21 พ.ย. 2022 เวลา 01:48 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ความร่วมมือทวิภาคีไทย-สปป.ลาว และโอกาสในสายสัมพันธ์
ประเทศไทยของเรามีความสัมพันธ์และร่วมมือกับนานาประเทศทั่วโลก แน่นอนค่ะ สำหรับประเทศ บ้านใกล้เรือนเคียงที่มีที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบประเทศไทย นั้น การรักษาและส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศเลยล่ะค่ะ
วันนี้ นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ หรือ ‘รองนิ้ง’ จะมาฉายภาพความร่วมมือทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า ‘สปป.ลาว’ ซึ่งนอกจากจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกอาเซียน ซึ่งไทยและลาวมีความร่วมมือในหลากหลายสาขา และยังพร้อมที่จะร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายด้าน เช่น ด้านเศรษฐกิจและสังคม
โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านรายการเวทีความคิด https://youtu.be/DxnWJmiyECs) ตอน “ความร่วมมือทวิภาคีไทย-สปป.ลาว และโอกาสในสายสัมพันธ์” ค่ะ
ภาพอนุสาวรีย์ Patuxai ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว จาก istockphoto.com/pressdigital
หากจะกล่าวถึงระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว นั้น ท่านรองนิ้งให้ความเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจัดอยู่ในระดับดีมาก สปป.ลาวถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน
แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-๑๙ จะมีข้อจำกัดในการเดินทางอยู่บ้างก็ตาม มีการหารือกันอย่างสม่ำเสมอ ในทุกสาขาระหว่างผู้แทนในทุกระดับ ตั้งแต่ ท่านนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา รัฐมนตรี ไปจนถึงผู้บริหารของกระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ ในประเด็นที่มีความสำคัญ เช่น ความมั่นคง เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระดับประชาชน การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศหลังยุคโควิด-๑๙ ผ่านช่องทางโทรศัพท์ และการประชุมทางไกล
ภาพนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission - JC) ไทย - ลาว ครั้งที่ ๒๒ ร่วมกับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ ที่กรุงเทพฯ จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ ๓ - ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๒ ซึ่งนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมร่วมกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ภาพนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
ล่าสุด นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑ – ๒ มิถุนายน ๒๕๖๕ ในฐานะแขกของรัฐบาลไทย และได้รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในฐานะที่เป็นผู้มีบทบาทโดดเด่นในการวางรากฐาน
ด้านการศึกษาใน สปป. ลาว
ในระหว่างการเยือน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้กล่าวปาฐกถาในงาน Thai-Lao Business Talk and Networking เกี่ยวกับโอกาสการลงทุนใน สปป. ลาว การเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ และกิจกรรมเสริมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ โดยมีนักธุรกิจชั้นนำจากทั้ง สปป. ลาวและไทยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ยังได้พบหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีของไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องการยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” และเป็นสักขีพยานการลงนาม “แผนปฏิบัติการว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย - สปป. ลาว เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๙)”
และบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว และการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป. ลาว ฉบับปี ค.ศ. ๒๐๒๒
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะเพิ่มความเข้มงวดในความร่วมมือด้านความมั่นคง อาทิ การลาดตะเวนตามแนวชายแดน การปราบปรามการค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซนเตอร์
ภาพด่านชายแดนไทย-ลาว จากเว็บไซต์สยามรัฐ
ด้านความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ ไทยและ สปป.ลาว มีความเชื่อว่า การเปิดด่านชายแดนไทย-ลาว จะช่วยกระตุ้นการค้าและการลงทุนในแถบชายแดน รวมถึงการเชื่อมเมืองระหว่างหลวงพระบางของลาว กับจังหวัดภาคเหนือของไทย และการก่อสร้างสะพานเชียงแมน-หลวงพระบาง จะช่วยทำให้การท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ไทย และ สปป. ลาว มีภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น คือ ความเข้าใจและเชื่อใจกันระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศมีบทบาทในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น ๆ โดยในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (Thailand International Cooperation Agency: TICA) ได้มอบทุนการศึกษาและให้การสนับสนุนทางวิชาการแก่ สปป. ลาว นับเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ ๓๕๐ ล้านบาท ครอบคลุมกระบวนการอบรมในสาขาต่าง ๆ ทั้งภาคการเกษตร และสาธารณสุข อีกทั้งยังมีสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพ ช่วยทำหน้าที่เป็นสะพานมิตรภาพและศูนย์รวมใจที่ทำให้คนไทยและคนลาวใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย
ดิฉันเชื่อว่าการที่ไทยและสปป.ลาว มีวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายไปในทิศทางที่สอดคล้องกัน เป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน จะสามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เพื่อรับมือและลดทอนความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมส่งผลดีต่อประเทศชาติและประชาชนสืบต่อไปค่ะ
พิมพ์ภัทรา ณ กาฬสินธุ์
เจ้าหน้าที่ติดตามและวิเคราะห์ข่าว
กรมสารนิเทศ
โฆษณา