11 พ.ย. 2022 เวลา 05:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
10 เทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนทิศทางในอนาคต
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่หลายบริษัทควรเล็งเห็นถึงความสำคัญ เพราะมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทในยุโรปที่แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดในการปฏิวัติเทคโนโลยี จึงทำให้ต้องหันมาจัดการกับช่องว่างของเทคโนโลยี ซึ่งหากไม่ประสบความสำเร็จในด้านการแข่งขันของเทคโนโลยีเหล่านี้ ก็อาจส่งผลกระทบไปถึงฐานอุตสหกรรมดั้งเดิมของยุโรปได้เช่นเดียวกัน
เราจึงได้สรุป 10 เทรนด์เทคโนโลยีในโลกธุรกิจจาก McKinsey Digital เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของธุรกิจต่าง ๆ ที่จะสามารถเปลี่ยนโลกอนาคตไปได้อย่างสิ้นเชิง
1 Next Level Automation
สำหรับเทรนด์นี้จะมีการนำเทคโนโลยีในกลุ่มของหุ่นยนต์ เทคโนโลยีประยุกต์ Digital twins และ 3D หรือ 4D ที่มาใช้ในระบบการดำเนินงานร่วมกันเพื่อใช้ในการทำงานประเภทงานประจำวัน ซึ่งช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเร่งให้ธุรกิจเข้าถึงตลาดได้ในระยะเวลาที่เร็วขึ้น
โดยจะมีการใช้ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติและการจำลองทรัพยากรจริงบนระบบคอมพิวเตอร์
2 Future of Programing
การเขียนโปรแกรมจากเดิมที่ทำโดยโปรแกรมเมอร์จะถูกแทนที่ด้วย Software 2.0 ซึ่งเป็นแนวคิดที่ให้ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาอัตโนมัติ โครงข่ายเหล่านี้มีศักยภาพในการเขียนโปรแกรมการใช้งานในระดับที่ซับซ้อน และใช้ในนวัตกรรมล้ำสมัย
การเข้ามาของ Software 2.0 จะช่วยสร้างวิธีการเขียนโปรแกรมแบบใหม่ ๆ และลดความซับซ้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับแต่ละองค์กรมากยิ่งขึ้น
3 Future of Connectivity
เทคโนโลยีสำหรับการเชื่อมต่อ อย่าง 5G และระบบ IoT ที่จะทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็วขึ้นและทำงานในระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจโดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบการผลิตแบบดิจิทัล ผ่านการควบคุมเครื่องมือ เครื่องจักร โดยส่วนใหญ่จะพบการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้จาก 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ , การดูแลสุขภาพ , การผลิต และการค้าปลีก
ในปัจจุบันรวมไปถึงอนาคต 5G ก็ได้ครอบคลุมการใช้งานในประชากรกว่า 80% ทั่วโลก ซึ่งเทคโนโลยีชิ้นนี้จะเข้าไปช่วยให้การเชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น และช่วยสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน เช่น ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ VR
4 Trust architecture
โครงสร้างสถาปัตยกรรมไอทีที่มอบความปลอดภัยให้ผู้ใช้งาน จะสร้างความน่าเชื่อถือระหว่างบุคคลต่อบุคคล ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้โดยปราศจากคนหรือหน่วยงานส่วนกลางคอยควบคุมด้านความปลอดภัย ซึ่งการมีระบบรักษาความปลอดภัยในเครือข่ายก็จะช่วยลดต้นทุนในการตรวจสอบความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี
เทคโนโลยีนี้จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ ซึ่งเหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และเทคโนโลยีนี้ก็จำเป็นต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกเช่นเดียวกัน เนื่องจากธุรกิจค้าปลีกล้วนมีข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็จะเข้ามาอุดรอยรั่วของปัญหาในการขโมยข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ทำให้องค์กรมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
5 Distributed infrastructure
เป็นการรวมกันของนวัตกรรมอย่าง Cloud และ Edge computing ที่จะช่วยให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กรมีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึง Data ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ในหลาย ๆ พื้นที่พร้อมกันได้ทั้งระยะใกล้และไกล ซึ่งเทรนด์นี้จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเพิ่มความเร็ว และความคล่องตัว อีกทั้งยังช่วยลดความซับซ้อนของการทำงานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ด้านสาธารณูปโภค , ด้านการศึกษา
