5 พ.ย. 2022 เวลา 02:26
ฎีกาที่ 1125/2564
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 และจำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดเป็นคดีนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 อันเป็นวันที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2560 มีผลใช้บังคับแล้ว คำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของจำเลยจึงตกอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 ที่แก้ไขใหม่
โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2560 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยังคงนำบทบัญญัติว่าด้วยการของให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคหนึ่ง (เดิม) มาปรับแก่คดีจึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย บทบัญญัติว่าด้วยการเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
แสดงว่า การจะเพิกถอนการขายทอดตลาด เพราะเหตุที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีบกพร่องผิดพลาด หรือฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตามบทมาตรานี้ ยังตกอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 331 วรรคสาม ที่แก้ไขใหม่ซึ่งบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งเสนอราคาสูงสุดแล้ว กฎหมายห้ามมิให้บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีโต้แย้งราคาขายของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยหยิบยกเรื่องราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดมีจำนวนต่ำเกินสมควรมาเป็นเหตุในการเพิกถอนการขายทอดตลาดอีกต่อไป
เพราะก่อนการขายทอดตลาด กฎหมายได้กำหนดหลักเกณฑ์ ให้บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีมีสิทธิเต็มที่ในการเข้าสู้ราคาเองหรือหาบุคคลอื่นเข้าสู้ราคาเพื่อให้ได้ราคาตามที่ตนต้องการแล้ว จึงไม่พึงให้มีการหยิบยกเหตุเกี่ยวกับราคาที่ได้จากการขายทอดตลาดมาเป็นข้อโต้เถียงเพื่อเป็นช่องทางในการประวิงการบังคับคดีให้ล่าช้าอีก สอดคล้องกับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2560
ดังนี้ ข้ออ้างตามคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ทรัพย์จำนองมีราคาสูงกว่าราคาขายทอดตลาดเป็นจำนวนมาก การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองในราคา 840,000 บาท นับว่าต่ำเกินไป จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 331 วรรคสาม ที่แก้ไขใหม่ จำเลยไม่อาจยกขึ้นอ้างเป็นเหตุเพิกถอนการขายทอดตลาดได้
ส่วนข้ออ้างของจำเลยที่อ้างต่อไปว่าภายหลังเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนอง จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ 900,000 บาท จนครบถ้วน และเสนอขอซื้อทรัพย์จำนองคืนจากผู้ซื้อทรัพย์ในราคาสูงถึง 1,500,000 บาท แต่ผู้ซึ่งซื้อทรัพย์ไปในราคาเพียง 840,000 บาท และยังมิได้ชำระราคากลับปฏิเสธคำเสนอของจำเลยโดยเห็นว่าหากจำเลยต้องการซื้อทรัพย์จำนองคืนต้องซื้อในราคา 2,000,000 บาท พฤติการณ์ของผู้ซื้อทรัพย์ส่อเจตนาไม่สุจริตต้องการหารกำไรโดยมิชอบนั้น เป็นการกล่าวถึงความไม่สุจริตของผู้ซื้อทรัพย์
มิต้องด้วยกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีบกพร่องผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย ที่ศาลมีอำนาจเพิกถอนหรือแก้ไขกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใดๆตามที่ศาลเห็นสมควรดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 295 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่ ข้ออ้างของจำเลยในส่วนนี้จึงมิใช่เหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาดและฟังไม่ขึ้น
กรณีจึงไม่มีเหตุต้องเพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลย การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของจำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา