Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฐปะนีย์ บุราไกร
•
ติดตาม
9 พ.ย. 2022 เวลา 04:06 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้นที่ 7 คำสัญญาที่ว่างเปล่า
+++++++++++++++
1....
[1] จุไรพร เป็นผู้หญิงที่หน้าตาบ้านๆ ธรรมดาๆ อาจจะไม่สวยเตะตาถึงกับต้องมองเหลียวหลังเหมือนนางละเวง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าซื้อเครื่องสำอางครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ด้วยภาระที่หนักอึ้งทำให้ลืมความสวยงามที่ควรจะได้รับการเอาใจใส่เหมือนเพื่อนๆในวัยเดียวกัน เธอบอกตัวเองเสมอว่า ถ้าเรามีเงินกินดีอยู่ดี ความสวยงามคงจะมาหาเองแหละ เพราะเธอเชื่อว่าเงินคือทุกอย่างนั่นเอง
[2] เธอเป็นพี่สาวคนโต น้องอีก2คน ต้องส่งเสียให้เรียนให้จบ ไหนจะแม่และยายที่แก่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ตาบอดมองไม่เห็น แม่ของเธอต้องรับภาระทุกอย่างในบ้านแทนเธอที่ต้องมาทำงานต่างอำเภอ
[3] พ่อทิ้งที่นา หมูจำนวนหนึ่งพร้อมหน้สินหลายแสนที่ทำให้จุไรพร ลืมว่าตนเองเป็นสาวอายุแค่ 25 ปีเท่านั้น
[4] แต่นับว่าโชคดีที่เธอเรียนจบปริญญาตรี ทำให้ภาระทั้งหมดมาตกที่เธอ พ่อจากไปไม่มีวันกลับด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ครอบครัวต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป ทำให้ความหวาดหวั่น โชคชะตาต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้
[5] จุไรพรไม่มีเวลาเสียใจ หลังพิธีศพของพ่อสิ้นสุดลง เธอเก็บกระเป๋าเดินทางไปบรรจุข้าราชการครูที่อำเภอท้องถิ่นกันดาร ฝากภาระต่างๆไว้ให้แม่ดูแลแทนเธอ วันเสาร์ อาทิตย์ค่อยมาแบ่งเบาภาระต่างๆช่วยแม่บ้าง
[6] จุไรพรมาบรรจุพร้อมกับสุริยพุฒ หนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน หลังจากรายงานตัว และรับเอกสารเพื่อถือไปที่โรงเรียนแล้ว เจ้าหน้าที่บอกทั้งสองคนว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนมารอรับเข้าไปโรงเรียนพร้อมกัน
[7] ผู้อำนวยการมาส่งถึงบ้านพักครูที่มีหลังเดียว เป็นบ้านไม้สองชั้น ข้างบนมี 3 ห้อง เป็นห้องใหญ่ 2ห้องตรงกันข้ามกัน อีกห้องหนึ่งเป็นห้องครัวเล็กๆ ตรงกลาง ชั้นล่างเป็นห้องน้ำ มีผนังกั้นรั้วรอบขอบชิด เปิดประตูชั้นล่าง แล้วขึ้นบันได จึงแยกย้ายเข้าแต่ละห้องนอน
[8] ผู้อำนวยการ ให้พักด้วยกัน เสียก่อน สักระยะ ค่อยให้สุริยพุฒขยับขยายเพราะเป็นผู้ชาย จุไรพรเลือกห้องใหญ่ทางทิศตะวันออก ส่วนสุริยะพุฒจึงเลือกห้องทางทิศตะวันตกโดยปริยาย
ห้องครัวคงต้องใช้ร่วมกัน
[9] ความกังวลทำให้จุไรพร ไม่สบายใจเรื่องบ้านพัก เพราะเขาเป็นหนุ่ม เธอก็เป็นสาว ความไม่เหมาะสม เธออดไม่ได้จึงไปเล่าให้ ผู้อำนวยการฟัง เย็นวันนั้นสุริยพุฒ จึงบอกเธอว่าไม่ต้องกังวลเพราะเขารับรองความปลอดภัยทุกอย่าง เธอไม่ใช่เสปคหรอกสบายใจได้ ทำให้จุไรพรไม่พอใจกระแทกเสียงใ่ส่เขาแบบไม่พอใจว่าขอให้จริงเถอะ
2….
[10] คงจะจริงของสุริยพุฒ เพราะตั้งแต่วันนั้น จุไรพรก็ไม่ค่อยเห็นเขา ออกจากห้อง เธอสังเกตว่าเขาจะออกจากจากห้องเมื่อเธอไปถึงโรงเรียนแล้ว หรือเธอเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ทำให้จุไรพรคลายความกังวลใจ ทุกอย่างลงตัวไม่มีปัญหาทั้งเรื่องที่พักและงานสอนที่รับผิดชอบ
[12] สุริยพุฒ หนุ่มเจ้าสำราญ สนุกสนาน เป็นลูกคนเดียว ของพ่อแม่ เขาเป็นคนรูปร่างสูงโปร่ง จมูกโด่งเป็นสันคม รับกับใบหน้าที่หล่อเหลา ใครพบเห็นต้องมองเหลียวหลัง เพราะความหล่อเหลาเอาการของเขายังกับอิเหนา เขาไม่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบใครๆ พ่อแม่รับราชการครูสอนอยู่ในตัวอำเภอเดียวกับเขามาบรรจุ ครอบครัวเพียบพร้อม ฐานะค่อนข้างร่ำรวยมั่นคง เขาต้องปรับตัวเรื่องห้องพักที่ไม่มีไฟฟ้า น้ำอาบน้ำใช้ต้องตักมาใส่ตุ่ม รู้สึกไม่สะดวก ไม่สบายไปทั้งหมดแต่เขาก็พยายามที่จะอยู่ให้ได้
[13] ครั้นเมื่อต้องอยู่บ้านพักร่วมกับหญิงสาว แรกๆเขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย กลัวว่าเพื่อนร่วมบ้านจะอึดอัด เพราะเขาชอบดื่ม เข้าสังคม เลิกงานชอบเตะฟุตบอลกับนักเรียน ก่อนกลับเข้าบ้านพัก เขามักจะเข้าไปในหมู่บ้าน สังสรร พบปะ กินข้าว ดื่ม ทำความรู้จักกับผู้นำชุมชน และบ้านท่านผู้อำนวยการเป็นประจำดึกๆ เข้าบ้านพัก จึงไม่แปลกที่เขาจะเป็นที่รู้จักของสาวแก่ แม่หม้าย และไม่หม้ายทั้งหมู่บ้าน
[14] วันนี้เป็นวันศุกร์หลังจากเตะฟุตบอลกับเด็กๆสุริยพุฒ ขับมอเตอร์ไซด์เอ็นดูโร่ คู่ใจ เข้าไปกินต้มไก่ที่บ้านผู้อำนวยการ เขาดื่มได้ที่ คุยอย่างสนุกสนาน กลับเข้าบ้านเกือบตีสอง แต่เข้าบ้านไม่ได้เพราะลืมกุญแจประตูบ้าน ชั้นล่าง เขาเรียกให้จุไรพรมาเปิดประตู นานมาก เธอจึงมาเปิดให้ เหตุการณ์ที่ทั้งสองไม่อยากให้เกิด ก็เกิดขึ้นจนได้
[15] รุ่งเช้าเขาตื่นขึ้นมาพบว่าที่นอนแปลกตา กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำยาปรับผ้านุ่ม แสงแดดตอนเช้าที่ลอดออกจากรูหน้าต่าง ส่องเข้ามาใบหน้าของเขา ทำให้เขาค่อยๆลืมตาขึ้นดู ปกติวันเสาร์เขาจะตื่นสายมากเกือบ 11 โมง เขาจะกลิ้งเกลือกกับที่นอนหลังจากเข้าห้องน้ำแล้ว เพราะเป็นวันว่าง แต่วันนี้ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ เขาทะลึ่งพรวดตื่นขึ้นด้วยความตกใจทบทวนเรื่องราวที่เกิดเมื่อคืน พลอยทำให้จุไรพรตกใจตื่นขึ้นมาพร้อมกับเขา
[16] สุริยพุฒ ละล่ำละลักขอโทษ พร้อมบอกจุไรพรว่า เขาพร้อมที่จะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นความผิดของเขาเอง จุไรพรได้แต่นิ่งเงียบ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เธอไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกันในฐานะสามี ภรรยา จุไรพรไม่ปฏิเสธเพราะเธอก็แอบมีใจให้สุริยพุฒ ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาบรรจุด้วยกัน แต่เพราะเขาแสดงอาการรังเกียจ เธอ จึงพยายามห่างเขาให้มากที่สุด
[17] 6 เดือนที่ทั้งสองคนใช้ชีวิตร่วมกัน สุริยพุฒก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติที่เขาชอบ คือหลังเลิกงาน เตะฟุตบอลกับนักเรียน แล้วเข้าไปพบปะ สังสรรในหมู่บ้าน ดื่มเมามายกลับบ้านตอนตีสองของทุกๆวันเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จุไรพรไม่กล้าตั้งความหวังกับเขา แต่เธอต้องบอกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเธอให้เขารับรู้
[18] จุไรพรบอกเขาว่าเธอท้องได้ 2 เดือนกว่าๆ เขาจึงพาเธอไปฝากครรภ์ ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง ไม่บ่น ไม่ต่อว่าเธอ จุไรพรแอบภูมิใจลึกๆแม้ว่าเขาจะไม่เคยบอกใครๆ ว่าเธอคือภรรยาของเขาก็ตาม แต่เพื่อนๆร่วมงานและผู้อำนวยการก็รับรู้เป็นนัยๆ
[19] หลังจากที่สุริยพุฒรู้ว่าจุไรพรท้องเขาไม่เข้าไปในหมู่บ้าน หลังจากเตะฟุตบอลกับนักเรียนเสร็จ เขาจะกลับบ้านพักทำกับข้าว ทานข้าวด้วยกัน ทำหน้าที่สามีที่ดี ไม่ขาดตกบกพร่อง ดูแลน้ำอาบน้ำใช้ ช่วยจุไรพรล้างจานบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ให้เธอยกของหนัก ช่วยถือของ กระเป๋าสื่อการสอนที่เธอง่วนทำทั้งคืน เอาใจใส่ เหมือนจะรักและห่วงใยเธอตลอด แต่เขาไม่เคยเอ่ยปากบอกว่า “รักเธอ” แม้แต่คำเดียว
[20] ทั้งสองจดทะเบียนสมรสเงียบๆ ไม่จัดพิธีแต่งงานอย่างเอิกเกริกเหมือนคนอื่นๆ จุไรพรส่งข่าวให้แม่รู้เรื่องของเธอกับสุริยพุฒ และบอกว่าเธอตั้งท้องกำลังจะคลอดลูก แม่เงียบไม่พูดอะไร บอกเธอว่าลูกโตแล้ว แม่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ลึกๆจุไรพร ก็อยากแต่งงานประกาศให้ญาติพี่น้องรู้บ้าง แต่สุริยพุฒบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ขอเพียงให้เธอคลอดลูกออกมาปลอดภัยเขาจะอยู่ดูแลและช่วยกันเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นเด็กดีก็น่าจะเพียงพอ
[21] แต่สำหรับจุไรพรไม่เพียงพอเท่านั้น เธอต้องการความรักจากเขาบ้าง แม้ว่าเขาจะแสดงออกเหมือนว่าเขารักเธอเหลือเกิน แต่เธอรู้อยู่แก่ใจ คำพูดของเขาก้องอยู่ในหูตลอดว่า “เธอไม่ใช่เสปคของเขา” ทำให้เธอหลับยากขึ้นไหนจะท้องแก่ ลูกดิ้นแรงขึ้นทุกวัน สุริยพุฒต้องลุกขึ้นกลางดึกเพราะจุไรพร พลิกตัวบ่อย เขาจึงลูบท้องเธอเบาๆ ให้คลายกังวล
3…..
[22] จุไรพรได้ลูกชายสมดั่งใจของสุริยพุฒ เขารักลูกมากๆ ทั้งสองเลี้ยงลูกช่วยกันช่วงที่จุไรพรลาคลอด สุริยพุฒไม่ห่างจากเธอกับลูก เขาเอาใจใส่ดูแลเธอ อาหารการกินช่วยซักผ้าอ้อม ลุกขึ้นกลางดึกอุ้มลูก ให้เธอให้นมลูก วันเสาร์ อาทิตย์ ทั้งสองช่วยกันเลี้ยงลูก จนจุไรพรแข็งแรง หมดเวลาลาคลอด เธอจึงปรึกษากับสุริยพุฒว่าจะเอาลูกไปให้แม่เลี้ยง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเธอจะได้ไปหาแม่บ่อยขึ้น เขาก็ไม่ขัด ข้องอะไร จุไรพรจึงส่งลูกไปให้แม่เลี้ยงตั้งแต่ลูกอายุได้เดือนกว่าๆ
[23] จุไรพรจะไปหาแม่ ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ คนเดียว สุริยพุฒมักจะบ่ายเบี่ยงนั่นนุ่นนี่ตลอด พยายามเลี่ยงไม่ไปเยี่ยมลูกกับเธอ แต่เธอก็ไม่ใส่ใจเพราะจุไรพรห่วงลูกมากกว่า เขาให้บัตรเอทีเอ็มเธอจัดการเรื่องนม และค่าใช้จ่ายกับลูก
[24] จุไรพรกลับบ้านทีไร น้ำตาเธอจะไหลกลับมาที่โรงเรียนตลอด เห็นแม่ลำบาก ไหนจะเลี้ยงหลาน เลี้ยงหมู ทำงานงกๆคนเดียวสารพัด เธอจึงปรึกษากับสุริยพุฒว่าจะย้ายไปอยู่ดูแลแม่และไปเลี้ยงลูกเอง สุริยพุฒก็ไม่ขัดข้อง เขาบอกว่าให้เธอย้ายไปก่อน ปีหน้าเขาจึงจะย้ายตาม แต่จุไรพร รู้สึกไม่สบายใจลึกๆว่า เขาจะไม่ไปอยู่กับเธอแน่ๆ ขนาดชวนไปเยี่ยมลูกเขายังไม่ไป และไม่ถามสารทุกข์สุกดิบว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง
[25] จุไรพรเป็นห่วงสุริยพุฒที่ต้องอยู่คนเดียว แต่เขาบอกว่าเขาอยู่ได้สบายมากไม่ต้องห่วง “ผมสัญญาว่าปีหน้าผมจะย้ายตามคุณไปอยู่กับคุณและลูก ไม่ต้องห่วงหรอก”
จุไรพรย้ายมาอยู่โรงเรียนบ้านของตัวเอง เธอมีเวลาอยู่กับลูก เลี้ยงลูกเองตอนกลางคืน ช่วยแม่ดูแลงานบ้าน เลี้ยงหมู เงินทองก็เริ่มมีพอได้จับจ่ายใช้สอยบ้าง
[26] ปิดภาคเรียนจุไรพร จะพาลูกมาหาสุริยพุฒครั้งหนึ่ง เพราะตั้งแต่เธอย้ายไปเขาก็ไม่ไปหาเธอกับลูกเลย เขาอุ้มลูก ท่าทางดีใจ เขาแสดงออกว่าเขารัก ห่วงลูก เขาพาเธอและลูกเข้าไปในเมือง ซื้อสิ่งของจำเป็น สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายพอเพียงไหม ถ้าไม่พอให้บอกเขาจะได้เพิ่มให้ จุไรพรบอกเขาว่าพอใช้พอจ่าย ให้เขาเก็บเงินไว้ แล้วถามเรื่องย้ายให้เขาส่งเรื่อง เดี๋ยวจะไม่ทันเวลาเขาพิจารณา สุริยพุฒยิ้มแล้วบอกเธอว่าส่งแล้วกำลังรอลุ้นอยู่ว่าจะได้ไปอยู่ด้วยกับเธอหรือเปล่า
[27] 2-3 ปีผ่านไปลูกชายเข้าเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง เธอสงสัยว่าทำไมเรื่องย้ายของเขาจึงไม่อนุมัติสักที เธอจึงไปสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่บอกเธอว่าไมเคยมีชื่อนี้ส่งเรื่องย้ายเข้ามาเลย จุไรพรรู้สึกผิดหวัง เสียใจ เหมือนค้อนปอนด์ทุบลงมาที่กลางศรีษะ ใจหวิวๆเหมือนที่จะเป็นลม ที่ผ่านมาเขาโกหกเธอตลอด เขาบอกเธอว่าส่งทุกปีแต่ไม่ได้ เธอเชื่อเขาเพราะคำพูดหวานๆของเขา
[28] จุไรพรกำลังสอนอยู่ มีนักเรียนมาบอกว่ามีคนขี่มอเตอร์ไซด์ มาหาคุณครู อยู่หน้าโรงเรียน บอกให้ครูไปหา เธอรีบมาสุริยพุฒนั่นเอง เธอดีใจมากที่เห็นเขามาหาเธอเป็นครั้งแรก จุไรพรจึงรีบเล่าเรื่องลูก ว่าเขาเรียนเก่งมากๆอยู่ ป 1 แล้วนะ เธอจึงบอกนักเรียนให้ไปเรียกลูกมาหา แต่เขาบอกว่าไม่ต้อง ”ผมรีบมาบอกคุณแล้วจะรีบไป” เธอตกใจถามเขามีเรื่องด่วนอะไร
[29] สุริยพุฒบอกเธอว่าเขาทำผู้หญิงท้อง และต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น “ผมจะมาขอหย่ากับคุณ” จุไรพรน้ำตาไหลพรากถามเขาว่าเธอผิดอะไร ระล่ำระลัก ถามพรั่งพรูทั้งน้ำตา น้ำลายปะปนกันไปหมด เขาบอกว่าเธอไม่ผิด เธอดีเกินกว่าที่เขาจะอยู่ด้วย เขายินดีจ่ายค่าเลี้ยงดูลูกจนเขาเติบใหญ่มีหน้าที่การงาน จุไรพรพยายามหว่านล้อม คิดถึงวันเก่าๆที่มีร่วมกัน แต่สุริยพุฒมีสีหน้าเฉยเมย ไม่มองหน้าเธอเขาหันหลังพร้อมก้าวขึ้นรถเพื่อนัดวันไปหย่าที่อำเภอ
[30] จุไรพรยืนงงพร้อมน้ำตาที่ไหลพรากอาบแก้ม มิน่าละเขาไม่ส่งเรื่องย้ายมาหาเธอ เขาหาทางบ่ายเบี่ยงที่จะมาหาเธอกับลูก แม้แต่แม่พ่อของเขา จุไรพรก็ไม่เคยเห็นหน้า เขาไม่เคยพาเธอไปกราบไหว้พ่อแม่เขาเลย สุดท้ายคำสัญญาก็ว่างเปล่า ไม่มีคุณค่า และความหมายอะไรเลย
[31] เธอรู้ดีว่าเขาไม่เคยรักเธอและลูก แต่เธอพยายามทำคุณงามความดี ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีอย่างสุดความสามารถที่ลูกผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ เธอคิดว่าลูกคือโซ่ทองที่จะคล้องใจเขาไว้ เธอคิดไปเองทุกอย่าง ไม่คิดว่าชีวิตเธอกับลูกจะมาลงเอยแบบนี้ จุไรพรสงสารลูกมากมายยิ่งนัก แต่ชีวิตเธอต้องก้าวหน้าและไปต่อ ได้แต่บอกตัวเองว่าเธอต้องแกร่งเพื่อลูก แม่ ยายและน้องๆเธอ บอกตัวเองว่าคำสัญญาที่พูดไว้เหมือนลมที่พ่นออกจากปาก หากไร้คนยึดถือปฏิบัติก็ไร้ซึ่งความหมายนั่นเอง
ธีม: คำสัญญาจะเกิดขึ้นได้ต้องมีคู่สัญญา หากสัญญาใดก็ตามที่คนหนึ่งยึดมั่นแต่อีกฝ่ายไม่สนใจ คำสัญญานั้นย่อมเป็นคำสัญญาที่ว่างเปล่า
#ชอบกด like ถูกใจกดlove โดนใจสุดกด Share
#คำสัญญาที่ว่างเปล่า
#ฐปะนีย์ บุราไกร
#คุณยายเล่าว่า
#จอมยุทธโกร่งกร่าง
#ขอบคุณมิตรภาพผ่านตัวอักษร
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย