3 พ.ย. 2022 เวลา 08:44 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หลี่เหลียนเจี๋ย สองหญิงในชีวิต
โพสต์ถึงหลี่เหลียนเจี๋ยครั้งที่แล้วได้พูดถึงประวัติของเขาไปเล็กน้อยว่าเขาประสบความสำเร็จในกีฬาวูซูตั้งแต่เล็ก คราวนี้มาดูเรื่องชีวิตรักของเขากันบ้าง
ใครบางคนบอกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิดอยู่ด้วยกันไปก็รักกันได้เอง คำพูดนี้เป็นจริงเราเห็นคู่รักที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรักแต่สุดท้ายกลายเป็นคู่ชีวิตที่น่าอิจฉาก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างหลายคู่ แต่ก็ไม่ใช่เป็นจริงหมดทุกคู่
ใครบางคนอีกเช่นกันที่บอกว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน เราทุ่มเททำความดีให้ใครสักคนหนึ่งเขาก็คงจะเห็นใจกลายเป็นความรักขึ้นมาได้
ชีวิตของหลี่เหลียนเจี๋ยได้พิสูจน์คำพูดของใครบางคนว่าชีวิตคนไม่ใช่สูตรสำเร็จ ไม่ใช่คำคมที่จะเป็นเช่นดั่งวาจาเอื้อนเอ่ยเสมอไป
........
ในช่วงวัยรุ่นหลี่เหลียนเจี๋ยเข้าเรียนโรงเรียนกีฬาชิชาไห่และได้พบกับหวงซิวหยานซึ่งเธอมีอายุมากกว่าเขา 2 ปี
หวงซิวหยางเกิดที่ปักกิ่งในปี 2504 ในครอบครัวที่ดี พ่อแม่ของเธอต้องการให้หวงซิวหยานทำงานในด้านนาฏศิลป์ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอย้ายไปเรียนโรงเรียนกีฬา Beijing Shichahai sport school เพื่อเรียนศิลปะการต่อสู้ แล้วทำให้เธอได้พบกับหลี่เหลียนเจี๋ยกลายเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้ คนทั้งสองเรียนด้วยกัน ในขณะเดียวกันก็แข่งขันกันด้วย
คนทั้งโรงเรียนมองว่าทั้งคู่เป็นคู่รักวัยเด็ก แต่สำหรับหลี่เหลียนเจี๋ยแล้วมองว่าด้วยอายุอานามเธอเป็นพี่สาวของเขาได้ แต่สำหรับหวงซิวหยานเธอรู้สึกดีต่อเด็กรุ่นน้องคนนี้ และคอยดูแลเขาเป็นอย่างดี
ในเวลานั้นหลี่เหลียนเจี๋ยอาศัยอยู่อย่างลำบากกับแม่และพี่สาว 2 คนกับพี่ชายอีก 2 คนในขณะที่พ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่เขาอายุได้ 2 ขวบทิ้งให้ครอบครัวต้องต่อสู้อย่างหนัก
บ้านของหวงซิวหยานมีฐานะ เธอไม่เคยอดอยากและเต็มไปด้วยอาหารอร่อย บ่อยครั้งเธอกลายเป็นแขกของที่บ้านตระกูลหลี่ หรือไม่ก็นำอาหารอร่อยแบ่งปันมาให้กับหลี่เหลียนเจี๋ย ซื้อของขวัญให้กับพี่น้องของเขารวมไปถึงดูแลครอบครัวตระกูลหลี่เป็นพิเศษ
.........
ในแง่กีฬาการต่อสู้แล้ว หวงซิวหยานไม่ธรรมดา ดีกรีการต่อสู้ในกีฬาวูซูของเธอนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากแข่งขันชนะได้เหรียญรางวัลมากมาย เธอชำนาญมวยงูและฟันดาบ
.........
เมื่อหลินเจี๋ยประสบความสำเร็จในกีฬาวูซูเต็มที่ เขาต้องการไปไกลกว่านักกีฬา ความต้องการของเขาก็คือการขยับขยายไปสู่ภดาราหนังกังฟู และเขาเริ่มออดิชั่นเพื่อที่จะเป็นนักแสดงไปในทุกๆที่ที่ได้ยินข่าวการเปิดรับสมัคร เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้หลายแขนงมากขึ้น พยายามสร้างความเชี่ยวชาญให้กับตนเองจนโค้ชของเขาบอกว่าหลี่เหลียนเจี๋ยคือสารานุกรมการต่อสู้
แล้วโอกาสก็มาถึงในปี 1982 หลี่เหลียนเจี๋ยในวัย 19 ปีได้รับโอกาสแสดงนำในเสี้ยวลิ้มยี่ เป็นครั้งแรกที่เขาเปิดตัวในโลกภาพยนตร์และมันก็คือการประสบความสำเร็จอย่างรุนแรงบ้าคลั่งทันที หลี่เหลียนเจี๋ยกลายเป็นดาราดังระดับเอเชีย เสี้ยวลิ้มยี่เข้าฉายประเทศไหนก็ทำรายได้ถล่มทลาย
แต่กระนั้นแม้หนังจากประสบความสำเร็จมากแต่หลีเหลียนเจี๋ยก็ยังคงเป็นเด็กยากจนอยู่เช่นเดิม
ต่อมาเมื่อเขาเตรียมการถ่ายทำหนังเรื่องเส้าหลินบอย หรือเสี่ยวลิ้มยี่ 2 เขาได้แนะนำหวงซิวหยานให้กับผู้กำกับ แล้วหลี่เหลียนเจี๋ยก็รับบทนำในขณะที่หวงซิวหยานก็รับบทนำหญิง
ทั้งสองก็ได้ร่วมแสดงหนังแอ็คชั่นด้วยกันอีกครั้งคือเรื่องมังกรน่ำปั๊ก ในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้หลี่เหลียนเจี๋ยได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะการแสดงในหนังกังฟูเป็นการอาศัยความสามารถทางการแสดงการเคลื่อนไหวร่างกายของนักแสดงอย่างแท้จริงไม่ได้มีการใช้นักแสดงแทน ทำให้บ่อยครั้งที่นักแสดงนำได้รับบาดเจ็บสาหัส หวงซิวหยานคอยเฝ้าดูแลเขาไม่ห่าง
หลี่เหลียนเจี๋ยไม่เคยรู้สึกกับหวงซิวหยานในฐานะคู่รักอย่างเต็มใจ เขารู้สึกว่าเธอคือพี่สาว แต่ด้วยความสนิทสนมเขาก็ไม่เคยบอกความคิดนี้จนเกรงว่าจะทำให้หวงซิวหยานเสียใจแต่อย่างใด และต่อมาเมื่อเขาได้กำกับหนังที่ตนเองแสดงเรื่อง หวด ปั๊ก คั๊ก (หนังจีนทำไมชื่อไทยต้องแบบนี้ด้วย 555) ซึ่งได้รับบาดเจ็บอีกครั้งต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือน
หลี่เหลียนเจี๋ยบาดเจ็บหนักถึง 2 ครั้งและหวงซิวหยานก็ไม่เคยทอดทิ้งเขา การดูแลเอาใจใส่ความดีของเธอโน้มน้าวให้หลี่เหลียนเจี๋ยรู้สึกประทับใจมากจนกลายเป็นเขาตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอ
เป็นการตกลงใจกันง่ายๆไม่มีพิธีการไม่มีแม้กระทั่งงานแต่งงานและไม่มีการบอกญาติหรือเพื่อนฝูงแต่อย่างใดแต่หวงซิวหยานก็ไม่ได้คับข้องใจที่ไม่ได้มีงานแต่งใหญ่โต เธอพร้อมที่จะเห็นดีเห็นงามไปกับการตัดสินใจของเขา
เมื่อมีครอบครัวหวงชิวหยานจึงเลิกอาชีพการงาน เธอเลิกแสดงหนังตั้งใจดูแลสามีและก่อตั้งบริษัทพัฒนาสอนศิลปะการต่อสู้ร่วมกับสามีเพื่อขยายธุรกิจศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศ และเขาทั้งสองคนก็มีลูกสาวคนแรก
ต่อมาทีมงานสร้างหนัง Dragon on the End ได้ทาบทามหลี่เหลียนเจี๋ยมาเป็นดารานำ หวงซิวหยางบอกให้เขารับโอกาสนี้ไว้ หลี่เหลียนเจี๋ยจึงเดินทางคนเดียวไปร่วมกองถ่ายหนังในขณะที่หวงซิวหยางซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ไม่สามารถที่จะล่วงรู้อนาคตล่วงหน้าได้ว่าการที่สามีตนเองเดินทางไปถ่ายทำหนังเรื่องนี้จะทำให้เขาได้พบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เข้ามาในชีวิตของเขาและเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอผู้หญิงคนนั้นก็คือหลี่จือ( Li Zhi)
หลังจากนั้นหลี่เหลียนเจี๋ยก็ได้แสดงในหนังหวงเฟยหงต่อมาอีกหลายเรื่อง ซึ่งทำให้เขาดังมากขึ้น ท่ามกลางความสำเร็จทางอาชีพแต่จิตใจของเขากลับร้อนรนเหมือนมีไฟสุมเมื่อเขารู้สึกว่าความรู้สึกต่อหลี่จือนั้นยิ่งมายิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ในปี 2013 หลี่เหลียนเจี๋ยกล่าวอย่างตรงไปตรงมาในรายการ let's talk ว่าหลี่จือคือรักแรกพบของเขา เขาตกหลุมรักเธอทันทีเมื่อแรกเห็นเพื่อเธอแล้วเขาสามารถทำลายสิ่งที่เรียกว่าอนาคตทั้งหมดได้
ความรู้สึกของเขารุนแรงถึงขนาดนั้น
กับสาวหนึ่งที่เป็นคนใกล้ชิดอาศัยความดีงามเฝ้าดูแลเอาใจใส่มาโดยตลอดและอีกสาวหนึ่งคือรักแรกพบที่ทำให้จิตใจของเขาร้อนรน มันเป็นสิ่งที่เขายากที่จะตัดสินใจ แต่สิ่งนี้มันก็นำมาซึ่งปัญหาในครอบครัวเมื่อหลี่เหลียนเจี๋ยขอหวงซิวหยานหย่า สำหรับหวงซิวหยานแล้วแม้ว่าจะเจ็บปวด แต่เธอมีความเข้าใจ และก็ยอมจากไปโดยดี พวกเขาหย่าร้างกันอย่างสงบในขณะที่ลูกสาวคนโตอายุเพียง 3 ขวบและลูกสาวคนเล็กยังไม่หย่านม
.........
