3 พ.ย. 2022 เวลา 11:58 • ประวัติศาสตร์
ถอดบทเรียน ผู้นำอย่างกองซุนจ้าน
กองซุนจ้าน ขุนศึกม้าขาวแห่งภาคเหนือ ลูกศิษย์ร่วมสำนักโลติดกับเล่าปี่
กองซุนจ้าน ชื่อรอง โป๋กุย ชาวเมืองถังซาน เป็นเพื่อนสนิทของเล่าปี่ตั้งแต่ที่เรียนอยู่ในสำนักอาจารย์โลติด เมื่อโตเป็นหนุ่มก็ได้รับราชการเป็นทหารภายใต้สังกัดเล่าหงี เชื้อพระวงศ์ฮั่นที่เป็นเจ้าเมืองตุ้นกวน ซึ่งกองซุนจ้านก็ช่วยเล่าหงีกำราบชนเผ่าอูหวนทางภาคเหนือจนสงบราบคาบได้รับความดีความชอบอย่างมากมาย
วันหนึ่ง เกิดกบฏโจรโพกผ้าเหลือง 3 แสนคนก่อการกำเริบเข้ายึดเมืองเมืองเฉงจิ๋ว กองซุนจ้านใช้ทหารเพียงแค่ 20,000 บุกไล่ฆ่าฟันกบฏโพกผ้าเหลืองตายเป็นใบไม้ร่วงจนได้รับชัยชนะ กล่าวกันว่าศพโจรโพกผ้าเหลืองที่ถูกกองทัพกองซุนจ้านสังหารนั้น ได้ลอยเกลื่อนเต็มแม่น้ำจนน้ำเป็นสีเลือดแดงฉานเลยทีเดียว ทำให้ชื่อเสียงความโหดเหี้ยมเด็ดขาดของกองซุนจ้านโด่งดังไปทั่ว
อีกทั้งกองซุนจ้านยังรับศิษย์น้องอย่างเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เข้ามารับราชการกับเล่าหงีด้วยกัน โดยมอบตำแหน่งให้เล่าปี่เป็นเจ้าเมืองผิงหยวนกวน (เพงงวนก้วน)
ต่อมา โจโฉและอ้วนเสี้ยวประกาศระดมกองทัพพันธมิตร 18 หัวเมืองเพื่อโค่นล้มทรราชตั๋งโต๊ะฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น กองซุนจ้านก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยพ่วงเล่าปี่ กวนอู เตียวหุยมาด้วย แต่เมื่อผลประโยชน์ไม่ลงตัว ทัพพันธมิตร 18 หัวเมืองต่างก็ชิงดีชิงเด่นขัดขากันเอง กองซุนจ้านเบื่อหน่ายกับความเหลวแหลกในกองทัพจึงแยกตัวเองออกไป
ไม่นานนัก สองพี่น้องตระกูลอ้วนอย่างอ้วนเสี้ยวและอ้วนสุดได้แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งแย่งชิงอำนาจกัน โดยอ้วนสุดได้จับ เล่าเหอ ลูกชายของเล่าหงีไว้เป็นตัวประกันเพื่อบีบให้เล่าหงียอมเข้าพวกกับตัวเอง กองซุนจ้านไม่เห็นด้วยและพยายามคัดค้านเล่าหงีแต่ไม่เป็นผล จึงทำการยึดทหารของเล่าหงีไว้ทั้งหมด พร้อมทั้งตกลงกับอ้วนเสี้ยวแบบลับๆ ว่าจะยึดเมืองกิจิ๋วจากฮันฮกและเมืองอิจิ๋วจากอ้วนสุด แล้วมาแบ่งกันคนละครึ่ง
สุดท้าย อ้วนเสี้ยวแจ้งฮันฮกว่ากองซุนจ้านจะยึดกิจิ๋ว จนฮันฮกยกเมืองกิจิ๋วให้อ้วนเสี้ยวแบบฟรีๆ แล้วยังส่งอ้วนถำลูกคนโตไปยึดเมืองอิจิ๋วตัดหน้ากองซุนจ้านอีก แถมบิดพริ้วไม่ยอมแบ่งเมืองให้ตามที่ตกลงกันเอาไว้อีกด้วย กองซุนจ้านส่งกองซุนอวดน้องชายไปยึดเมืองคืน แต่ถูกทหารอ้วนเสี้ยวซุ่มโจมตีจนตายกลางสนามรบ ทำให้กองซุนจ้านเกิดความอาฆาตแค้น ประกาศขอจองล้างจองผลาญอ้วนเสี้ยวไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ในระยะแรกกองซุนจ้านได้เปรียบ เพราะเจ้าเมืองภาคเหนือก่อกบฏต่ออ้วนเสี้ยว อีกทั้งกองซุนฟ่านผู้เป็นญาติยังทรยศอ้วนเสี้ยวด้วยการนำเสบียงที่อ้วนเสี้ยวส่งมาเป็นสินบนไปมอบให้กองซุนจ้านอีก แต่ทัพกองซุนจ้านดันรบแพ้ทัพอ้วนเสี้ยวที่สะพานจี้ปันเกียวราบคาบจนตัวเองหนีกระเจิดกระเจิง ยังดีที่กองซุนจ้านรอดชีวิตมาได้ เพราะความช่วยเหลือจากนักรบหนุ่มชาวเมืองเสียงสาน นามว่า เตียวหยุน ชื่อรอง จูล่ง
ต่อมา กองซุนจ้านจะรวบรวมทหารไปรบกับอ้วนเสี้ยวอีก แต่เล่าหงีทราบว่าเล่าเหอลูกชายหนีจากอ้วนสุดไปอยู่กับอ้วนเสี้ยวแล้ว เลยตัดกำลังทหารและเสบียงของกองซุนจ้านจนพ่ายแพ้แก่อ้วนเสี้ยวหลายครั้ง สร้างความโกรธเคืองให้กับกองซุนจ้าน ถึงขนาดลงโทษชาวเมืองของเล่าหงีที่กระทำความผิดด้วยป่าเถื่อนรุนแรงเพื่อเป็นการตอบโต้ ทั้งสองฝ่ายต่างส่งจดหมายร้องเรียนไปยังราชสำนักกล่าวโทษกันไปมา
เล่าหงีอ้างว่า กองซุนจ้านมีพฤติกรรมทำตัวเป็นศาลเตี้ย ลงโทษชาวเมืองด้วยอารมณ์โกรธอย่างรุนแรงเกินกว่าจะรับได้
กองซุนจ้านก็อ้างว่า เล่าหงีสมคบคิดกับอ้วนเสี้ยวก่อกบฏต่อราชสำนักเพื่อหวังจะเป็นฮ่องเต้หุ่นเชิด
สุดท้าย กองซุนจ้านส่งทหารมารบกับเล่าหงีจนได้รับชัยชนะ พร้อมทั้งจับเล่าหงีพร้อมครอบครัวมาประหารยกโคตรต่อหน้าชาวเมืองและทูตจากราชสำนักให้สมแค้น...!!!
กองซุนจ้านเริ่มถูกอารมณ์โทสะเข้าครอบงำ บดบังความมีเหตุมีผลและสติปัญญาของตัวเองไปจนหมด เขากลายเป็นคนโมโหร้าย มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อคนอื่น มักจะสั่งประหารลูกน้องที่ตัวเองรู้สึกไม่ถูกชะตาอยู่บ่อยครั้ง และเริ่มข่มเหงรังแกราษฎรจนได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว บริวารรอบข้างต่างหวาดกลัวในตัวเขาจนพากันหนีออกห่าง เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย จูล่ง ก็ถอนตัวตีจากกองซุนจ้านไป....
ภาพลักษณ์ของกองซุนจ้านเมื่อก่อนเป็นนายทหารที่เด็ดขาด โหดเหี้ยม กล้าได้กล้าเสียเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง บัดนี้ภาพลักษณ์ของกองซุนจ้านในสายตาชาวเมือง มันไม่ต่างจากปีศาจทรราชตั๋งโต๊ะเข้าสิงร่างเลยแม้แต่นิดเดียว
ส่วนเล่าหงีที่ถูกกองซุนจ้านฆ่าล้างโคตรไปนั้น เป็นผู้นำที่มีคุณธรรม มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักสันติสุขเป็นหลัก บังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม จนชาวเมืองและเผ่าอูหวนต่างรักใคร่และยกย่องเขา จนกระทั่งวันที่เขาตาย ไม่มีใครในภาคเหนือที่ไม่โศกเศร้าให้กับเล่าหงีเลย กองซุนจ้านจึงกลายเป็นที่โกรธแค้นและเกลียดชังของราษฎรภาคเหนือไปโดยปริยาย
และแล้ว วันที่หนี้วิบากกรรมทุกอย่างได้กลับมาทวงคืนกองซุนจ้านก็มาถึง....
อ้วนเสี้ยวศัตรูเก่าแก่ของกองซุนจ้านได้ส่งทูตไปขอความร่วมมือกับ ท่าตุ้น ผู้นำเผ่าอูหวนและเล่าเหอลูกชายของเล่าหงียกทัพนับแสนรุมบดขยี้ทัพของกองซุนจ้านจนแหลกย่อยยับ ทำให้กองซุนจ้านถึงกับหนีตายรากเลือดซมซานไปอยู่ที่ป้อมอี้จิง ทหารของกองซุนจ้านนับหมื่นถูกอ้วนเสี้ยวสั่งประหารตัดหัวเรียบ เหมือนสมัยที่เขาทำกับโจรโพกผ้าเหลืองที่เฉงจิ๋วแบบเป๊ะๆ
กองซุนจ้านอยู่ป้อมอี้จิงที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก สามารถเก็บสะสมเสบียงสู้รบได้หลายปี เขาจึงเลือกที่จะปล่อยให้ทหารต่อสู้ป้องกันตามยถากรรม ส่วนตัวเองเอาแต่เก็บตัวอยู่บนหอสูงด้วยความหวาดกลัว ทิ้งภาพลักษณ์ความเด็ดขาด ความโหดเหี้ยม ความดิบเถื่อนไปแบบไม่เหลือคราบเดิม กลายเป็นคนขี้ขลาด ขี้ระแวง ไม่ไว้วางใจใคร แม้แต่ค่ายนอกเมืองที่โดนอ้วนเสี้ยวโจมตีจะส่งจดหมายขอความช่วยเหลือกับกองซุนจ้าน แต่กองซุนจ้านก็ไม่กล้าแม้กระทั่งออกไปจากป้อม ทำให้ทหารต่างพากันหลบหนี หรือไม่ก็ไปเข้ากับอ้วนเสี้ยว
อ้วนเสี้ยวตีป้อมอยู่นานแต่ก็ไม่แตกสักที จึงส่งจดหมายขอสงบศึก แต่กองซุนจ้านมั่นใจว่าป้อมอี้จิงจะไม่มีวันแตก และไม่เชื่อว่าอ้วนเสี้ยวจะรบชนะ จึงปฏิเสธจดหมายหย่าศึกไปแบบไม่ใยดี
นานวันเข้า เสบียงภายในป้อมก็เริ่มร่อยหรอ ผู้คนเริ่มก่อจลาจลสร้างความวุ่นวาย เพราะถูกทัพอ้วนเสี้ยวปิดล้อมมานานหลายปี กองซุนจ้านที่จนตรอกก็ส่งจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากราชสำนักฮูโต๋ซึ่งโจโฉควบคุมอยู่ เพื่อหวังจะให้ราชสำนักยกทัพมาช่วยตีขนาบอ้วนเสี้ยว แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับมาหากองซุนจ้านแม้แต่ฉบับเดียว เพราะอ้วนเสี้ยวจับคนส่งจดหมายของกองซุนจ้านได้ซะก่อน
และที่กองซุนจ้านไม่รู้เลยก็คือ....
ทางราชสำนักนั่นแหละ เป็นฝ่ายเปิดไฟเขียวให้อ้วนเสี้ยวบุกถล่มกองซุนจ้าน เพราะเห็นว่ากองซุนจ้านเป็นตัวอันตรายที่ราชสำนักไม่อาจควบคุมได้อีกแล้ว
กองซุนจ้านจึงส่งจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากเตียวเอี๋ยนที่คุมกองโจรจำนวนนับแสนให้มาช่วย เตียวเอี๋ยนตอบรับ แต่ก็ช้ากว่าอ้วนเสี้ยวแค่ก้าวเดียว เพราะอ้วนเสี้ยวจับตัวคนส่งจดหมายได้อีก พร้อมทั้งจุดไฟสัญญาณหลอกให้กองซุนจ้านยกทหารออกจากป้อมไปโดนอ้วนเสี้ยวดักถล่มย่อยยับ อีกทั้งยังให้ทหารขุดอุโมงค์ลอดเข้าป้อมอี้จิงมาได้แล้วจุดไฟเผาหอสูงจนถล่มลงมา กองซุนจ้านหมดหนทางหนีรอด จึงได้ฆ่าลูกเมียและเชือดคอตัวเองตายตาม....
กองซุนจ้านเป็นหนึ่งในขุนพลที่เก่งกาจและเหี้ยมหาญมากคนหนึ่งในยุคราชวงศ์ฮั่น แต่เขาไม่ใช่ผู้นำที่ดีมีคุณธรรมหรือมีความเดียงสาต่อการเมือง
เขาคิดว่าการใช้วิธีที่เด็ดขาดรุนแรง จะทำให้คนอื่นยำเกรงในกฎหมายจนสามารถรักษาความสงบสุขของบ้านเมืองไว้ได้ดีกว่าสันติวิธี เขามองว่าผู้นำที่อ่อนน้อมต่อผู้อื่นเป็นการกระทำของคนอ่อนแอและไม่เด็ดขาด ผู้คนก็จะไม่เกรงกลัว ซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นคนหยิ่งทะนงไม่รู้จักอ่อนข้อให้ใคร ชอบมองอะไรเข้าข้างตัวเองด้านเดียวจนไม่ทันเกมการเมืองของคนอื่น
เขาหวังจะแบ่งเมืองกิจิ๋วคนละครึ่ง ก็โดนอ้วนเสี้ยวซ้อนกลหลอกให้ฮันฮกยกเมืองกิจิ๋วชุบมือเปิบคนเดียวแบบง่ายๆ
เขาหวังจะเข้าครอบครองเมืองอิจิ๋วจากอ้วนสุด ก็โดนอ้วนเสี้ยวแอบส่งลูกชายมายึดตัดหน้า แถมน้องชายของกองซุนจ้านก็ตายฟรี
อยากจะรบแตกหักกับอ้วนเสี้ยว ก็โดนเล่าหงีตัดกำลัง เพราะกลัวลูกชายที่เป็นตัวประกันของอ้วนเสี้ยวจะได้รับอันตราย
เมื่อโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขาสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ปล่อยให้อารมณ์โกรธแค้นเข้าครอบงำถึงขั้นส่งทหารบุกฆ่าเล่าหงีทั้งโคตร แล้วสั่งลงโทษราษฎรและลูกน้องอย่างป่าเถื่อน ทำให้ตัวเขากลายเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งแผ่นดิน คนเก่งๆ รอบตัวเขาต่างหนีหายหน้าไปหมด จนเมื่อถึงวันที่เขาตกต่ำลง ก็มีแต่คนรุมกระทืบซ้ำเติม หนีตายซมซานไม่ต่างจากสุนัขเร่ร่อนข้างถนนตัวหนึ่ง
ตอนที่เขาตั้งรับทัพอ้วนเสี้ยวอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในป้อมอี้จิง อ้วนเสี้ยวส่งทหารล้อมโจมตีเมืองรอบนอก เขากลับเชื่อมั่นใจแบบผิดๆ ว่าป้อมอี้จิงจะไม่มีวันแตก และหวังอย่างลมๆ แล้งๆ ว่าราชสำนักจะส่งทหารมาช่วยตีขนาบอ้วนเสี้ยวให้เขา จึงไม่ยอมออกไปช่วยเหลือใคร สุดท้ายเมืองรอบนอกโดนอ้วนเสี้ยวยึด ราชสำนักไม่ส่งทหารมาช่วยอย่างที่คิด และป้อมอี้จิงก็ถูกตีแตก กว่าที่เขาจะคิดอะไรได้ ทุกอย่างมันก็สายเกินไปเสียแล้ว....
นั่นคือต้นเหตุแห่งความวายวอดของขุนศึกม้าขาวแห่งภาคเหนือ ผู้ซึ่งถูกอำนาจโทสะและทิฐิมานะทำลายชื่อเสียงความดีงามจนหมดสิ้น แม้แต่ชีวิตตัวเองกับครอบครัวก็ไม่เหลือ....
โฆษณา