11 พ.ย. 2022 เวลา 04:47 • ข่าว
สุดยอดเรื่องราว ที่ไม่อ่านไม่ได้เลย เพจเล่าเรื่องจริงของอาจารย์หมอเชียงใหม่วัย 28 ปี เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เผยแพร่เพียง 15 ชั่วโมง มีคนกดไลค์ไปแล้ว 300,000 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 133,000 แชร์
1
ขึ้นต้นว่า เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย แพร่กระจายข้ามไปที่ปอดอีกข้าง แพร่กระจายไปเยื่อหุ้มปอด และไปที่สมองด้วย
4
เปิดตัวเพจเพื่อสังคมของอาจารย์แพทย์วัยเพียง 28 ปี ที่เล่าเรื่องราวทั้งหมด และมีคนติดตามเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้
คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล เป็นอาจารย์แพทย์หนุ่มหล่อวัยเพียง 28 ปี ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของตนเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่ได้อ่าน
โดยผู้เขียนจะร้อยเรียงเรื่องราวดังนี้
วัยเด็ก … คุณหมอเกิดในครอบครัวใหญ่แบบคนจีน ที่มีอากงอาม่าลูกหลานนับ 10 คน อยู่ในบ้านเดียวกัน
คุณหมอบรรยายว่า เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ตนเองทั้งกินเก่ง เล่นเก่ง พูดเยอะ บรรยายภาพตนเองว่า เป็นเด็กน้อยตาตี๋ อ้วนกลม ที่อารมณ์ดีมากๆ
1
วัยรุ่น … แต่เมื่อเติบโตเข้าสู่ชั้นมัธยมการศึกษาตอนต้น คุณพ่อคุณแม่ก็ตัดสินใจห่างกัน ซึ่งคุณหมอมีมุมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับท่านทั้งสอง
คุณหมอคิดว่า ตนเองโชคดีที่เจอสถานการณ์แบบนี้ ทำให้ต้องเป็นผู้ใหญ่ทันที ต้องพัฒนาตนเองแบบก้าวกระโดด อาศัยอยู่กับเพียงแม่และน้องสาว ส่วนคุณพ่อแยกตัวออกไป
2
คุณหมอบรรยายต่อไปว่า ขอบคุณเหตุการณ์ที่คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน ทำให้ตนเองได้มีเวลาและความสนใจ ที่จะอ่านหนังสือในการพัฒนาความคิดและทัศนคติต่างๆ
2
ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ก็คงจะมีชีวิตเป็นแบบคุณชาย เป็นเด็กมัธยมธรรมดาธรรมดาคนหนึ่ง
2
คุณหมอยังบรรยายต่อไปว่า ตนเองเป็นคนที่มีเพื่อนมากในสมัยมัธยมต้องเรียกว่า ระดับความสำคัญของเพื่อนนั้นสำคัญมากกว่าการเรียนด้วยซ้ำไป
โรงเรียนสวนกุหลาบ … คุณหมอเรียนอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบตลอด 6 ปีเต็ม เป็นรุ่น OSK 131 บรรยายช่วงของการมีความสุข ทั้งรักเพื่อน รักโรงเรียน
2
สวนกุหลาบได้ปลูกฝังให้เป็น “สุภาพบุรุษสวนกุหลาบ” ที่รักเพื่อน เคารพพี่ นับถือครู กตัญญูพ่อแม่ ดูแลน้อง
9
คณะแพทยศาสตร์เชียงใหม่ … หลังจากจบที่โรงเรียนสวนกุหลาบแล้ว คุณหมอรับผิดชอบตนเอง จนสามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รุ่นที่ 56
2
จึงเดินทางขึ้นเหนือในวัย 18 ปี คุณหมอบรรยายว่ามาคนเดียว ต้องเริ่มมีเพื่อนใหม่ และด้วยการมีทัศนคติและอุปนิสัยใจคอที่เข้ากับคนได้ง่าย จึงทำให้มีเพื่อนมากมาย
1
รักเชียงใหม่มาก รักเพื่อนเพื่อน ได้เรียนรู้เรื่องอาหาร วัฒนธรรม การพูดคำเมือง การใช้ชีวิต และแน่นอน บาสเกตบอล คุณหมอเด่นเรื่องการเป็นนักบาสเกตบอลของคณะ ทำให้ได้รู้จักผู้คนมากมาย
แพทย์เฉพาะทาง… หลังจากเรียนจบแพทย์ภายในเวลากำหนด 6 ปี ก็ได้ตัดสินใจใช้ทุนพร้อมกับเรียนเป็นแพทย์เฉพาะทาง สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine) ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
1
และรับผิดชอบดูแลตนเอง จบแพทย์เฉพาะทางได้ในสามปี ได้เรียนเฉพาะทางลึกลงไปทางด้านระบาดวิทยาคลินิก ซึ่งเป็นการเรียนเกี่ยวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การใช้สถิติ ทำให้การดูแลรักษาโรคต่างๆดีขึ้น
4
และยังได้จัดสรรเวลาไปเรียน ปริญญาโทสาขาวิทยาการข้อมูล (Data Science) ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ด้วย
1
คุณหมอบอกว่าชีวิตในช่วงนี้ แม้จะเรียนหนัก ทำงานหนัก แต่มีความสุขและสนุกมากกับการทำงาน และสามารถดำเนินการจนสำเร็จตามเป้าหมายทุกอย่าง
ทั้งจบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสำเร็จปริญญาโทดังกล่าวด้วย
3
ในปัจจุบัน คุณหมอได้บรรจุเป็นอาจารย์แพทย์ของภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยงานการนั้นก็จะได้ร่วมกับสุดยอดของอาจารย์แห่งยุค และทีมงานคุณภาพ
2
และยังกำลังจะแต่งงาน สร้างบ้านเพื่อเป็นรากฐานชีวิตครอบครัวกับหญิงที่ตนเองรักที่สุด
1
คุณหมอบรรยายต่อไปว่า ตนเองเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายมาก ทั้งเล่นกีฬาบาส และเข้ายิมเป็นประจำ
ดูแลตนเองเสมอ ให้ความสำคัญทั้งเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อนนอนหลับ การหลีกเลี่ยงอบายมุขต่างๆ เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ติดตามการลงทุน
กล่าวโดยสรุปก็คือ เหมือนกับคนรุ่นใหม่ที่ Productive
2
แต่สุดท้ายข่าวร้ายก็ปรากฏขึ้นทันทีคือ เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายหรือระยะลุกลาม
4
คุณหมอยังได้บรรยายต่อไปว่า เมื่อสามเดือนก่อน เริ่มมีการไอ มีทั้งไอแห้งบ้าง ไอมีเสมหะบ้าง เมื่อตรวจหาโควิดก็ไม่พบ ได้ทำการรักษาอาการไอแบบเป็นกรดไหลย้อน แต่ก็ไม่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่มีอาการไอเรื้อรัง คุณหมอมีความแข็งแรงดีมาก สามารถทำงานได้ตามปกติ แม้กระทั่งการเล่นกีฬาบาสเกตบอลที่ตนเองรัก ก็สามารถทำได้โดยไม่รู้สึกผิดปกติอย่างใด
2
จนเมื่อเวลาผ่านไป 2 เดือน อาการไอยังไม่หาย จึงได้ไปตรวจสุขภาพ แล้วก็ส่งผลให้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเลยทีเดียว
2
กล่าวคือ ผลจากการเอ็กซเรย์ปอดพบว่า ปอดข้างขวาเหลือเพียงครึ่งเดียว มีก้อนขนาดใหญ่มากถึง 8 เซนติเมตรกินพื้นที่ปอด มีน้ำในปอดด้วย
1
นอกจากนั้นยังพบก้อนเล็กๆกระจายไปอยู่ที่ปอดข้างซ้ายเต็มไปหมด
1
ในจังหวะที่ทราบผลนั้น คุณหมอบอกว่า คิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ
1
การตรวจรักษาเพิ่มเติม … หลังจากทราบผลเอกซเรย์ปอดแล้ว จึงได้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และได้ทำเอ็มอาร์ไอสมองด้วย ได้ผ่าตัดเข้าไปเอาชิ้นเนื้อมาตรวจดูชนิดของเซลล์
สรุปได้ว่า เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายจริง คือลุกลามออกไปนอกปอดแล้ว มีก้อนเนื้องอกหรือเนื้อร้ายขนาดใหญ่ 8 เซนติเมตรที่ปอดด้านขวา มีก้อนเล็กๆกระจายอยู่ในปอดข้างขวา และยังมีก้อนเล็กกระจายข้ามไปปอดด้านซ้าย และที่เยื่อหุ้มปอดด้วย
2
ที่สำคัญมากคือ มีมะเร็งลุกลามเข้าไปที่สมองแล้ว เป็นเนื้อร้ายจำนวน 6 ก้อนด้วยกัน
2
เพียงแต่โชคดี ที่ก้อนเนื้องอกในสมอง ยังไม่ทำให้เป็นอัมพาต ตาบอด หรือพูดไม่ได้
ได้รับการรักษาดูแลอย่างดี ทั้งเรื่องการผ่าตัด การฉายแสง และการให้คีโม
ความเชื่อ …
คุณหมอเคยเชื่อแบบสุดหัวใจว่า คนเราถ้ามีเป้าหมายบวกกับการวางแผนที่ดี และดำเนินการด้วยความทุ่มเท อดทน ก็จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ จะสามารถควบคุมชีวิตและอนาคตของตนเองได้ จึงได้เร่งพัฒนาตนเอง ดูแลสุขภาพ อ่านหนังสือ เรียกว่าลงทุนดูแลชีวิตอย่างดีมาโดยตลอด
2
ถ้าเปรียบกับการเล่นไพ่แล้ว คุณหมอเปรียบว่า คุณหมอมีไพ่ดีดีในมือมากมาย ทั้งไพ่ที่แสดงถึงสุขภาพที่แข็งแรง ไพ่ที่มีการงานที่ดีและมั่นคง ไพ่ที่มีสังคมมีความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานและที่บ้าน ไพ่ที่มีคนรักใคร่ชอบพอเป็นจำนวนมาก พยายามจะทำให้ทุกคนที่เข้ามาในชีวิตได้ตระหนักว่า โชคดีที่ได้รู้จักคุณหมอ มีไพ่ที่มีผู้หญิงที่รักกัน เข้าใจกันมากที่สุด และกำลังจะแต่งงาน กำลังจะสร้างบ้านสร้างครอบครัวด้วยกัน
6
ไม่มีสถานการณ์อะไรที่จะบ่งบอกไปในทางไม่ดีเลย คุณหมอคิดว่าสถานการณ์นั้นยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ไพ่ทุกใบในมือนั้นดีหมด
1
แต่แล้วคุณหมอก็บรรยายว่า ได้จั่วไพ่ขึ้นมาอีกหนึ่งใบ เป็นใบล่าสุด คือไพ่มะเร็งระยะสุดท้าย
3
คุณหมอบอกว่า ในวินาทีนั้นเลย ชีวิตของคนเราสุดจะเปราะบาง และนอกเหนือการควบคุมได้ง่ายมากจริงๆ
3
ทุกอย่างพังทลายลงในวินาทีนั้นเอง วินาทีที่ทราบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
1
ชีวิตที่เคยมีความหวัง มีอนาคต กลับมาอยู่ที่สถานการณ์ของชีวิตที่มีเวลาจำกัดทันที
ไม่ทราบว่าตนเองจะอยู่ได้นานแค่ไหน อาจจะเป็นวัน เดือน หรือปี แต่ไม่น่าจะอยู่ได้หลายปี
3
ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น จะมีคุณภาพชีวิตแค่ไหน จะยังสามารถเขียนหนังสือ สอนลูกศิษย์ จะยังสามารถพูด เดิน มองเห็น หรือได้ยินได้หรือไม่
3
รังสีแบบเข้มข้นที่จะฉายไปจัดการกับเนื้องอกในสมอง จะทำให้เซลล์สมองดีดีเสียหายและเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด ไม่มีทางทราบได้เลย
เรื่องที่เหลือเชื่อและน่าแปลกใจของคุณหมอ …
คุณหมอเขียนบรรยายต่อไปว่า คุณหมอไม่เสียดายชีวิตที่ผ่านมาเลย
6
อาจจะแตกต่างจากหลายคน ที่เมื่อทราบว่าชีวิตตนเองเหลืออีกไม่มาก ก็คิดว่า รู้อย่างนี้น่าจะทำอย่างนั้น รู้อย่างนี้ ไม่น่าจะทำอย่างนั้น รู้อย่างนี้น่าจะไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ จะทำไอ้นั่นไอ้นี่
1
คุณหมอบรรยายแบบภาษาวัยรุ่นว่า ชีวิตที่ผ่านมาของคุณหมอ โคตรดี ไม่มีอะไรที่น่าเสียใจ ไม่มีอะไรที่เมื่อทบทวนแล้ว อยากจะย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงเลย
8
คุณหมอพอใจกับการใช้ชีวิตของตนเองมากๆ คิดว่าชีวิตของตนเองยอดเยี่ยม มีคุณค่า มีความหมายมาโดยตลอด
3
เหตุการณ์ปัจจุบัน … คุณหมอและแฟนใช้เวลาร่วมกันตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา กับการรักษาทุกระดับ ทุกวิถีทาง ทั้งสารรังสี ยาสลบ การผ่าตัด ยากระตุ้นภูมิ เคมีบำบัด รังสีรักษารวมทั้งได้โมโนพิราเวีย (Molnupiravia) เพราะติดโควิดในช่วงที่ได้รับเคมีบำบัด แล้วภูมิร่างกายอ่อนแอลงอย่างมาก
3
อนาคตข้างหน้า …
คุณหมอบอกว่าเมื่อตนเองโชคร้าย มาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแบบไม่ทันตั้งตัว คุณหมอก็ยังคิดบวกแบบที่เป็นมาตลอดชีวิตของคุณหมอนั่นเอง
4
ด้วยทัศนะคติและความเชื่อที่ดีแบบเหลือเชื่อว่า เมื่อตนเองเหลือเวลาที่น้อยลงอย่างมาก ก็อยากจะฝากสิ่งดีดีที่เป็นประโยชน์ไว้กับโลกนี้ แล้วยังเขียนแบบอารมณ์ขันว่า แม้โลกนี้จะไม่ค่อยน่ารักกับคุณหมอเท่าไหร่ก็ตาม
5
คุณหมอหวังที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่ได้มีการตกตะกอนอย่างเข้มข้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งมุมมองเรื่องการใช้ชีวิต ความเชื่อ ความฝัน ความประทับใจ ช่วงชีวิตที่อ่อนไหวและช่วงชีวิตที่เข้มแข็ง
คุณหมอหวังว่า จะทำหน้าที่เป็นอาจารย์แพทย์ที่ดีต่อไป ที่ลูกศิษย์จะได้เติบโตได้เรียนรู้จากกรณีของคุณหมอ
2
คำพูดที่กินใจ …
“คงจะดีมากๆ ถ้าการมีชีวิตที่สั้นลงของผม สามารถเป็นกำลังใจ เป็นพลังให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป”
13
คุณหมอพร้อมกับเพื่อน จึงได้ร่วมกันสร้างเพจขึ้นมา เพื่อส่งต่อเรื่องราวต่างๆในชื่อเพจว่า “สู้ดิวะ” ซึ่งเพียง 15 ชั่วโมงหลังจากเผยแพร่เพจดังกล่าว มีคนเข้ามาคลิกไลค์มากถึง 3 แสนครั้ง และมีแชร์ไปมากกว่า 1.3 แสนแชร์
ผู้เขียนคิดว่า เป็นตัวอย่างของชีวิตคนคนหนึ่ง ซึ่งมีทัศนคติ ความเชื่อ และหลักคิดที่ดีมาก
3
จะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่เป็นมะเร็งแล้วหมดหวังซึมเศร้า และยังเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่เป็นมะเร็ง ที่จะไม่ประมาท และดำเนินชีวิตให้เป็นประโยชน์อย่างสมดุล ระหว่างชีวิตส่วนตนเองและประโยชน์ต่อส่วนรวม
3
ผู้เขียนได้เข้าไปเขียนแสดงความคิดเห็นในเพจดังกล่าวว่า
2
ขอบคุณคุณหมอมาก
เพราะเรื่องราวของคุณหมอ จะเป็นประโยชน์กับผู้คนอีกจำนวนมาก ทั้งที่เป็นมะเร็งแล้ว และยังไม่ได้เป็น
4
ว่าอุปนิสัยใจคอ ทัศนคติ ความคิดอ่าน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุข มีคุณภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบใด
4
ผมคงไม่ได้มาอวยพรให้คุณหมอหายจากโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
แต่ผมมาขอขอบคุณคุณหมอ จากใจจิง
1
ไม่ได้มาให้กำลังใจ เพราะเชื่อว่าคุณหมอให้กำลังใจด้วยตนเองได้อย่างดีมากอยู่แล้ว
แต่อยากจะบอกว่า คุณหมอโชคดีเหลือเกิน ที่เป็นคนดี มีความคิดในทางที่ดี ใช้ชีวิตมาอย่างดี
2
เชื่อว่าคุณหมอจะมีความสุขในตลอดช่วงชีวิตที่จะดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะสั้นยาวเพียงใดก็ตาม
5
ขอบคุณมากมากอีกครั้ง
2
Reference
โฆษณา