16 พ.ย. 2022 เวลา 14:02 • การ์ตูน
EP : 449 (Repost)
มือขวาของปีศาจร้าย มือซ้ายของเทพเจ้า
ถ้าพูดถึงนักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่นแนวสยองขวัญในใจของหลายๆคนในปัจจุบัน ชื่อของ อ. จุนจิ อิโตะ ผมว่าจะเด้งขึ้นมาในใจของคนที่ชอบเนื้อเรื่องแนวนี้ทันทีใช่ไหมครับ ขณะเดียวกัน ถ้ากลับไปถาม อ.จุนจิ อิโตะ ว่าแล้วใครละครับที่เป็นนักวาดแนวสยองขวัญที่ อ. เขาชื่นชอบ ชื่อของ อ. คาซุโอะ อุเมะซุ จะต้องถูกเอ่ยออกมาจากปากของ อ. จุนจิ อิโตะ แน่นอนครับ
อ.คาซุโอะ เป็นนักวาดแนวสยองขวัญชื่อดังในยุค 70-80 ที่มีผลงานดังมากมายครับ แต่ในไทยกลับมีผลงานของ อ. มาไม่เยอะอย่างที่คิด อาจด้วยปีที่ อ. กำลังดังนั้น การนำผลงานมาพิมพ์แบบถูกต้องยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยในประเทศไทย ทำให้ผลงานส่วนใหญ่ที่ถูกตีพิมพ์ จึงตีพิมพ์และจัดจำหน่ายโดย สนพ ไพเรท กันเป็นส่วนใหญ่ครับ มีแค่เรื่องสองเรื่องที่ถูกซื้อมาพิมพ์ในแบบ LC ในบ้านเรา แต่ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะแฟนๆ ของ อ.คาซุโอะนั้นเป็นนักอ่านยุคเก่าซะมากกว่าครับ
ตัวผมเองเคยอ่านและเก็บงานเก่าๆของ อ. ไว้บ้างบางเรื่องครับ แต่ต้องบอกว่าไม่ได้ประทับใจในงานที่ได้เจอนัก เหตุผลหลักคือ คุณภาพการพิมพ์ที่แย่มากๆ งานพิมพ์ออกมาด้วยมาตรฐานที่ต่ำครับ อันนั้นว่ากันไม่ได้เพราะมันไม่ได้ถูกตีพิมพ์แบบ LC ทำให้คาดหวังในเรื่องคุณภาพยากครับ พอภาพมันไม่ได้ บอกเลยครับว่ายากมากๆที่จะซึบซับความน่าสนใจในเนื้อหาของงาน อ. เขา
เพราะผลงานของ อ. จะใช้ภาพในการสื่อสารเยอะมากครับ พอภาพมันดูแย่ บางซีนดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรกันอยู่นั้น เลยทำให้คนอ่านอย่างผมไม่รู้สึกว่าเรื่องราวของ อ. เขาสนุกและน่าสนใจซักเท่าไหร่ครับ ประกอบกับการหาหนังสือของ อ. มาอ่านนั้นยากมากถึงมากที่สุดครับ บางครั้งผมหาได้ไม่ครบทำให้สามารถหยิบมาอ่านซักที จนหลายครั้งต้องขายปล่อยออกไปเพราะมีแววว่าอย่างไรก็ไม่เจอเล่มต่อแน่ๆ งั้นหาเรื่องอื่นมาอ่านแทนดีกว่าครับ
“มือขวาของปีศาจร้าย มือซ้ายของเทพเจ้า” เป็นผลงานล่าสุดของ อ. ที่ผมเพิ่งได้อ่านจบมาครับ จากการที่ไปสั่งซื้อให้เพื่อนผม เพราะเพื่อนผมอยากอ่านเรื่องนี้มาก และชอบผลงานของ อ. เขามาก นั่นทำให้ผมมีโอกาสได้อ่านก่อนเจ้าตัวคนจ่ายเงิน และไหนๆ ก็ได้อ่านมาแล้ว งั้นขอรีวิวไว้ให้รู้จักกับเรื่องนี้ซักนิดหน่อยนะครับ
ก่อนอ่านผมต้องบอกว่า ผมไม่ได้รู้จักงานเรื่องนี้ของ อ. มาก่อนเลย ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร และเนื้อเรื่องจะแนวไหน แต่ผมก็เดาเอาไว้ว่าเนื้อเรื่องคงไม่มีอะไรมาก ไม่แหวกแนว ไม่สามารถสร้างความตื่นตาหรือตกใจให้กับผมได้มากเท่าไหร่ เพราะมันเป็นผลงานเก่าที่เก่ามาก
