15 พ.ย. 2022 เวลา 13:08 • การ์ตูน
EP : 1,153
JAGAAAAAAAN คลั่งล้างคลั่ง
ถ้ามองย้อนกลับไปในยุค 90 หากมีมังงะที่เล่าเกี่ยวกับ “ฮีโร่”​ ขึ้นมาซักเรื่อง เชื่อได้เลยว่าแนวทางการนำเสนอจะต้องออกมาแนวที่เราสามารถเรียกว่า “ฮีโร่” ได้อย่างสะดวกปาก หรือจะบอกว่าจะต้องถูกนำเสนอออกมาแนว “ฮีโร่ในอุดมคติ” อย่างไม่ต้องสงสัย ดี หรือ ชั่ว จะพูดออกมาตรงๆ ไม่ต้องไปคิดมาก เพราะคำว่า “ฮีโร่” หรือ “พระเอก” มันมีมิติที่จะต้องและควรนำเสนออยู่แค่สิ่งที่ “ดี” เท่านั้นครับ
แต่พอมองมาในยุคนี้เราจะพบว่า “ฮีโร่” หรือ “พระเอก”ในยุคนี้ มักจะไม่เคลียร์หรือชัดในความเป็นฮีโร่ในอุดมคติเหมือนยุค 90 แล้ว เราจะพบฮีโร่ในรูปแบบกึ่งๆและผสมระหว่างความดีความชั่วเพื่อสร้างมิติในบุคลิกหรือตัวตนของฮีโร่คนนั้นๆ หรือเพื่อสร้างความน่าสนใจและสร้างคำถามหลายๆอย่างให้คนอ่านไปพร้อมๆกันด้วย จนไม่ผิดอะไรที่จะบอกว่า ยุคนี้เป็นยุคของ “ดาร์กฮีโร่” ไม่ใข่ฮีโร่ขาวๆ อีกต่อไป
แม้นั่นอาจจะไม่ใช่บทสรุปของการนำเสนอเรื่องราวมังงะเกี่ยวกับฮีโร่แบบ 100% ในยุคนี้ก็ตาม แต่ในวันนี้ผมก็ขอนำเสนอฮีโร่หรือพระเอกสีเทาอีกเรื่องนึงที่จับคอนเซปเทาๆ นี้ผสมเข้ามาในเรื่องราว ซึ่งมันมีทั้งความฉูดฉาด รุนแรง เต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่า “กิเลส” ที่จะสะท้อนตัวตนและความต้องการของมนุษย์เราโดยไม่ต้องปิดบังหรือแอบซ่อนอีกต่อไป กับเรื่องราวโป๊งระเบิดของพระเอกแนวดาร์กฮีโร่คนนี้ใน “JAGAAAAAAAN คลั่งล้างคลั่ง” ครับ
… เบื่อ...น่าเบื่ออะไรเช่นนี้ ... แม้จะหนีจากการเป็นวัยรุ่น กลายมาเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถทำตามที่ตัวเองต้องการได้แล้ว แต่การทำงาน โดยที่มีอนาคตที่ต้องเดินไปตามเส้นทางที่ทุกๆคนต้องเจอมันก็ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก.... “จากาซาคิ ชินทาโร่” ตำรวจหนุ่มผู้ซึ่งรู้สึกเบื่อหน่ายกับหน้าที่และอนาคตที่ตัวเองกำลังเจอในแต่ละวัน จนอยากจะหยิบปืนที่ตัวเองมียิงทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไปจากโลกใบนี้อยู่บ่อยๆนั้น แม้จะอึดอัดไปกับความรู้สึกนี้
แต่ก็ไม่อาจทำอะไรให้มันเปลี่ยนเเปลงไปในแบบที่เขาต้องการได้ ก็เพราะนี่คือชีวิต อยากจะเปลี่ยนก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนมันได้นี่นา
แต่ ไม่ใช่สำหรับโลกที่เขาอยู่ในตอนนี้ เพราะอยู่ๆ จุดเปลี่ยนมันก็เกิดขึ้นโดยที่เขา ไม่ได้คาดหวัง กับการปรากฎตัวของเหล่ามนุษย์ ที่ดูไม่เหมือนมนุษย์ เพราะพวกเขากลายร่างไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และพวกเขาเหล่านั้นมาพร้อมความสามารถในการฆ่าที่ผสมกับความคลั่งและพร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเขา และแน่นอนตำรวจอย่างเขาต้องหยุดยั้งพวกมัน ด้วยพลังแบบใหม่ที่เขาเคยแต่คิด แต่ไม่เคยมีใช้ ใน “JAGAAAAAAAN คลั่งล้างคลั่ง”
ตั้งแต่แรกเห็นและได้อ่าน ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ สมกับเป็นมังงะในยุคนี้อย่างมากนะครับ เพราะหากจะพูดกันตรงๆแล้ว เรื่องนี้มันมีองค์ประกอบและส่วนผสมที่สามารถเป็นมังงะที่สนุกและจะได้รับความนิยมได้อย่างไม่ยากเย็น
ทั้งฉูดฉาด ทั้งดาร์ก ทั้งดิบ นำเสนอด้วยความรุนแรง อย่างไม่ต้องกั๊ก พร้อมกับความดราม่าของเรื่องราวที่อยู่ด้านใน และแน่นอนเต็มไปด้วยฉากเเอคชั่นที่ดุเดือด ตัวละครที่หลุดโลก กับฉากติดเรทที่มีตลอดทั้งเรื่อง
เนื้อเรื่องจะเน้นหนักในการนำเสนอสิ่งที่เรียกว่า “กิเลส” เป็นหลักครับ เราจะเห็นว่าเขาหยิบใส่อยู่ในเนื้อหาเกือบทั้งเรื่อง มุมนึงที่เรื่องนี้หยิบ “กิเลส” มาใช้ เพราะนี่คือความรู้สึกและความต้องการที่อยู่กับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ มันจึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนและเข้าใจได้ง่ายตั้งแต่แรกเห็น ไม่ต้องมาเสียเวลามาอธิบายว่า กิเลส นี้คืออะไร หรือจะมองได้อีกแง่ว่าเขากำลังนำเสนอมนุษย์อีกแง่มุมนึงโดยใช้คำว่ากิเลสเป็นตัวขับและแยกพวกเขาให้โดดเด่นขึ้นมาก็ได้ครับ
มันเป็นเรื่องปกติที่แต่ละเรื่องแนวนี้จะต้องหาที่มาของพลังในการขับเคลื่อนเนื้อหา ซึ่งการที่เรื่องนี้หยิบ “กิเลส” มานั้นผมว่ามันดูง่ายทั้งในการเข้าใจและการเข้าถึง เรื่องที่นำเสนอโดยใช้แก่นแบบนี้ ในสไตล์เรื่องราวแนวต่อสู้แฟนตาซีอย่างนี้ ผมว่ามันเข้ากันอย่างมาก ยิ่งเมื่อผู้นำเสนอต้องการนำเสนอให้อยู่ในรูปแบบของ “ดาร์กฮีโร่” หรือมังงะสายรุนแรงแบบนี้ครับ
ด้วยรูปแบบการนำเสนอที่เน้นความบันเทิง โดยใช้ความฉูดฉาดจากทั้งพลัง ตัวละคร และฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด ขับเคลื่อนความสนุกและน่าสนใจของเรื่อง ต้องบอกว่าเรื่องนี้เอาอยู่มากๆครับ ตรงกับความชอบของนักอ่านในยุคนี้ส่วนใหญ่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งแทบจะไม่มีตรงไหนที่รู้สึกว่ามันแผ่วหรือดูน่าเบื่อเลยครับ