และรวมถึงด้านการผลิต
6 Bio revolution
การร่วมมือกันระหว่างความก้าวหน้าชีวภาพควบคู่กับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งหมดนี้จะช่วยขับเคลื่อนกระแสการปฏิวัติเทคโนโลยีทางชีวภาพครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นการสร้างอิทธิพลสำคัญต่อเศรษฐกิจ ชีวิตของมนุษย์ และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่สาธารณสุข เกษตรกรรม จนไปถึงสินค้าอุปโภค
จากงานวิจัยของสถาบัน Mckinsey Global Institute เผยว่าเทคโนโลยีชีวภาพมีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นการปฏิวัติเทคโนโลยีชีวภาพจึงถือว่าเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงในการแข่งขันอุตสาหกรรมอย่างมากเลยทีเดียว
7 Next-generation computing
การที่ระบบคอมพิวเตอร์จะถูกพัฒนาไปสู่ระบบคอมพิวเตอร์ควอนตัม ระบบคอมพิวเตอร์แบบที่เลียนการทำงานของสมองจริง ซึ่งระบบเหล่านี้จะอาศัยการทำงานร่วมกับไมโครชิปแบบพิเศษที่เรียกว่า Application-Specific Integrated Circuits (ASICs) โดยระบบคอมพิวเตอร์ในอนาคตตัวนี้จะสามารถช่วยตอบคำถามของปัญหาทางวิทยาศาสตร์และทางสังคม อีกทั้งยังช่วยปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนได้
นอกจากนี้สิ่งนี้ยังเป็นสัญญาณดีในการช่วยลดเวลาในขั้นตอนการพัฒนาทางเคมี และทางเภสัชศาสตร์ ช่วยเร่งให้เกิดยานยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ทำงานบนระบบ AI ควอนตัม และในขณะเดียวกันก็จะช่วยลดเรื่องต้นทุนของการติดตั้งฮาร์ดแวร์ได้อีกด้วย
8 Next-gen materials
ในอนาคต นวัตกรรมใหม่จะมาจากวัสดุนาโนต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้ดีและนำ้หนักเบา ซึ่งจะช่วยตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าวัสดุปัจจุบัน จึงทำให้วัสดุกลุ่มนี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในอนาคต
ความก้าวหน้าของชิ้นส่วนวัสดุในรุ่นถัดไปจะส่งผลโดยตรงไปยังอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ และการผลิต โดยอุตสาหกรรมเหล่านี้จะสามารถใช้วัสดุที่ยั่งยืน มีประสิทธิภาพสูง และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับการประมวลผลด้วยพลังงานสะอาด เทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนวัสดุที่ทันสมัยนี้ก็จะสร้างวัสดุที่ชาญฉลาด ที่สามารถรองรับกับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย
9 Applied AI
การนำเอา AI มาพัฒนาด้วยอัลกอริทึม AI ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้จะช่วยให้คอมพิวเตอร์มีการทำงานที่เหมือนจริงมากยิ่งขึ้น เทรนด์นี้จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ตรงจุด ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้พัฒนาระบบโต้ตอบระหว่างคนกับเครื่องจักรได้ดียิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการช่วยให้เกิดการประยุกต์ใช้ใหม่ ๆ เช่น ช่วยให้พนักงานลดภาระหน้าที่ที่ไม่จำเป็นลง
10 Future of clean tech
ในช่วงเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ความต้องการพลังงานสะอาดจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะรวมไปถึงระบบการกระจายพลังงานอัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดนี้ก็จะนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น การนำไปใช้กับพลังงานหมุนเวียน การแปรเปลี่ยนขยะสู่พลังงาน หรือแม้แต่ระบบขนส่งที่จะขับเคลื่อนแบบไฮบริด
เพราะฉะนั้นแต่ละองค์กรต้องมีการปรับตัวให้ทันและเลือกลงทุนงบประมาณในพลังงานสะอาดให้มากกว่าพลังงานดั้งเดิมที่มีอยู่ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าอุตสาหกรรมพลังงานจะอยู่เป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน
อ่านในรูปแบบเว็บไซต์ได้ที่ : https://www.theenterprise.cc/features/europe-future-competitiveness-depends-on-10-technology/
โฆษณา