ในขณะเดียวกัน ตัวผมก็ได้อ่านงานทั้งเก่าและใหม่มาเยอะมากมายพอสมควร เพราะฉะนั้นไอเดียต่างๆในแนวสยองขวัญ มันถูกนำเสนอในแง่มุมต่างๆ มาเยอะมากแล้ว ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน หรือจากผลงานของท่านใด เพราะฉะนั้นผมจึงไม่คาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรที่มันแตกต่างหรือน่ากลัวจากผลงานเก่ามากเรื่องนี้ครับ ผมหวังว่ามันคงสร้างความบันเทิงให้กับผมได้ดีระดับนึงผมก็พอใจแล้วครับ
ตัดมาตอนที่ผมอ่านจบครบชุด .... ผมบอกกับตัวเอง ซึ่งจริงๆบอกตัวเองมาตลอดตั้งแต่อ่านไปเรื่อยๆ แล้วนะ.... ว่า.... นี่มันการ์ตูนเชี่ยอะไรวะเนี่ย แ....ม...ง โครตสุดเลย น่ากลัวชิปหายเลย.... ....ครับ
“มือขวาของปีศาจร้าย มือซ้ายของเทพเจ้า” เป็นผลงานที่รวมเรื่องราวเอาไว้ทั้งหมด 5 เรื่อง โดยมีตัวเอก คือเด็กชายที่ชื่อ โซ ครับ โดยตัว โซ นั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องไปกับทุกเรื่อง ทั้ง 5 เรื่องนี้ โดยที่แต่ละเรื่องมันดูเหมือนไม่ต่อเนื่องหรือไม่เกี่ยวข้องกันเลยครับ เสมือนตัว โซ นั้นไปเจอเรื่องอันตรายและน่ากลัวเหนือธรรมชาติ ต่างเวลา ต่างวาระ ต่างผู้เกี่ยวข้อง
แต่เขาก็ไปเกี่ยวพันด้วยความที่เขามีพลังพิเศษบางอย่าง พลังที่เข้าไปในความฝันและทำทุกอย่างได้ พลังของมือขวาที่เป็นดังปีศาจร้ายที่ทำลายทุกสิ่งได้ และพลังแห่งมือซ้ายที่เสมือนเทพเจ้าสิงอยู่คอยปกปักรักษาให้ทุกอย่างผ่านไปได้ และนี่คือเรื่องราวสยองๆ ทั้ง 5 เรื่องในเซ็ทนี้ครับ
"กรรไกรเปื้อนสนิม"
ในคือหนึ่งที่ฝนตกหนัก โซต้องตื่นขึ้นมาอย่างตระหนกพร้อมเสียงร้องที่ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาฝันร้ายมาก ฝันว่าพี่สาวของเขาถูกกรรไกรแทงออกมาจากด้านในตัวของเธอทะลุดวงตาทั้งสองของเธอพร้อมเสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด นั่นทำให้ โซ ตื่นมาอย่างตกใจ พร้อมร้องออกมาโดยควบคุมตัวเองไม่ได้
และการตื่นพร้อมเสียงดังครั้งนี้ก็ทำให้พี่สาวของเขาตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิดที่ต้องตื่นมากลางดึกอย่างนี้ แต่ โซ ก็พยายามอธิบายพี่สาวว่า เขาร้องดังเพราะตกใจจากฝันร้ายที่ฝันเห็นพี่สาวของตัวเองกำลังเจอเรื่องร้ายๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้พี่สาวของโซ โมโหกับการตื่นในครั้งนี้น้อยลงเลย
แต่ขณะนั้นเอง เธอก็พบว่า เพื่อนๆ ของเธอมาเคาะหน้าต่างห้องเธอ พร้อมกับชวนเธอออกไปข้างนอกกลางดึก เพราะได้ข่าวว่า บ้านของครูคนนึงที่อยู่รึมแม่น้ำ เกิดโดนกระแสนน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเพราะฝนตกหนัก พัดพาและหายไป พวกเธอไม่ได้ห่วงว่าครูของพวกเธออาจเกิดอันตรายตามที่ได้ยินมา แต่แค่จะยืนยันว่า ครูไม่อยู่และไม่สามารถมาสอนพวกเธอได้แค่นั้น