จุดที่ผมสังเกตว่าเขาพยายามนำเสนอให้มันแตกต่างจากมังะงแนวดาร์กแฟนตาซีเรืองอื่นในยุคนี้ ก็คือการนำเสนอตัวละครที่มีไทม์ไลน์ไม่เรียงกันและเป็นตัวละครที่ไม่เกี่ยวกันเข้ามา อันนี้หมายถึงปกติแล้วเรื่องมักจะโฟกัสไปที่ตัวละครหลักอย่างพระเอกหรือตัวร้ายเป็นหลัก แต่เรื่องนี้ไม่เพียงเล่าโดยใช้มุมมองที่เพ่งไปที่พระเอกเท่านั้น ในหลายๆช่วง จะใส่ตัวละครที่เราจะไม่เข้าใจว่าจะพูดถึงตัวละครตัวนี้ไปเพื่ออะไร เพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเกี่ยวกับเส้นเรื่องหลักอย่างไรเข้ามาให้เรารู้สึกอย่างนั้นก่อน
โดยที่ตัวละครที่ใส่เข้ามาในช่วงเวลาสลับกับตัวเนื้อหาของพระเอกเรานี้ ไม่ได้ใส่แบบเข้ามาผิวเผินนะครับ มันจะมีมุมมองและเรื่องราวที่เยอะ พอที่จะทำให้เรารู้จักและเข้าใจตัวละครตัวนั้นๆได้ดีระดับนึงเลย ต้องเรียกว่าใส่รายละเอียดเข้ามาเหมือนตัวละครนั้นๆ เป็นตัวละครที่สำคัญของเรื่องตัวนึงเลยก็ว่าได้
ซึ่งทีแรกอาจจะดูว่าไม่เกี่ยวกับพระเอก แล้วค่อยๆ ดึงเนื้อหาและเส้นเรื่องให้มาบรรจบกัน โดยเขาเพิ่มมิติการเล่าด้วยการที่มีทั้งตัวละครที่จะเข้ามาเกี่ยวกับพระเอกในกลางเรื่องบ้าง และเกือบท้ายเรื่องบ้าง ช่วยทำให้เรื่องไม่ได้มีแค่ตัวละครสายหลัก หรือพระเอก ตัวร้าย นางเอกเท่านั้นที่น่าสนใจครับ ผมถือว่าเรื่องนี้เพิ่มวิธีการเล่าเรื่องและการนำเสนอตัวละครให้ออกมาน่าสนใจแตกต่างจากเรื่องอื่นอยู่ไม่น้อยครับ แม้วิธีนี้อาจจะเคยเห็นการเล่าทำนองนี้มาบ้างแล้วก็ตาม
ตัวเรื่องจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการสร้างปม ปัญหา เข้ามาให้กับพระเอกตั้งแต่ต้นเพื่อสร้างจุดมุ่งหมายปลายทางที่ชัดเจนให้กับพระเอกของเราเดิน และสร้างความเข้าใจตรงกันให้กับผู้อ่านอย่างเราไม่สับสนไปพร้อมกันด้วย โดยที่เรื่องไม่ลืมที่จะสร้าง เงื่อนไข หรือ สิ่งที่จะสร้างความสับสนให้กับระหว่างการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางนี้ลงไปให้พระเอกเราด้วยเช่นกัน และแน่นอนสิ่งที่ผมถูกใจและคิดว่าหลายๆคนถูกใจด้วยเช่นกัน ก็คือ ทั้งจุดมุ่งหมายและสิ่งที่สร้างความสับสนให้กับพระเอกเรานั้น ก็คือ “ผู้หญิงและความรัก” นั่นเองครับ
“JAGAAAAAAAN คลั่งล้างคลั่ง”มีความโดดเด่นมากๆในการนำเสนอความดาร์กแฟนตาซี แบบเถื่อนดิบ ด้วยประเด็นที่เข้าใจง่ายไม่ได้ยุ่งยากอะไร กับคำถามพื้นๆที่เราเคยเจอมาบ่อยๆ แต่คำถามเหล่านั้นมันท้าทายจริยธรรม และหาคำตอบที่ถูกต้องหรือปฎิบัติได้ยาก
โดยใช้งานภาพที่ดุเดือด จากตัวละครที่ดีไซน์ออกมาน่าสนใจกับพลังที่กระตุ้นความสนุกระหว่างอ่านได้อย่างไม่ยากเย็น ขับออกมาให้น่าติดตาม ตามสไตล์การเล่าเรื่องแนวต่อสู้ ที่ไม่ได้ต้องการให้ผู้อ่าน ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆ นานนัก เรียกว่า ยังคงทำออกมาให้อ่านได้ง่าย แต่มีความลึก และดูดราม่า รวมถึงดาร์กดิบ ทั้งจากบุคลิกของตัวละครและเนื้อเรื่องอยู่ครับ
แน่นอนครับ ส่วนตัวผมชอบงานภาพเรื่องนี้ไม่น้อย ทั้งการดีไซน์ตัวละครให้สะดุดตา ผสมผสานระหว่างความดิบ เถื่อน และ เท่หรือน่าสนใจ ให้ได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง ผมมองว่านี่คือหัวใจงานแนวแฟนตาซีแบบนี้นะครับ เพราะหากไม่สามารถนำเสนอตัวละครแฟนตาซีที่สะดุดตา หรือ พลังที่ดูน่าสนใจได้แล้ว เรื่องนั้นแทบจะหาจุดขายได้ยากเลยก็ว่าได้
และเมื่อการดีไซน์เหล่านี้ถูกนำเสนอภายใต้เรทที่สูงขึ้น ผมว่ามันช่วยให้เรื่องมันอ่านสนุกมากยิ่งขึ้น คือไม่มีความรู้สึกว่าถูกกั๊กในการนำเสนอเรื่องที่เขาต้องการให้มันออกมาฉูดฉาดแบบนี้ ความหมายของผมก็คือ ฉากที่ควรได้เห็นก็ต้องได้เห็นครับ ไม่ว่าจะเป็นฉากการต่อสู้ที่อาจจะดูโหดไปซักหน่อย แต่ก็ตรงกับสิ่งที่ต้องการเล่า หรือแม้แต่ฉากสาวๆ ที่กำลังมีกิจกรรมเข้าจังหวะ ซึ่งมีตลอดทั้งเรื่อง เลยทำให้งานภาพที่ปรากฎอยู่ในเรื่องนี้ ผมถือว่าทำออกมาได้ดีและอยู่ในกรอบที่นักอ่านอย่างผมต้องการให้มันเป็นครับ
“JAGAAAAAAAN คลั่งล้างคลั่ง”เรื่อง โดย อ. Munequki KANESHIRO และงานภาพโดย อ. Kensuke NISHIDA ในไทยเจ้าของ LC คือ SIC ซึ่งออกมาครบจบเรียบร้อยกับเล่มที่ 14 เมื่อไม่นานนี้ครับ ใครสนใจลองหาอ่านกันได้ครับ ยังคงหาอ่านได้ง่ายอยู่ในตอนนี้ครับ
เป็นอีกเรื่องนึงในยุคนี้ที่ผมว่าน่าจะถูกใจนักอ่านสายต่อสู้ได้ง่าย ด้วยการนำเสนอที่ถูกยุคถูกสมัย เต็มไปด้วยฉากเด็ดๆไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ หรือดีไซน์ของ “ไคจิน” ในแต่ละคนที่ออกมา แม้พลังอาจจะไม่ได้เป็นอะไรที่ใหม่อะไรนัก
แต่หากมองในแง่การนำเสนอต้องบอกว่ามันดูมีรายละเอียดในความดาร์กสื่อออกมาได้ครบครับ งานภาพเด่น งานสาวๆ เยี่ยม เห็นจุกนี่คือดีแล้วสำหรับหนังสือราคาเท่านี้ เป็นอีกงานหนึ่งที่ลงตัว เนื้อหาอ่านได้ง่ายพูดถึงประเด็นความต้องการของมนุษย์ที่เรียกว่า “กิเลส” ผ่านเหล่าผู้คนที่ถูกกระตุ้นและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตแบบใหม่ได้ตื่นตาและดิบดีครับ
ภาพ 9/10
เรื่อง 8.5/10
ความประทับใจ 9/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #14เล่มจบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวดาร์กแฟนตาซี #การ์ตูนแนวดราม่า #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #9คะแนน #JAGAAAAAAANคลั่งล้างคลั่ง #หนังสือการ์ตูน #Rate18 #สยามอินเตอร์คอมมิค #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
โฆษณา