หลี่เหลียนเจี๋ยเคยให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาในรายการหนึ่งว่าเขาประสบความสำเร็จในการไล่ล่าหลีจือด้วยคำสัญญาที่เรียบง่ายว่าผมจะยกทุกสิ่งทุกอย่างให้กับคุณ เงินทุกบาททุกสตางค์ผมให้คุณได้ ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอมารุนแรงถึงขนาดที่ว่ายอมทุ่มเทและทิ้งทุกอย่างที่เคยมีมาในชีวิตไปเลยทีเดียว พวกเขาแต่งงานกันในปี 2542 งานแต่งงานถูกจัดอย่างหรูหราในคฤหาสน์ส่วนตัวของหลี่เหลียนเจี๋ย มันเป็นภาพที่ตัดกันกับการแต่งงานครั้งแรกอย่างหน้ามือเป็นหลังเท้า
หลังจากที่แต่งงานกันหลี่จือดูแลครอบครัวอย่างเต็มหน้าที่ และให้กำเนิดลูกสาว 2 คน ตอนที่หลีจือตั้งครรภ์ลูกคนแรกนั้น หลี่เหลียนเจี๋ยตอบปฏิเสธผู้สร้างหนังหลายเรื่องเพื่อจะอุทิศตนดูแลภรรยา และหนังที่เขาปฏิเสธไปนั้นหลายเรื่องกลายเป็นหนังระดับ blockbuster
.............
ส่วนหวงซิวหยานนั้นแม้จะผิดหวังจากรักครั้งแรก ครอบครัวล่มสลาย แต่เธอก็มีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสองคน เธอกับหลี่เหลียนเจี๋ยไม่ได้เลิกลากันไปด้วยความบาดหมางหรืออาฆาตแค้นต่อกัน ยังคงกลายเป็นเพื่อนหรือพี่สาวที่ดีต่อกันไปได้ และต่อมาหวงซิวหยานก็ได้แต่งงานใหม่เช่นกัน สามีใหม่ของเธอเป็นผู้บริหารร้านอาหาร
..............
ใครบางคนบอกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด หลี่เหลียนเจี๋ยและหวงซิวหยานแม้จะเป็นคู่รักในวัยเด็ก ตัวติดกันราวกับเงาติดตามร่าง เฝ้าดูแลทุ่มเทเอาใจใส่ เอาความดีของตนเองโถมใส่ทุกวันๆ เหมือนน้ำที่หยดลงหินหวังว่าสักวันหินมันยังกร่อน แต่เมื่อจิตใจของคนไม่ใช่หินผาแล้วมันจะก่อนได้จริงหรือเมื่อต้องเจอรักแรกพบที่ร้อนรุนแรงราวไฟเผา
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องของมนุษย์ปุถุชน ดาราก็เป็นมนุษย์ แต่ผมก็เชื่อว่าสำหรับหลี่เหลียนเจี๋ยแล้ว แม้จะเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อหญิงที่เป็นรักแรกพบเต็มอก แต่ในหลายๆขณะเขาก็ต้องรู้สึกสำนึกถึงตนเองกับการกระทำต่อหญิงอีกคนหนึ่งที่ดีต่อเขาถึงขนาดนี้ ไม่มีใครรู้สึกรู้สากับเรื่องเหล่านี้ได้จริงๆหรอก
โฆษณา