2 พ.ย. 2022 เวลา 11:39 • กีฬา
#SSColumn | #SSบอลโลก
พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม : กลุ่ม E
โดย : เบียร์ หลังหนาม
กลุ่ม E จัดได้ว่าเป็นกลุ่มแห่งความตาย หรือ ‘Group of death’ ของฟุตบอลโลกหนนี้เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าถ้าดูจากชื่อชั้นแล้วจะมีเพียงแค่ ‘สเปน’ กับ ‘เยอรมนี’ ทีมที่ดูพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่เมื่อมองไปยังสภาพความพร้อมของทีมหรือด้วยตัวผู้เล่นแล้ว ‘ญี่ปุ่น’ ก็มีหมัดเด็ดพอจะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อให้กับอีก 2 ทีม
.
การันตีความมันส์ของกลุ่ม E ได้เลยว่าอยู่ในระดับ SS
.
กลุ่ม E ประกอบไปด้วย : สเปน , คอสตาริกา , ญี่ปุ่น , เยอรมนี
1.สเปน
‘ทีมชาติสเปน’ เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 มาได้อย่างง่ายดาย ด้วยการจบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม B ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป ถือเป็นตัวแทน 1 ใน 13 ชาติจากทวีปยุโรป
ถึงแม้ทัพกระทิงดุจะมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ปี 2010 แต่ทว่าในฟุตบอลโลก 2014 และ 2018 ทีมชาติสเปนเองก็ยังทำผลงานได้ไม่ได้ตามมาตรฐาน น่าสนใจว่าด้วยขุมกำลังชุดใหม่ในปีนี้ พวกเขาจะเข้าไปได้ถึงรอบไหน?
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 7
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : หลุยส์ เอ็นริเก้ / สัญชาติสเปน
‘หลุยส์ เอ็นริเก้’ โค้ชผู้มากประสบการณ์ โชกโชนจากการโลดแล่นไปคุมทีมสโมสรชื่อดังต่าง ๆ อาทิเช่น ‘โรม่า’ , ‘เซลต้า บีโก้’ และ ‘บาร์เซโลน่า’ ทั้งนี้เจ้าตัวเคยมารับเป็นกุนซือใหญ่ให้กับทัพกระทิงดุเมื่อช่วงปี 2018 แต่หลังจากประจำตำแหน่งได้ไม่นาน เอ็นริเก้ก็ขอลาออกด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ก่อนจะกลับมาใหม่อีกครั้งและลากยาวมาถึงปัจจุบัน
ในยูโรปี 2020 เอ็นริเก้ทำผลงานการคุมทีมชาติออกมาได้ค่อนข้างดี เขาพาทีมเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศได้ ด้วยขุมกำลังที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และฟุตบอลโลกหนนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกของเขาในฐานะโค้ช ถึงแม้ว่าจะเจองานโหดตั้งแต่ต้น แต่อาวุธที่เขาถืออยู่ก็รุนแรงไม่แพ้กัน
แบบแผนที่เอ็นริเก้ถนัด มักจะเป็นแบบ 4-3-3 เป็นหลัก
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
ทัพกระทิงดุในตอนนี้ เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า ‘ทัพกระทิงหนุ่ม’ เพราะตัวผู้เล่นทีมชาติในชุดนี้เต็มไปด้วยดาวรุ่งพุ่งแรง และนักเตะช่วงวัยที่กำลังหนุ่มยังแน่น แต่ในเรื่องของประสบการณ์ก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร เพราะนักเตะทีมชาติสเปนส่วนใหญ่ก็ล้วนค้าแข้งอยู่กับทีมดัง ๆ และผ่านเวทีใหญ่ ๆ มานักต่อนัก
ถึงอย่างไร ผู้นำทัพกระทิงก็ยังคงเป็นรุ่นใหญ่อย่าง ‘เซร์คิโอ บุสเก็ตส์’ กองกลางที่ล้นประสบการณ์จาก ‘บาร์เซโลน่า’ ตามมาด้วยน้อง ๆ กองกลางและแนวรุกจากสโมสรเดียวกันเช่น ‘เฟร์ราน ตอร์เรส’ , ‘อันซู ฟาติ’ , ‘เปดรี้’ ดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากศึกยูโรที่ผ่านมา และ ‘กาบี’ ดาวรุ่งยอดเยี่ยม ‘โกปา โทรฟี 2022’ ที่เพิ่งรับถ้วยไปหมาด ๆ
สตาร์ดังที่เหลือของสเปนก็มีอาทิเช่น ‘ดานี การ์บาฆาล’ และ ‘มาร์โก อเซนซิโอ’ จาก ‘เรอัล มาดริด’ , ‘โรดรี้’ จาก ‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ , ‘ติอาโก อาคันทารา’ จาก ‘ลิเวอร์พูล’ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีดาวรุ่งที่ไม่ควรละสายตาอย่าง ‘นิโก วิลเลียมส์’ กองหน้าตัวจี๊ดความหวังใหม่จาก ‘แอธเลติก บิลเบา’
ภาพรวมสำหรับทีมชาติสเปนถือว่าพร้อมมาก นักเตะส่วนใหญ่ค่อนข้างสดใหม่พร้อมใช้งาน แถมยังมีตัวเก่า ๆ ที่ยังเก็บความเก๋าไว้เป็นอาวุธลับอยู่ หากจะเป็นกังวลคงหนีไม่พ้นเรื่องการทำประตูของกองหน้านี่แหละ เพราะสเปนเป็นชาติที่ขาดกองหน้าที่ยิงแบบเป็นกอบเป็นกำมาสักใหญ่แล้ว น่าดูมากว่าชุดนี้จะเป็นอย่างไร?
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
สำหรับการโอกาสเข้ารอบต่อไปของสเปนนั้น ถือว่ามีอยู่ค่อนข้างมาก แต่ก็ยากมากสำหรับการการันตีอันดับ ไม่ว่าอย่างไร สิ่งสำคัญอันดับแรกของการอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ คือการผ่านมันไปให้ได้ก่อน และก็เผลอประมาทไม่ได้เป็นอันขาด เพราะในกลุ่มนี้ ถ้าพลาดครั้งเดียว อาจได้แผลใหญ่กลับบ้านได้เลย
2.คอสตาริกา
‘ทีมชาติคอสตาริกา’ ผ่านเส้นทางที่ยากลำบากอยู่เหมือนกันกว่าจะเข้ามาร่วมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเขาจบเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่มในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ในโซนคอนคาเดฟ (อเมริกากลางและอเมริกาเหนือ) จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปเอาชนะ ‘ทีมชาตินิวซีแลนด์’ ที่มาจากโซนโอเชียเนีย ด้วยประตู 1-0
คอสตาริกาอาจเป็นทีมรองบ่อนในสายตาของใครหลายคน แต่ก็มีอยู่หลายคนเหมือนกันที่รู้ดีว่าม้ามืดตัวนี้ มักมีอะไรมาให้เซอร์ไพรส์อยู่เสมอ เพราะย้อนกลับไปเมื่อฟุตบอลโลกปี 2014 คอสตาริกาที่อยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ เคยเขี่ยอังกฤษและอิตาลีตกรอบมาแล้ว หนำซ้ำยังขึ้นไปยืนเป็นจ่าฝูงเหนืออุรุกวัยได้อีกด้วย!
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 31
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ / สัญชาติโคลอมเบีย
‘หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ’ เป็นโค้ชที่โลดแล่นอยู่ตามทีมต่าง ๆ ในโซนอเมริกาใต้มาเป็นเวลานาน ซึ่งผลงานที่เห็นชัดที่สุดในระดับนานาชาติ คือการที่เขาสามารถพา ‘ทีมชาติเอกวาดอร์’ เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ แต่หลังจากนั้นผลงานของเขาก็เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งแฟนบอลออกมาประท้วงให้เขาลาออกจากการเป็นโค้ช
หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซโยกไปคุมทีมสโมสรต่าง ๆ ตามลีกบ้านเกิดและโซนอเมริกา ก่อนจะกลับมาคุมทีมชาติคอสตาริกาในปี 2021
แบบแผนที่หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซถนัด ได้แก่ 4-3-3 , 4-4-2 และ 5-4-1
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะทีมชาติคอสตาริกาส่วนใหญ่จะค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิด บ้างก็ไปค้าแข้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ที่เหลือจากนั้นก็กระจัดกระจายไปอยู่ตามทีมรองต่าง ๆ ในลีกยุโรป
แต่ถ้าจะให้พูดถึงสตาร์ดังของทีม คงหนีไม่พ้น ‘เคย์เลอร์ นาบาส’ นายประตูตัวเก๋าจาก ‘ปารีส แซงต์ แชร์กแมง’ ที่ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะเสียตำแหน่งมือ 1 ให้กับ ‘จันลุยจิ ดอนนารุมมา’ แต่ฝีมือการเซฟที่เขามีอยู่นั้นยังถูกยกให้อยู่ในระดับเวิลด์คลาสเสมอ
ดาวเด่นต่อมา ที่ถึงแม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ก็ถือว่ายังเป็นส่วนสำคัญของทีม เขาคนนั้นคือ ‘โจเอล แคมป์เบลล์’ อดีตกองหน้าของ ‘อาร์เซน่อล’ ที่ปัจจุบันกำลังค้าแข้งอยู่กับ ‘เลออน’ ในลีกเม็กซิโก พ่วงด้วยนักเตะอีกหนึ่งคนที่สะสมประสบการณ์มานานอย่าง ‘ไบรอัน รุยซ์’ กัปตันทีมชาติจาก ‘อลาจูเรนเซ่’ ในลีกคอสตาริกา
ดาวรุ่งที่เป็นตัวอันตรายและน่าจับตามองคือ ‘เจวิสัน เบนเน็ท’ ปีกจาก ‘ซันเดอร์แลนด์’ ที่กำลังมีสกิลและฟอร์มการเล่นที่น่าสนใจ
ถ้าให้พูดถึงความพร้อมของทีมคอสตาริกา เรียกได้ว่าพร้อมเท่าที่จะพร้อมได้ นักเตะส่วนใหญ่เป็นหน้าเดิม ๆ ที่ออกไปลุยทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ ในช่วงที่ผ่านมา แต่ด้วยชื่อชั้นและทักษะยังเป็นรองอีก 3 ทีมร่วมกลุ่มอยู่มาก
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
ถึงแม้คอสตาริกาจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ในปี 2014 แต่ทว่าฟุตบอลโลกปี 2018 พวกเขาเองก็ทำผลงานได้ไม่ดีเอาเสียเลย ซึ่งเมื่อมองจากขุมกำลังที่มีอยู่ในปีนี้ ก็มองว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับการเข้ารอบต่อไป
สิ่งหนึ่งที่ปีนี้เหมือนกับปี 2014 คือการที่พวกเขาอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธอีกครั้ง หากดึงลูกบ้าออกมาได้เหมือนครั้งก่อน ชนิดที่ว่าสู้แบบหลังชนฝาเหมือนคนไม่มีอะไรจะเสีย สนุกกับทุก ๆ เกมที่ลงเล่น ไม่แน่ว่าปฏิหารย์อาจจะยืนเคียงข้างพวกเขาอีกหน
3.ญี่ปุ่น
‘ทีมชาติญี่ปุ่น’ เข้าร่วมมาเล่นฟุตบอลโลกได้ด้วยการจบที่ 2 ของกลุ่ม B ในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ถือเป็น 1 ใน 6 ทีมตัวแทนจากทวีปเอเชียในครั้งนี้
ทีมซามูไรสีน้ำเงิน เข้าร่วมฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน แต่ผลงานที่ดีที่สุดยังไม่หนีรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ ต้องรอชมว่าครั้งนี้ที่มีตัวผู้เล่นที่พร้อมสุด ๆ จะไปได้ไกลสักเพียงใด
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 24
