้ายที่ถล่มคู่แข่งเละเทะ
เฟอร์กูสัน รักม้าตัวนี้เหมือนกับลูก เขาภูมิใจอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของ นี่เป็นม้าคุณภาพสูงสุดจริงๆ
มีเรื่องราวคลาสสิค ณ เวลานั้น คือจ๊อคกี้ของม้า ชื่อ มิค คีแนน ครั้งหนึ่งมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ปรากฏว่าเฟอร์กูสัน พาคีแนนมาที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน เพื่อให้นักกายภาพบำบัดของสโมสรช่วยวางแผน ดูแลสภาพร่างกายให้คนขี่ม้าหน่อย ใช้ Facility ของสโมสร เอามาใช้กับเรื่องส่วนตัวเลย คือจะเห็นว่าเฟอร์กี้พร้อมทำทุกอย่าง เพื่อช่วยให้ Rock of Gibraltar เป็นผู้ชนะ
เมื่อถึงวัยพร้อมลงแข่ง เฟอร์กี้ให้ Rock of Gibraltar และคนขี่ ใส่เสื้อคลุมสีแดง-ขาว ซึ่งเป็นสีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งผลให้แฟนปีศาจแดงในช่วงนั้น ก็ส่งใจเชียร์ม้าตัวนี้ตามไปด้วย เหมือนเป็นม้าของสโมสร
การแข่งม้าที่สหราชอาณาจักรนั้น ในการแข่งระดับสูงสุด จะเรียกว่า Group one (เทียบกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก) โดย Rock of Gibraltar สร้างประวัติศาสตร์เป็นม้า ที่ชนะ "7 เรซ ติดต่อกัน" ในระดับ Group one ซึ่งไม่เคยมีม้าตัวไหนทำได้มาก่อนเลย ก่อนหน้านี้มีม้าชื่อ Mill Reef ทำได้สูงสุดแค่ 6 เรซ ติดกันเท่านั้น
ไม่ว่าแข่งที่ไหน เมื่อไหร่ สภาพอากาศเป็นอย่างไร Rock of Gibraltar ก็แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ สรุปแล้ว 13 เรซ ที่มันร่วมแข่งขันระหว่างปี 2001-2002 เจ้าร็อคกี้เข้าป้ายเป็นอันดับหนึ่งไปแล้ว 10 เรซ ถือเป็นม้าอันดับหนึ่งของประเทศอย่างแท้จริง ณ ช่วงเวลานั้น
หลังจากคว้าแชมป์มากมายแล้ว ทางจอห์น แม็คเนียร์ ตัดสินใจว่า จะรีไทร์เจ้าร็อคกี้ จากการเป็นม้าแข่ง มาทำหน้าที่เป็นม้าพ่อพันธุ์อย่างเต็มตัวไปเลยดีกว่า เพราะร็อคกี้มันมีดีกรีของม้าแชมเปี้ยนแล้ว ใครๆ ก็อยากเอาม้าตัวเมียมาผสมพันธุ์ด้วย ซึ่งเชื่อว่าตลอดชีวิตของมัน จะทำรายได้ให้เจ้าของมากกว่า 100 ล้านปอนด์
กันยายน 2002 ตอนที่เจ้าร็อคกี้ รีไทร์จากวงการเรียบร้อย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันให้สัมภาษณ์ว่า "ผมรู้สึกเป็นหนี้ทุกๆ คนที่บัลลี่ดอยล์ ศูนย์ฝึกม้า ที่ดูแล Rock of Gibraltar เป็นอย่างดี และผมมั่นใจว่าพรสวรรค์ของมันจะถูกส่งต่อไปให้ม้ารุ่นลูกของมันแน่นอน"
ในวงการม้านั้น ถ้าคุณมีม้าพ่อพันธุ์ที่ดี สามารถทำเงินจากธุรกิจผสมพันธุ์ม้า ได้มหาศาลมาก เพราะเงินจากค่าผสมพันธุ์ (Stud Fee) ราคาของม้าระดับนี้ อยู่ที่ครั้งละ 50,000 ปอนด์ รวมแล้วปีนึง โกยเงินระดับ 10 ล้านปอนด์อย่างไม่ยากเลย
ขณะที่ในการแข่งม้า ทำเงินได้อย่างมากก็ปีละ 1-2 ล้านปอนด์ ตัวเลขเทียบกันไม่ได้เลย ดังนั้นถ้ามองในแง่การเงิน การรีไทร์ Rock of Gibraltar เร็วหน่อย ก็ดูจะเข้าใจได้
เรื่องราวทั้งหมดก็น่าจะแฮปปี้เอ็นดิ้งด้วยดี แต่ที่มันมีดราม่าก็เพราะ ความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ของเฟอร์กูสัน กับ แม็คเนียร์
เฟอร์กูสันเข้าใจว่า การเป็นเจ้าของ 50-50 หมายถึงตลอดชีวิตของ Rock of Gibraltar เขาต้องได้ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง จากการให้ม้าเป็นพ่อพันธุ์ด้วย แต่ฝั่งแม็คเนียร์บอกว่า ที่ตกลงกันว่าจะแชร์รายได้คนละครึ่ง คือแค่การ Horse Racing ต่างหาก
1
แม็คเนียร์จะจ่าย 50-50 กับเฟอร์กี้ แค่เฉพาะรายได้จากการแข่งม้า โดย 13 เรซ ที่แข่งมา ทำเงินได้ 1,269,800 ปอนด์ ก็จะหารกันคนละครึ่ง คนละ 6 แสนปอนด์ก็ว่ากันไป แต่เมื่อม้ารีไทร์แล้ว รายได้จากการเป็นพ่อพันธุ์ ก็จะกลับมาเป็นของเขาตามเดิม