แม้พี่สาวของโซ ไม่เห็นด้วยที่จะต้องออกไปกลางดึกในสภาพที่ฝนกำลังตกอยู่อย่างนี้ แต่ด้วยความกลัวว่าเพื่อนจะไม่พอใจที่มาตามเธอแล้วเธอไม่ออกมา เธอจึงออกมาด้วย พร้อมกันนั้น โซ ที่กำลังตกใจจากฝันก็ขอออกมาด้วยเพราะเป็นห่วงพี่สาวของเขาอยู่ และเขาก็ไม่ต้องการที่จะอยู่คนเดียวในห้อง หลังจากตื่นจากฝันร้ายมา
นั่นทำให้โซและพี่สาวออกมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเธอ และเมื่อไปยังจุดที่คิดว่าเป็นบ้านของครู พวกเขาก็พบว่า พื้นที่นี้ไม่มีบ้านอยู่อีกแล้ว เต็มไปด้วยโคลนเยอะแยะมากมาย และเมื่อมองดีๆ พวกเธอพบว่า มีสถานที่แห่งนึงอยู่ตรงจุดนี้ด้วย สถานที่ที่พวกเธอไม่เคยเห็นมาก่อน และที่สำคัญ พี่สาวของเธอ สังเกตเห็นบางอย่างอยู่ใกล้กับเท้าของเธอ เมื่อเธอก้มลงไปหยิบก็พบว่า
มันคือกรรไกรสนิมเขรอะอันนึง แต่ทำไม ไม่รู้ เธอกับไม่รู้สึกรังเกรียจกรรไกรเก่าๆที่เต็มไปด้วยสนิมอันนี้เลย แต่สำหรับ โซ สิ่งที่ต้องคิดไม่ใช่ทำไมพี่สาวของเขาถึงเก็บกรรไกรสนิมจับอันนั้นไว้แล้วไม่ทิ้งไป แต่ทำไมกรรไกรอันนี้ถึงเหมือนกรรไกรในฝันร้ายของเขา ที่มันแทงออกมาจากเบ้าตาของพี่สาวเขาในฝัน นั่นทำให้เขาตระหนักได้ว่า ฝันนั้นไม่ใช่แค่ความฝัน มันกำลังจะเป็นความจริงที่น่ากลัว และเรื่องราวร้ายๆก็กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาและคนรอบตัวเขา .....
เรื่องนี้ผมเดาตอนต่อไปไม่ถูกเลยครับ เป็นอีกเรื่องที่เหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่พอเล่าไปเรื่อยๆ เรื่องราวมันใหญ่โต เหนือการคาดหมาย ในขณะเดียวกัน มันลากยาวพาเราไปไหนต่อไหนแบบที่เราคิดไม่ถึง เดาไม่ออกว่ามันจะจบไปที่ตรงไหนเลยจริงๆครับ ตัวละครจะต้องเจอเรื่องราวหนักหนาสาหัสที่ผมไม่คิดว่า อ. จะใส่มาซะขนาดนี้ เห็นแล้วสงสารจริงๆครับที่ต้องเจออะไรแบบนี้
ในขณะเดียวกันก็วางหมากล่อไว้ให้คนอ่านเข้าใจไปเองว่าจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ พอเราหลงไปตามความคิดหรือประสบการณ์ที่เคยอ่านงานแนวนี้มา ก็ปรากฏว่าไม่ใช่อย่างที่เราคิด แล้วพอเราเข้าใจไปเองว่าตัวละครตัวนี้ไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด พอเราคิดอย่างนั้น ซักพักไอ้ตัวนี่มันจะกลับมาทำเรื่องราวใหญ่ๆบางเรื่องที่ทำให้ตัวเอกต้องร้องโหยหวน โดยที่เราไม่คิดว่ามันจะกลับออกมาเป็นรูปแบบนี้ ต้องบอกว่า นอกจากเนื้อหามันสุดโต่งมากๆแล้ว ภาพวาดก็สยอดสยองล้อไปกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า
ในขณะเดียวกันเนื้อเรื่องก็จะทิ้งปมเอาไว้มากมายให้เราคิด ว่ามาจากไหน ทำไม เพื่ออะไรกันทั้งเรื่อง โดยไม่แยแสที่จะต้องมาไขปริศนาในที่มาที่ไป และสิ่งที่เราสงสัยเลยครับ เป็นอีกเรื่องนึงที่หนักหน่วง เล่าเรื่องอย่างรุนแรง และไม่แคร์คนอ่านอย่างผมเลย ต้องบอกว่าเป็นเรื่องราวที่เปิดออกมาได้หนักสำหรับผมที่คาดหวังไว้น้อยนิดมากว่าจะได้อ่านการ์ตูนสยองขวัญทั่วไปครับ .... แต่นี่ก็แค่เริ่มต้นนะครับ
"ยางลบที่หายไป"
ครูมิโดริ คือครูสาวที่เป็นครูประจำชั้นของ โซ เธอเป็นครูใจดีที่เด็กๆทุกคนรัก รวมถึงโซ ด้วยเช่นกัน แต่วันนึงในขณะที่โซกำลังจะกลับบ้านกับกลุ่มเพื่อนๆของเขา หนึ่งในเพื่อนๆของเขาก็พูดออกมาว่า คนดีๆอย่างครูมิโดริ ถ้าตอนตายใบหน้าที่แท้จริงจะแสดงออกมา
และนั่นก็ทำให้กลุ่มเพื่อนโซในนี้วางแผนที่จะฆ่าครูมิโดริ เพียงเพื่อที่จะต้องการพิสูจน์คำพูดนี้ให้ทุกคนเห็นว่า หากตอนที่ครูมิโดริตายนั้น เธอจะต้องแสดงใบหน้าที่แท้จริงที่แตกต่างจากตอนนี้ออกมาให้เห็นแน่นอนและนั่นก็นำพาไปสู่เรื่องราวที่น่ากลัวที่เด็กวัยประถมอย่างพวกเขาไม่ควรเจอ
สาบานได้ว่านี้คือความคิดเด็กประถม ผมคิดตั้งแต่อ่านตอนที่เด็กพูดว่าจะฆ่าครูมิโดริเพื่อหาคำตอบไร้สาระแล้วละครับว่า อ. โหดแค่ไหนฟะ แต่เรื่องที่ดูไม่มีสาระให้มันเป็นเรื่องได้ขนาดนี้ แค่ไอเดียผมว่ามันก็สุดโต่งแล้วนะครับ เพราะนี่คือเด็กชั้นประถม ไม่ใช่ มัธยมหรือ มหาลัยเลยครับ
เรื่องราวในเรื่องนี้จึงดูโหดร้ายไปซักหน่อยถ้าเปรียบเทียบกับตัวละครที่ควรใสซื่อครับ ซึ่งทำออกมาได้สนุกมากครับ และก็ดูตื่นเต้นและอยากหาคำตอบเป็นอย่างมากว่า หลังจากพวกเขาได้ทำสิ่งนี้ไปแล้วนั้น ผลที่จะเกิดขึ้นตามมานั้นจะเป็นแบบไหนและพวกเขาจะทำอย่างไรครับ .
"ลิ้นนางพญาแมงมุม"
โซ และพี่สาว ได้เดินทางไปบ้านพักต่างอากาศของครูของพวกเขา บ้านพักต่างอากาศแห่งนี้เป็นของเพื่อนคุณครูทาคาชินะ การเดินทางครั้งนี้ โซ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้จับแมลงที่อยู่ในป่ามาเก็บไว้ และเมื่อเดินทางมาถึง เขาก็พบว่าบ้านพักต่างอากาศหลังนี้ใหญ่มากๆ คุณครูทาคาชินะ ได้รีบเข้าไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่ในบ้านพักนี้
แต่แว๊บแรกที่เจอเพื่อนเขา เขาก็พบว่า เพื่อนเขาคนนี้มีร่างการที่ซูบซีดกว่าที่เคยเจอครั้งล่าสุดมาก จนสังสัยว่าเขาต้องเป็นอะไรซักอย่างแน่ๆ แต่ตัวโซ กลับไม่สนใจรีบเข้าไปในป่าด้านหลังที่พัก เพื่อจับแมลง ก่อนจะพบว่า ด้านในป่ามีบ้านพักขนาดใหญ่อีกหลังนึง
และทันใดนั้น หน้าต่างด้านบนของบ้านก็ได้เปิดออก ทำให้เขาโซ ได้เห็นหน้าของหญิงสาวแสนสวยคนนึงที่ยื่นออกมา และจ้องมองไปยังหมู่บ้านที่พวกเขาต้องนอนคืนนี้พร้อมกับบอกอย่างหน้านิ่งว่าคืนนี้เธอจะได้ออกมาทำร้ายคนในหมู่บ้านนี้อย่างที่เธอต้องการซะที และนั่นก็นำพาเรื่องราวน่ากลัวอีกเรื่องให้โซได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับ
ในบรรดา 5 เรื่องในเซ็ทนี้ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ โซ โดนน้อยสุดครับ เรื่องนี้แม้จะมีเนื้อหาที่ไม่ค่อยซับซ้อนซักเท่าไหร่ แต่ก็น่ากลัวไม่ใช่น้อยครับ โดยเฉพาะ โซ ที่เรื่องนี้นอกจากจะเจ็บตัวน้อยสุดแล้ว เขายังร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนตัวเขาเองได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขามี ความสามารถที่เขาสามารถนำมาช่วยเหลือคนอื่น หรือต่อสู้กับพลังอันชั่วร้ายได้ เรื่องนี้จึงอ่านได้เพลินๆครับ ถือว่ามีเนื้อหาเบาๆก่อนไปเจอเรื่องต่อไปที่ต้องเรียกว่าหนักมากสำหรับโซครับ
"สมุดภาพสีดำ"
ในบ้านหลังนึง มีเด็กน้อยสาวสวยคนนึงที่มีความผิดปกติทางร่างกาย คือเธอไม่สามารถเดินได้เหมือนคนทั่วไป ขาเธออ่อนแรง ทำให้ชีวิตของเธออยู่บนเตียงนอนซะมากกว่า แต่เธอก็ยังมีความสุข จากการดูแลจากพ่อของเธอ แม้เวลาที่พ่อไม่อยู่เธอจะเหงามาก แต่เมื่อพ่อกลับมา พ่อจะซื้อหนังสือนิทานมาเล่าให้เธอฟังเสมอๆ แม้ว่าตอนนี้เรื่องราวที่พ่อเธอเล่านั้นเป็นนิทานภาพที่พ่อของเธอเป็นคนวาดเองก็ตาม
ด้วยเนื้อหาที่แปลกและแตกต่างทำให้เธอรู้สึกสนุกไปกับเรื่องที่พ่อเธอวาดมา แม้ตัวละครในเรื่องจะต้องตาย และตายแบบแปลกๆก็ตาม แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ การตายที่อยู่ในหนังสือภาพที่พ่อเธอวาดนั้น เกิดจากการตายที่พ่อของเธอได้กระทำเอาไว้ทุกคืนก่อนที่จะมาเขียนเรื่องราวให้เธอได้อ่าน และวันนึงที่เธอเริ่มรู้ตัวว่านั่นไม่ใช่นิทานแต่มันคือเรื่องจริง วันนั้นทุกอย่างก็จะไม่เหมือนเดิมสำหรับเธออีกต่อไป
เรื่องนี้โหดมากกกกกกกกกกกก คือเดาไม่ออกในตอนแรกว่ามันคืออะไร อย่างไร แต่พอเข้าใจถึงตัวอันตรายในเรื่องนี้แล้วก็จะอ่านอย่างเอาใจช่วยว่าเขาจะไปฆ่าใครเพื่อมาเขียนเรื่องราวอะไรอีก ซึ่งโหดมากครับ ในขณะเดียวกันตัวเนื้อเรื่องมีบางส่วนที่ทำให้ผมรู้สึกถึงความเป็นหนังฝรั่งชื่อดังบางเรื่องในบางจังหวะครับ แต่อย่างที่บอกว่าเนื้อหามันน่าเกี่ยวกับสองพ่อลูกคู่นี้นะ
แต่เรื่องก็โยงไปเกี่ยวกับ โซ ด้วยเหมือนเดิมครับ เหมือนมีบทแค่ต้องการมาช่วยเหลือเด็กคนนี้ ที่สำคัญ ตัวโซ ในตอนนี้เจ็บตัวอย่างมากกับการรับรู้และเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในครั้งนี้ครับ ต้องบอกว่าโหด และโหดจริงๆครับ กับความโรคจิตในครั้งนี้ ตอนนี้ไม่มีผีโผล่มา แต่ไอ้พ่อคนนี้ โครตจิตจนน่ากลัวกว่าผีอีกครับ
"เงาของผู้ล่วงลับ"
เย็นวันนึงขณะที่โซ และพี่สาวของเธอเดินกลับบ้านพร้อมกันกับเพื่อนพี่สาวที่ชื่อ มิโยโกะ อยู่นั้น มิโยโกะได้เจอผู้หญิงแก่คนนึงล้มอยู่ข้างทาง ด้วยความที่เธอเป็นเด็กจิตใจดี จึงรีบเข้าไปช่วย และหญิงชราคนนั้นได้คว้ามือของเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ทำให้เมื่อรถพยาบาลมาถึง มิโยโกะ จึงต้องไป โรงพยาบาลพร้อมกับหญิงชราคนนี้ และเมื่อสองพี่น้องวิ่งตามไปจนถึงที่โรงพยาบาล สองพี่น้องก็ได้ทราบว่า แท้จริง หญิงชรา คนนั้นก็คือ อดีตดาวค้างฟ้าชื่อดังในวงการดาราของญี่ปุ่น ที่หายตัวไปไม่ออกสื่อนานมากแล้ว
แต่เธอก็เป็นอดีดคนดังที่ทุกคนย่อมรู้จักเธออย่างแน่นอน แต่หญิงชราคนนั้นก็ได้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้วหลังจากมาถึงโรงพยาบาล แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ แม้เธอจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่บางสิ่งที่เคยสิ่งในตัวเธอนั้น ไม่ได้หายไปพร้อมกับชีวิตดาราคนนี้แต่ได้ย้ายที่อยู่มายัง มิโยโกะ เรียบร้อย และนั่นก็ทำให้ทุกคนได้เจอเรื่องราวอันน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้แต่ตัวโซ เองในครั้งนี้เขาก็ไม่รู้ว่า เขาอาจต้องจบชีวิตให้กับเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นได้
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่มีเนื้อหายาวที่สุดในบรรดาทั้ง 5 เรื่องนี้นะครับ ตัวเนื้อเรื่องเริ่มต้นเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่พออ่านไปเรื่อยๆ มันเริ่มมีประเด็นใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น จนเป็นเรื่องที่ ตัวโซ แทบเอาชีวิตไม่รอดและเจอหนักสุดในบรรดาเรื่องทั้งหมดครับ ประเด็นที่นำมาใช้ในตอนนี้ผมว่ามันเข้าทีนะครับ เกี่ยวกับวิญญาณผู้พิทักษ์ที่อยู่ในแต่ละคน เรื่องนี้อาจเคยมีการหยิบจับมาเขียนอยู่บ่อยๆ แต่การนำเสนอภาพให้เห็นชัดๆแบบนี้มันก็หลอนนะครับ แม้ตัวร้ายตัวหลักจะวาดออกมาให้มันดูแปลกๆ
จนคล้าย สแตนด์ ในเรื่อง โจโจ้ อยู่ก็ตาม แต่ไอเดียการวาดที่วาดตั้งแต่ปี 80 แบบนี้ผมว่ามันคงโดดออกมาไม่ใช่น้อยครับ ยิ่งเรื่องนี้ให้พลังกับตัวร้ายกันไปสุดโต่ง ไม่มีใครหยุดได้แบบนี้ รวมถึงให้เห็นอิทธิฤทธิ์ของมันในแง่ที่สามารถบงการหรือฆ่าใครก็ได้แบบนี้ ผมว่ามันโดดออกมาจากงานของ อ. ไม่ใช่น้อยครับ ไม่ค่อยได้เจอตัวร้ายที่ใส่พลังมาระดับนี้
แต่นั่นก็เป็นข้อเสียอยู่ที่ตอนท้ายเรื่องต้องทำให้ตัวที่มีพลังแบบนี้ต้องจบให้ได้ มันก็เลยออกดูแปลกหน่อยที่ให้ตัวร้ายเจอกับการปราบแบบนี้ในสายตาของผมครับ อีกอย่างผมชอบไอเดียนี้นะครับ เรื่องของวิญาญาณผู้พิทักษ์แบบนี้ บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ดุเดือดเป็นอย่างมากสมกับเป็นเรื่องปิดในซีรีย์นี้เลยครับ
ทั้ง 5 เรื่องนี้มีรูปแบบที่เรียกว่าดุเดือดเลือดพล่านเอามากๆครับ 3 ใน 4 เรื่องนี้ผมยกให้เป็นระดับวางไม่ลง อีก 2 เรื่องแม้มีความดุดันน้อยกว่า แต่งานภาพและไอเดียเป็นอะไรที่ทำให้งงเลยว่าจะเอาแบบนั้นเหรอ ตัวเนื้อหาแม้มันจะไม่มีอะไรใหม่หรือแหวกแนว แต่ด้วยวิธีการเล่าที่ ใส่ ใส่ ใส่ แบบไม่ยั้ง จัดเต็มทั้งงานภาพและการเล่าเรื่องให้ชวนสงสัยไปกับสิ่งที่ตัว โซ และคนอื่นได้เจอ ก็สร้างความน่าสนใจและทำให้ผมซึ่งเป็นคนอ่านสนุกไปกับการตามดูเรื่องราวในเรื่องได้อย่างมากครับ
ในส่วนของตัวละครอย่าง โซ ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง อ. ก็วางตำแหน่งเอาไว้ให้เป็นตัวซวยที่ไม่รู้จะใช้พลังอย่างไรในตอนต้น ผมออกจะงงซักหน่อยกับการใช้พลังในแต่ละครั้งของ โซ ซึ่งต้องอาศัยความฝันในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวในตอนแรกครับ มันออกจะทำให้ดูตลบหลังไปซักหน่อย ที่เนื้อเรื่องมันถูกทำให้เหมือนตัวร้ายสามารถทำอย่างที่ต้องการได้ ฆ่าๆ ฟันๆ เรียบร้อยไปแล้ว
และอยู่ๆ ตัวโซก็สามารถกลับมาแก้ไขและแก้แค้นตัวร้ายได้ด้วยการใช้พลังในฝันและปรับเปลี่ยนเหตุการณ์ในชีวิตจริงๆ ได้ พลังของ โซ นี้โครตเทพเลยครับ แต่เรื่องมันก็เล่าไปอีกในเหตุการณ์ต่อๆไปว่า ตัว โซ เองนั้น ต้องไปเกี่ยวข้องกับเรื่องร้ายบางเรื่อง เพราะตัวเองเสมือนเป็นจุดรับพลังด้านร้ายจากคนอื่นๆ ได้ เหมือนตัวเอกเรื่องนี้โดยแทง โซก็ได้รับแผลแบบนั้น ทำให้ โซ ต้องตามหา
หรือต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องร้ายแบบนี้ เพราะไม่งั้น โซ มันตายแน่ๆ ผมว่าเป็นพลังที่โครตซวยเลยครับ แต่เนื้อเรื่องแบบนี้ก็นำไปเขียนซีรีย์เรื่องยาวกว่านี้ได้เลยนะครับ โซ ผู้มีพลังแห่งความซวย และก็ซวยจนถึงบทส่งท้ายกันเลยทีเดียว สำหรับผม โซ เป็นอีกคนที่มีพลังโครตเทพ แต่ผมไม่อยากเป็นตัวเอกอย่าง โซ แน่นอนครับ
ทั้ง 5 เรื่องในซีรีย์นี้ ค่อนข้างเล่าเรื่องได้เร็ว แม้มีบางจุดที่ใส่ใจกับความเป็นเด็กๆ มากไปหน่อย มันทำให้ดูน่ารำคาญเล็กๆกับพฤติกรรมแบบเด็กๆ ที่ อ. ต้องการนำเสนอ แต่ผมก็มองว่ามันสมจริงนะ และเป็นเรื่องปกติ เพราะงานของ อ. เกือบทุกเรื่องจะใช้ตัวละครที่เป็นเด็กให้มารับกรรมอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นการนำเสนอความเป็นเด็กในแง่ความสมจริงและความปวดหัวก็เป็นจุดที่เลี่ยงไม่ได้ในการนำเสนอแบบนี้ครับ
งานภาพเป็นอะไรที่ต้องพูดถึงครับในเรื่องนี้ ด้วยความที่ความสยองในเรื่องนี้มีงานภาพเป็นตัวผลักดันให้สนุกควบคู่ไปกับเนื้อเรื่องที่โหดร้ายในตอนนั้น หากมองในแงของการวาด ผลงานของ อ. อาจไม่ได้สามารถบอกได้ว่ามันสวย เพราะมันออกมืด และสับสน ในตลอดทั้งเรื่องครับ ลายเส้นของ อ. มีความดิบ เอามากๆ ซึ่งมันเข้าได้ดีกับเนื้อหาในเรื่องแบบนี้ครับ เรียกว่างานภาพทำหน้าที่ของมันได้ดีในอีกครั้งนึงครับ หลายๆครั้งภาพสื่อสารถึงความรุนแรง ความเจ็บปวด ความตายได้เป็นอย่างดีครับ
คราวนี้เรามาพูดถึงเรื่องงานผลิตในครั้งนี้ของหนังสือทั้งหมดในซีรีย์นี้นะครับ “มือขวาของปีศาจร้าย มือซ้ายของเทพเจ้า” เซ็ทนี้พิมพ์และจัดจำหน่ายโดย สนพ PKC ครับออกมาทั้งหมด 4 เล่มจบ โดยใช้รูปแบบปกติของการ์ตูนครับ ทั้งขนาด และ มีปกสองชั้น โดยการออกแบบปกผมว่าทำได้ดีเลยนะครับ มันให้อารมณ์ว่าเป็นงานคลาสิคด้วยพื้นหลังสีน้ำเงินและใช้รูปย่อเพียงตรงกลางครับ อาจไม่ได้โดดเด่นเอามากๆ หรือสะดุดตา แต่ผมเห็นเขามักออกแบบงานคลาสิคให้เป็นรูปแบบนี้อยู่บ่อยๆ ครับ โดยส่วนตัวผมเลยไม่มีปัญหาอะไรกับการออกแบบทำนองนี้ครับ
ตัวกระดาษผมไม่รู้ว่าใช้กระดาษประเภทไหน เกรดอะไร แต่เท่าที่สัมผัสผมว่ามันโอเคนะครับ ส่วนงานพิมพ์เป็นอะไรที่ต้องพูดกันซักหน่อย ด้วยตัวผมเองไม่รู้ว่า ต้นฉบับงานชุดนี้ได้มาแบบไหน สมบูรณ์แค่ไหน ทำให้งานพิมพ์เรื่องนี้จะว่าคมชัดไหม ก็บอกไม่ได้ว่าคมชัด แต่ไม่ถือกับแย่ครับ ด้วยการที่ผมเกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องว่า งานของ อ. มันมีความเก่า และด้วยการวาดที่เป็นเอกลักษณ์ออกแนวทึมๆ มืดๆ นั่นอาจทำให้ตั้งแต่ต้นฉบับที่มามันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว
ประกอบกับความคมชัดจากงานสมัยก่อนมันไม่ดีเท่าตอนนี้หรือเปล่า มันถึงทำให้งานพิมพ์ในครั้งนี้ ไม่คมชัดอย่างที่เราคุ้นเคยในปัจจุบันครับ อันนี้เลยต้องบอกไว้ก่อนว่า อาจด้วยต้นฉบับมันมาแบบนี้อยู่แล้ว มันเลยไม่สามารถทำให้คมชัดเท่างานทุกวันนี้ได้ แต่ทั้งหมดอ่านได้ปกติ มันไม่ได้แย่มากครับ ส่วนตัวผมเชื่อว่าต้นฉบับมันชัดเท่านี้แหล่ะครับ
มันถึงออกมาได้ประมาณนี้ครับ ไม่มีหมึกเลอะ เส้นชัดครับเรื่องนี้ ส่วนงานแปลผมว่าแปลออกมาโอเคนะครับ อ่านแล้วเข้าใจไม่รู้สึกว่ามันติดตรงไหนเลย ลื่นครับ และในเรื่องนี้ในส่วนของคำที่ตัวละครร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดหรือตกใจ สนพ จะคงคำญี่ปุ่นไว้และแปะคำไทยไว้ข้างๆ ไม่ใช่พิมพ์คำไทยแทนที่ไปนะครับ สำหรับพวกตัวหนังสือที่เกี่ยวกับการร้องหรือตกใจครับ
โดยส่วนตัวนะครับ ผมชอบซีรีย์นี้มากกว่าอีกเรื่องที่ผมเคยรีวิวไว้อย่าง โรงเรียนฝ่ามิตินรก อีกครับ ผมว่าเรื่องนี้ลงตัวกว่าทั้งวิธีการนำเสนอ งานภาพที่สื่อสารออกมาได้โหดมาก เนื้อเรื่องที่ดำเนินไปได้อย่างลงตัว อาจด้วยงานเรื่องนี้ออกในปี 80 ส่วน โรงเรียนผ่ามิติ อันนี้ออกมาในปี 70 ความลงตัวเลยทำได้ดีกว่าครับ
นั่นก็ทำให้พอผมได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ก็อยากอ่านเรื่องต่อไปของ อ. เป็นอย่างยิ่งครับ ถือว่าเป็นเรื่องสยองขวัญที่สยองและน่ากลัวจริงๆ อ่านเรื่องนี้แล้วเข้าใจว่าทำไม อ. จุนจิ ถึงชอบงานของ อ. ท่านนี้มากครับ ลองหาอ่านดูนะครับ ถ้ามีโอกาส บอกได้เลยว่าไม่น่าจะทำให้แฟนๆการ์ตูนแนวนี้ผิดหวังครับ จัดให้ว่าควรมีครับเรื่องนี้.
ภาพ 10/10 (อันนี้ให้การวาดแท้ๆเลยนะ ภาพสื่อสารออกมาได้รุนแรงและทำให้กลัวตามที่ต้องการนำเสนอครับ
เรื่อง 10/10 (ให้คะแนนเต็มเพราะนี้คืองานเก่ามากๆ แต่ไอเดียและการนำเสนอผมถือว่าไม่ตกยุค ไม่เชยครับ)
ความประทับใจ 10/10 (พาไปถึงจุดที่อยากไปถึงในงานสยองขวัญเรื่องนี้ครับ อาจไม่ทุกหน้าแต่สมควรได้ครับ)
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #4เล่มจบ #PiratKing #การ์ตูนแนวสยองขวัญ #การ์ตูนแนวระทึกขวัญ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวภูตผีปีศาจ #10คะแนน #มือขวาของปีศาจร้ายมือซ้ายของเทพเจ้า #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #การ์ตูนแนวรวมเรื่องสั้น #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
โฆษณา