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : ฮาจิเมะ โมริยาสุ / สัญชาติญี่ปุ่น
‘ฮาจิเมะ โมริยาสุ’ คือชายที่สามารถพา ‘ซานเฟรชเซ ฮิโรชิมา’ คว้าแชมป์เจลีกได้ถึง 3 สมัย ก่อนจะค่อย ๆ ผันตัวมารับใช้ทีมชาติในฐานะโค้ช โดยที่เริ่มแรกเขาเข้าไปนั่งในตำแหน่งกุนซือทีมชาติชุด U-23 ก่อน จากนั้นปี 2018 โมริยาสุก็ขึ้นแท่นมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติชุดใหญ่
โมริยาสุเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ที่เลือกนักเตะเสร็จก่อนใคร เมื่อมองจากรายชื่อนักเตะ 26 คนที่คัดเลือกมานั้น เห็นชัดว่าโมริยาสุมีของเด็ดอยู่เต็มมือ น่าสนใจว่าโมริยาสุจะใช้งานแต่ละคนอย่างไร
แผนการเล่นที่โมริยาสุถนัดใช้ได้แก่ 4-2-3-1 และ 4-4-2
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้ เป็นชุดที่จัดหนักจัดเต็มเป็นอย่างมาก! ผู้เล่นส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่กับทีมสโมสรดังตามลีกยุโรป
สตาร์ดังที่นำทัพซูไรในครั้งนี้คือ ‘ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ’ กองหลังร่างใหญ่จาก ‘อาร์เซน่อล’ ตามาด้วย ‘มายะ โยชิดะ’ กองหลังกัปตันทีมชาติที่กำลังค้าแข้งอยู่กับ ‘ชาลเก้ 04’ , ‘ทาคุมิ มินามิโนะ’ หนุ่มหล่อแดนกลางจาก ‘โมนาโก’ , ‘คาโอรุ มิโตมะ’ จาก ‘ไบร์ทตัน’ , ‘ทาเคฟูสะ คูโบะ’ จาก ‘เรอัล โซเซียดาด’ และ ‘ฮิเดมาสะ โมริตะ’ จาก ‘สปอร์ติ้ง ลิสบอน’
แดนหน้าเป็น ‘ไดเซน มาเอดะ’ จาก ‘เซลติก’ , ‘อายาเซะ อูเอดะ’ จาก ‘เซอร์เคิล บรูช’ และ ‘ทาคุมะ อาซาโนะ’ จาก ‘โบคุม’
ถ้าพูดถึงสภาพความพร้อมแล้ว ญี่ปุ่นชุดนี้ถือว่าพร้อมมาก ด้วยขุมกำลังที่มี พวกเขาควรไปได้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่ม อันที่จริงควรจะไกลกว่ารอบ 16 ทีมเลยด้วยซ้ำ
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
เมื่อเอาชื่อชั้นของญี่ปุ่น มาเทียบกับสเปนหรือเยอรมัน ภาพรวมจะกลายเป็นว่าทัพซามูไรยังเป็นรองอีก 2 ทีมอยู่พอประมาณ แต่ด้วยขุมกำลังที่พวกเขามีนั้น มันทำให้เราสามารถแอบคิดได้ว่าพวกเขามีดีพอที่จะเข้ารอบต่อไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลงานในสนาม โอกาสการเข้ารอบของญี่ปุ่นไม่ได้น้อยเลยสักนิด ลึก ๆ ยังหวังได้อยู่
4.เยอรมนี
‘ทีมชาติเยอรมนี’ เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม J ในการคัดเลือกโซนทวีป พวกเขาเป็น 1 ใน 13 ทีมตัวแทนจากทวีปยุโรป
ในฟุตบอลโลกหนก่อน พวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มไปด้วยอันดับสุดท้ายแบบไม่มีใครคาดคิด ครั้งนี้พวกเขากลับมาแก้มืออีกครั้ง และแน่นอนว่าต้องไปให้ได้มากกว่ารอบแบ่งกลุ่ม
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 11
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : ฮันซี ฟลิก / สัญชาติเยอรมนี
‘ฮันซี ฟลิก’ อาจเป็นโค้ชที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักดี เพราะก่อนที่เขาจะเข้ามารับช่วงต่อจาก ‘โยอาคิม เลิฟ’ เจ้าตัวเคยนั่งเก้าอี้กุนซือให้กับสโมสรยักษใหญ่ของเยอรมันอย่าง ‘บาเยิร์น มิวนิค’ มาก่อน และในสมัยที่คุมทัพเสือใต้อยู่นั้น ฮันซี ฟลิกก็พาทีมคว้ามแชมป์ได้อย่างมากมาย ทั้งในประเทศและเวทียุโรป
ฮันซี ฟลิกเข้ามาคุมทีมชาติอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา เขาได้รับการคาดหวังจากแฟนบอลเยอรมันเป็นอย่างมาก ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการให้เขาปลุกทัพอินทรีเหล็กให้ออกมาโบยบินอีกครั้ง หลังจากที่หลับไปในช่วงที่ผ่านม
รูปแบบแผนที่ฮันซี ฟลิกถนัดใช้ ส่วนมากจะเป็นในรูปแบบของ 4-2-3-1 และอาจจะขยับมาใช้ 3-4-2-1 บ้าง
.
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
แน่นอนว่าทีมชาติเยอรมนี คือชาติที่ไม่เคยขาดนักเตะระดับสตาร์ดัง ส่วนหนึ่งค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิด และอีกส่วนหนึ่งก็แยกย้ายไปอยู่กับสโมสรมีชื่อต่าง ๆ ซึ่งโดยรวมก็ยังอยู่ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป
ทีมชาติเยอรมนีนำทัพมาโดย ‘โธมัส มุลเลอร์’ จาก ‘บาเบิร์น มิวนิค’ ที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุ 33 ปีเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นหัวใจสำคัญของทีมอยู่ ต่อมาเป็น ‘ลีรอย ซาเน่’ และ ‘แซร์จ นาบรี้’ แดนหน้าจากต้นสังกัดเดียวกัน ต่อมาคือกองกลางอย่าง ‘โจชัว คิมมิช’ ที่แทบการันตีตำแหน่งตัวจริงถ้าไม่ได้รับบาดเจ็บ
นอกเหนือจากนั้นยังมี ‘อิลคาย กุนโดกัน’ จาก ‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ , ‘โจนาส ฮอฟมันน์’ จาก ‘ไลป์ซิก’ , ‘ยูเลียน แบรนด์ท’ จาก ‘ดอร์ทมุนด์’ ส่วนทัพแดนหลังก็มี ‘อันโตนิโอ รูดิเกอร์’ จาก ‘เรอัล มาดริด’ , แมตส์ ฮุมเมลส์ จาก ‘ดอร์ทมุนด์’ เป็นตัน
ถ้าในแง่ของสภาพทีม ถือว่าพร้อมมาก แต่ถ้าในแง่ของฟอร์มการเล่น อันนี้ต้องไปลุ้นดูเอาอีกที แต่เชื่อฮันซี ฟลิกคงทำได้อย่างที่แฟน ๆ คาดหวัง
.
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
จริงอยู่ที่เยอรมนีชุดนี้จะมีชื่อระดับสตาร์มากมายอยู่ในทีม แต่ถ้าให้พูดถึงความแข็งแกร่งกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่ามีช่องว่างห่างอยู่พอตัว เอาเป็นว่าการเข้ารอบต่อไปด้วยขุมกำลังชุดนี้ มีความเป็นไปได้อยู่สูง ทัพอินทรีเหล็กต้องเล่นไปตามเกมของตัวเอง ส่วนจะอันดับ 1 หรืออันดับ 2 ต้องไปวัดกับสเปนเอา
👏 สรุปภาพรวมกลุ่ม E
ยากมากจริง ๆ สำหรับการคาดคะเนในกลุ่มแห่งความตาย แต่ถ้าให้เลือกจริง ๆ ก็ขอดูไปตามเนื้อผ้า ใจเชื่อว่าสเปนดูหวือหวาที่สุด ทัพกระทิงหนุ่มจะสามารถคว้าอันดับที่ 1 ของกลุ่ม E ไปครองได้ จากนั้นก็ตามมาด้วยทัพอินทรีเหล็กของฮันซี ฟลิกที่คว้าอันดับ 2 ไปตามระเบียบ
ญี่ปุ่นเป็นทีมที่ใจไม่ได้มองข้าม เชื่อว่าขุมกำลังชุดนี้มีศักยภาพพอที่จะไปได้ไกล แต่ขอวางไว้ให้อยู่เป็นอันดับ 3 ไปก่อน ตามชื่อชั้นของทีม
ทางด้านของคอสตาริกาดูยากเกินไปหน่อย ต่อใช้ดวงกับลูกบ้าเข้าชนก็ยังดูเป็นไปได้ยาก พวกเขาน่าจะจบด้วยอันดับ 4 ของกลุ่ม
SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่
สนใจติดต่อโฆษณา
Tel. 065-4695416 (คุณหวา)
โฆษณา