นี่กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมาก เพราะเฟอร์กูสันเหมือนถูกหลอก เขาช่วยปลุกปั้น ช่วยออกทุน และดูแลจ๊อคกี้เป็นอย่างดี เพื่อให้ม้าคว้าชัยชนะ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นพ่อพันธุ์ที่ใครๆ ก็ต้องการ แต่อยู่ๆ แม็คเนียร์บอกว่า เขาจะไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าร็อคกี้อีกเลย มันใช่เรื่องหรอ ที่คุยกันตอนแรกไม่ใช่แบบนี้นะ
1
เมื่อแม็คเนียร์ยังไงก็ไม่ยอม ทำให้เซอร์อเล็กซ์ ยื่นฟ้องแม็คเนียร์ อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2003
หลายคนเชื่อว่า นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุ ที่แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2003 เป็นต้นมา ฟอร์มจมดิ่ง คือแน่นอน ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของอาร์เซน่อลกับเชลซีก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่การขัดแย้งกันของผู้จัดการทีม กับเจ้าของทีม ถึงขั้นไม่เผาผีกัน และฟ้องร้องกันขนาดนั้น ไม่ใช่บรรยากาศที่ดีเลยในสโมสร
รอย คีน กัปตันแมนฯ ยูไนเต็ด เข้าไปคุยกับเฟอร์กี้ตรงๆ เลยด้วยว่าเขาไม่ชอบเลยที่เห็นผู้จัดการทีม กับ หุ้นส่วนสโมสร ฟ้องร้องกันแบบนี้ มันไม่ดีกับสโมสรเลย แต่เฟอร์กี้ก็ไม่สน เพราะเขาฟ้องร้องในสิ่งที่ควรได้รับ
สุดท้ายเมื่อเรื่องถึงศาลจริงๆ ก็ปรากฎว่า สัญญาของแม็คเนียร์ มีความไม่ชัดเจนจริงๆ ทำให้สุดท้ายฝ่ายแม็คเนียร์ ต้องเลือกเข้าสู่การไกล่เกลี่ย โดยเสนอ 2 ทางเลือกให้เฟอร์กูสัน
ทางเลือก 1 คือ ให้สิทธิ์เฟอร์กี้ เลือกลูกม้า 4 ตัวต่อปี ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ของ Rock of Gibraltar เอาไปปลุกปั้นต่อเอาเอง
กับทางเลือกที่ 2 คือ รับเงินสดก้อนเดียวไปเลย 2.5 ล้านปอนด์ แล้วยกสิทธิ์ทั้งหมดกลับคืนให้จอห์น แม็คเนียร์เหมือนเดิม
ฟีลลิ่งเหมือนเงินบำนาญรับไปเรื่อยๆ ทุกปี ถ้าม้ามีชีวิตอยู่ได้นาน ก็จะทำเงินไปได้เรื่อยๆ หรือรับบำเหน็จก้อนเดียวจบเลย สุดท้ายเฟอร์กี้เลือกรับเงินก้อน 2.5 ล้านปอนด์ และบอกลาจากการเป็นเจ้าของ Rock of Gibraltar แต่เพียงเท่านี้
เรื่องราวก็เหมือนจะจบ แต่ความขัดแย้งในใจของคนเรา เมื่อมันเกิดขึ้นถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลแล้ว จะให้ร่วมงานต่อ มันก็ยากแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ณ เวลานั้น เลยแบ่งเป็นสองขั้ว คือขั้วเฟอร์กี้ กับ ขั้วของแม็คเนียร์
เฟอร์กูสัน เป็นผู้มีบารมีสูงสุดในสโมสร ผู้ถือหุ้นคนอื่น จึงซัพพอร์ทฝั่งเฟอร์กี้มากกว่า ดังนั้นแม็คเนียร์ ร่วมกับ เจพี แม็กมานัส ผู้ถือหุ้นอีกคนที่เป็นชาวไอริชเหมือนกัน อยู่ไปก็ไม่มีความสุข จึงทยอยขายหุ้นของตัวเองรวม 28.7% ออกไป
และคนที่กว้านซื้อเอามาไว้ ก็คือ ตระกูลเกลเซอร์ส จากสหรัฐอเมริกา จากนั้นตระกูลเกลเซอร์สก็ค่อยๆ เก็บหุ้นคนอื่นๆ จนครบ และได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรในปี 2005
1
ดังนั้นในหน้าประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มักจะพูดกันว่า เจ้าม้า Rock of Gibraltar ตัวนี้ มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านยุคสมัย ถ้าเฟอร์กี้กับแม็คเนียร์ไม่ทะเลาะกัน เกลเซอร์สก็อาจไม่ได้ครอบครองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างในวันนี้
สำหรับเจ้าม้า Rock of Gibraltar สิ้นใจเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ในวัย 23 ปี ที่น่าสนใจคือลูกหลาน ที่มาจากการผสมพันธุ์ของมัน ก้าวไปเป็นม้าระดับแชมเปี้ยนถึง 49 ตัว
1
ขณะที่ผลงานอันมหัศจรรย์ในสมัยเป็นม้าแข่งของมัน คว้าแชมป์ Group One 7 เรซ ติดต่อกัน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครทำลายได้ มันคือ Legend ของวงการม้าแข่งที่สหราชอาณาจักรอย่างแท้จริง
2
#ROCKOFGIBRALTAR
โฆษณา