ลงเรือไปไหว้พระที่วัดสมเด็จ ...วัดเก่าแก่ที่ถูกตัดขาดเมื่อครั้งสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือเขื่อนวชิราลงกรณ์
ในปัจจุบันวัดสมเด็จได้ถูกสร้างขึ้นที่ตัวอำเภอใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนพระอุโบสถหลังนี้ ก็ปล่อยทิ้งไว้ให้ชาวบ้านที่ยังศรัทธา ได้เดินทางมากราบไหว้บูชา
แม้พระอุโบสถจะทรุดโทรมเพียงใดก็ตาม แต่ศรัทธาของเหล่าพุทธศาสนิกชนก็ไม่เคยน้อยลง ยังคงแวะเวียนมากราบไหว้ขอพรจากองค์พระพุทธชินราชตลอดมา
การเดินทางมาวัดสมเด็จเก่า จะต้องเดินทางด้วยเรือ ซึ่งผมใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงจึงจะถึงวัด สำหรับค่าใช้จ่ายการเดินทางมาในครั้งนี้ผมจ่ายเงินค่าเช่าเรือเหมาลำราคา 650 บาท ก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเพราะเดี๋ยวจากนี้ไปผมก็จะต้องเดินทางไปที่จุดท่องเที่ยวอื่นๆ อีกหลายแห่ง
ระหว่างการล่องเรือ ผมเพลิดเพลินกับการชื่นชมความงามของทิวทัศน์สองข้างทาง ที่เป็นภูเขาเขียวขจีบรรจบกับพื้นน้ำใสสะอาด แลดูสดชื่นสวยงามยิ่งนัก ทำให้เวลาในการเดินทางหมดลงไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเรือเข้าเทียบฝั่ง ก่อนทางขึ้นก็จะมีชาวบ้านนำดอกไม้ป่ามาขายให้เรานำขึ้นไปบูชาข้างบน ถือว่าเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน เมื่อจ่ายเงินซื้อดอกไม้และธูปเทียนเป็นที่เรียบร้อย ผมเดินต่อไปตามบันไดหิน เป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร ที่มีต้นไม้สองฝั่งโน้มเข้าหากัน กลายเป็นอุโมงค์ต้นไม้สวยงาม
บรรยากาศด้านบนเป็นอาคารเก่าที่ทรุดโทรม แต่ด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้าน ได้มาช่วยกันบูรณะซ่อมแซม ต่อเติมหลังคาสังกะสี เอาไว้กันแดดกันฝนองค์พระพุทธชินราชที่ประดิษฐานอยู่ภายใน
เมื่อกาลเวลาผ่านไป ...ธรรมชาติก็เรียกคืนพื้นที่ บรรดารากไม้ และต้นไม้ใหญ่ก็เข้าปกคลุม เหมือนจะกลืนกินพระอุโบสถเก่าหลังนี้ไปจนหมด ถึงแม้สภาพอาคารจะทรุดโทรมไปมาก แต่ก็ยังพอเหลือให้เห็นเค้าลางความงดงาม ของซุ้มประตูและหน้าบัน
ผมเดินเข้าไปกราบองค์พระพุทธชินราชที่ประดิษฐานอยู่ด้านใน พระพุทธชินราชองค์ใหญ่พอสมควร ผมทราบจากผู้นำทางว่า พระพุทธชินราชองค์นี้ไม่ใช่พระประธานที่เคยอยู่แต่เดิม แต่เป็นพระพุทธรูปองค์ใหม่ที่ถูกนำมาประดิษฐานในภายหลัง
ก่อนกลับผมเห็นมีหินตั้งเรียงรายอยู่ก็เลยถามผู้นำทางของผมว่ามันคืออะไร ผู้นำทางบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ให้เอาก้อนหินมาเรียงกันตั้งไว้ ของใครตั้งได้สูงที่สุดก็จะโชคดีที่สุด เมื่อได้ฟังอย่างนั้น ผมก็นำมาตั้งดูบ้าง แม้ไม่ได้สูงกว่าคนอื่นเท่าไหร่นัก แต่ก็รู้สึกสบายใจดี
ผมเดินทางออกจากวัดสมเด็จเก่าลงเรือเพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังจุดหมายต่อไป มีข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อกลับมาถึงที่ฝั่ง ผู้จัดการของพรไพลินริเวอร์ไซด์รีสอร์ท ได้เหล้าเพิ่มเติมให้ฟังว่า อาคารเก่าเหล่านี้ทั้งที่จมน้ำและอยู่บนเขาเหมือนอย่างวัดสมเด็จ ก็ยังคงสถานะเป็นวัดอยู่เพราะไม่ได้ทำพิธีรื้อถอน ซึ่งเป็นความตั้งใจของเหล่าคณะสงฆ์และญาติโยมทั้งหลาย เพราะต้องการให้ชาวบ้านและผู้มาเยือนได้มาสักการะบูชากันต่อไป
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
