4 พ.ย. 2022 เวลา 15:52
ฎีกาที่ 2444/2542
ศาลชั้นต้นรับฟ้องให้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างคดีมโนสาเร่ จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทไม่ใช่อาศัยโจทก์และคำฟ้องเคลือบคลุม คดีโจทก์ขาดอายุความฟ้องร้อง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยให้การต่อสู้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทไม่เป็นคดีมโนสาเร่ต่อไป ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างคดีสามัญคำร้องขอแก้ไขคำให้การเป็นกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179 (3) ไม่ได้ดำเนินการตามมาตรา 180 จึงไม่อนุญาตให้ยกคำร้อง
ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยมีสิทธิแก้ไขคำให้การเพราะขณะยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างคดีสามัญ เห็นว่า แม้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นคดีมโนสาเร่และยังไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่งขณะจำเลยยื่นคำร้อง แต่จำเลยยื่นคำให้การเป็นหนังสือไว้แล้วก่อนหน้านั้น เมื่อไม่มีบทบัญญัติกฎหมายกำหนดโดยเฉพาะในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ลักษณะ 2 หมวดที่ 1 ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีสิทธิแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำให้การเป็นอย่างใดหรือเมื่อไรก็ได้ตามต้องการ
แต่ต้องนำบทบัญญัติในคดีสามัญมาใช้บังคับตามมาตรา 195 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คือการแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การในกรณีนี้อยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179 (3), 180 กล่าวคือกรณีที่ไม่มีการชี้สองสถานต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันเว้นแต่มีเหตุอันสมควรที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ก่อนนั้นหรือเป็นการขอแก้ไขในเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อย
เมื่อคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวโดยยื่นในวันเดียวกันกับวันสืบพยานโจทก์ ทั้งไม่ปรากฏเหตุที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ก่อนหรือเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อย หรือผิดหลงเล็กน้อยแต่อย่างใด คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตและยกคำร้องจึงชอบแล้ว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา