18 พ.ย. 2022 เวลา 06:13 • การเกษตร
เอาข้อมูลดีๆมาฝากกันครับ.
ปาล์มพันธุ์แท้ VS ปาล์มใต้โคน(ปลอม)
เนื่องด้วยปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยโดยเฉพาะในภาคใต้ซึ่งยังเป็นรองทางด้านคุณภาพการปลูก, การจัดการ , ประสิทธิภาพผลผลิตและพื้นที่ปลูก อาทิ เช่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งมีพื้นที่ปลูกรวม > 90% ของทั่วโลก และมีประสิทธิภาพการผลิตอยู่ที่ 20%-22%ไทยมีสัดส่วนผลผลิตแค่ประมาณ 3% ของผลผลิตโลกและ ประสิทธิภาพการผลิตเฉลี่ยแค่ 18% นับว่ายังต่ำกว่าทุกประเทศ.
ต้นกล้าและสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ดีนับเป็นปัจจัยสำคัญมากอันหนึ่งในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน เพิ่มผลกำไรให้กับชาวสวนปาล์มทั่งยังผลักดันให้ผลปาล์มมีราคาเฉลี่ย/กก. สูงขึ้นตาม%น้ำมันที่เพิ่มขึ้น เช่นปรับปรุงจาก 18% --> 23% จากราคาปกติที่%ต่ำอยู่แล้ว = 8 บาท/กก. ก็น่าจะเป็น 11 บาท/กก. เป็นต้น
ก่อนที่จะเข้าเรื่องสายพันธุ์ปาล์มต่างต่างจะขอนิยามคำต่างต่างเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจในเนื้อหา
(1) ปาล์มฟิสิเฟอรา
= คือปาล์มที่มีดอกตัวผู้สมบูรณ์ แต่ดอกตัวเมียจะด้อยชอบฝ่อเป็นหมันแทบไม่มีเมล็ดในหรือกะลาเลยมี%น้ำมันสูงมากที่สุด = 30%ต่อผลทะลายแต่ผลผลิตที่ได้รับน้อยมากเพราะเมล็ดส่วนมากจะฝ่อไปเสียก่อน บ้านเราเรียก "ปาล์มผู้" ต้นปาล์มจะมีโครงสร้างลำต้นใหญ่สักหน่อยซึ่งไม่ใช่ปาล์มกระเทยตามที่เราเข้าใจนะนะครับ.
(2) ปาล์มดูร่า
= ปาล์มที่ดอกตัวเมียสมบูรณ์แต่ดอกตัวผู้ด้อยมีเมล็ดในและกะลาหนามาก%น้ำมันแค่ 12%-15%ต่อผลทะลาย บ้านเราเรียก "ปาล์มหิน" มีน้ำหนักต่อทะลายสูงกว่าเพราะเมล็ดในใหญ่และกะลาหนามากแต่ผลผลิตจำนวนทะลายก็ยังไม่มากเมื่อเทียบกับปาล์มเทอเนอร่าครับ.
(3) ปาล์มเทอเนอร่า
= ปาล์มลูกผสมระหว่างปาล์มฟิสิเฟอร่า(พ่อพันธุ์) กับ ปาล์มดูร่า(แม่พันธุ์) รวมจุดดีเด่นของทั้งฟิสิเฟอร่า(พ่อ) กับ ดูร่า(แม่) คือ%น้ำมันสูงมาก 25% เมล็ดในและกะลาบางและออกผลทะลายปาล์มได้ดีกว่าดูร่า 87% แต่น้ำหนักต่อทะลายเบากว่า 20% หักล้างไปมาแล้วปาล์มเทอเนอร่ามีผลผลิตมากกว่าดูร่า = 67%
เปรียบเทียบกันถ้าสภาพแวดล้อมความสมบูรณ์เหมือนกันทุกอย่าง ถ้าปาล์มดูร่าผลิตได้ 3.60 ตัน/ไร่/ปี แล้วปาล์มลูกผสมเทอเนอร่าจะมีผลผลิตได้ดีกว่าเฉลี่ย 67% คิดเป็น 1.67เท่า × 3.60ตัน = 6 ตัน/ไร่/ปี หรือกลับกันดูร่าจะมีผลผลิตเฉลี่ย = 60%ของเทอเนอร่า เป็นต้นครับ
และปาล์มเทอเนอร่าแท้จะมีค่าการผลิตน้ำมัน = 6 ตัน × 25% = 1.50 ตัน/ไร่ มากกว่าดูร่าที่มีค่าการผลิตน้ำมัน = 3.60 ตัน × 15% = 0.54 ตัน/ไร่ มากกว่ากันเกือบ 3 เท่าทีเดียวเลยนะครับ.
เปรียบเทียบผลผลิต
ฟิสิเฟอร่า vs ดูร่า vs เทอเนอร่า
ฟิสิเฟอร่า=30%น้ำมัน / 0.50ตัน/ไร่/ น้ำมัน150กก.
ดูร่า = 15%น้ำมัน / 3.60 ตันต่อไร่ / น้ำมัน540กก.
เทอเนอร่า = 25% / 6 ตันต่อไร่ / น้ำมัน 1,500กก.
ดังนั้นผลผลิตทะลายปาล์มสุก
ฟิสิเฟอร่า = 8.30%
ดูร่า = 60%
เทอเนอร่าแท้(F1) = 100% เป็นต้นครับ.
 
ดังนั้นผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบ
ฟิสิเฟอรา = 10%
ดูร่า = 36% ,
เทอเนอร่าแท้(F1) = 100% เป็นต้นครับ
(4) ปาล์มพันธุ์แท้
= คือต้นกล้าปาล์มที่เพาะจากต้นพ่อพันธุ์ฟิสิเฟอร่าที่บริสุทธิ์(PP) กับ ต้นแม่พันธุ์ดูร่าที่บริสุทธิ์(DD) ได้เมล็ดพันธุ์ที่มียีนส์ = D×P 100% เป็นลูกผสมชั้นที่1(F1) เรียกว่าเทอเนอร่า(D×P) สังเกตุเมล็ดที่นำมาเพาะจะมีลักษณะกะลาหนาเหมือนแม่พันธุ์ดูร่า และเมื่อนำมาปลูกผลผลิตที่ได้จะมีทะลายดกมากและจะมีเมล็ดในเล็กและกะลาบางทั้งหมด100% เลย และ%น้ำมันสูงแทบทุกเมล็ดและทุกทะลายเลยครับ.
(5) ปาล์มพันธุ์แท้ที่ดี
= ปาล์มลูกผสมเทอเนอร่ามาจากการผสมข้ามพันธุ์ฟิสิเฟอร่า กับ ดูร่า ที่สมบูรณ์แบบ และมีการคัดลักษณะผิดปกติไม่สมบูรณ์ ออกประมาณ 20%
เปรียบเสมือนลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย ถึงแม้จะมีเชื้อฝรั่งแท้50% กับไทยแท้50% เป็นลูกครึ่งที่สวยหล่อเป็นพระเอกนางเอกได้เกือบทุกคน แต่มีโอกาสผิดปกติได้เช่นกัน เช่น พิการ , ออทิสติก , โรคร้ายแรง , โดยเฉพาะพวกเป็นกระเทย(LGBT) ถึงแม้จะสืบพันธุ์ได้แต่ก็ติดยากเพราะดอกตัวผู้(ดอ)ชอบเอากับดอกตัวผู้(ดอ) หรือดอกตัวเมีย(จิ๋ม)ก็ชอบเอาแต่กับดอกตัวเมีย(จิ๋ม) มันเที่ยวผลักเพศตรงข้ามออกแต่ดูดเพศเดียวกันเข้าหากันตลอดเอากันแค่ตายมันก็ไม่มีลูกไม่มีผลผลิตนะจ๊ะจะบอกให้ครับ.
(6) ปาล์มใต้โคนหรือปาล์มปลอม
= คือเมล็ดที่เกิดจากการผสมกันเองของปาล์มเทอเนอร่าแท้สายพันธุ์ต่างต่างแล้วร่วงหล่นเติบโตเป็นต้นกล้าปาล์ม หรือจงใจนำเมล็ดจากทะลายปาล์มไปเพาะเป็นต้นกล้าปาล์มเพื่อจำหน่ายหรือเพาะปลูกเอง ซึ่งสมควรนำเข้าสู่กระบวนการหีบสกัดน้ำมันปาล์ม แต่กลับนำไปเพาะปลูกซึ่งเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งยวดเกิดความน่าจะเป็นของยีนส์โครโมโซมDNA จาก DP × DP
PP = ปาล์มฟิสิเฟอร่าเทียม(ปาล์มผู้) 25%
DD = ปาล์มดูร่าเทียม(ปาล์มหิน) 25%
DP = ปาล์มเทอเนอร่าเทียม 50%
(คุณภาพได้เพียง 70% ของเทอเนอร่าแท้)
รวมผลผลิตรวมเฉลี่ย = (0.50ตัน×25%) + (3.60ตัน×25%) + (4.20ตัน×50%) = 0.125 + 0.90 + 2.10 = 3.125 ตัน/ไร่/ปี ดังนั้นผลผลิตของพันธุ์ใต้โคนเฉลี่ยประมาณ = (3.125ตัน÷6ตัน) = 52% ของพันธุ์ลูกผสมแท้(6ตัน/ไร่/ปี) นะครับ.
.หากผลผลิตปาล์มพันธุ์แท้ของชาวสวนปาล์มทำได้ = 4 ตัน/ไร่/ปี
หากนำพันธุ์ใต้โคนไปปลูกแทนในสภาวะเดียวกันทุกอย่างผลผลิตก็น่าจะได้แค่ 52%×4ตัน = 2.10ตัน/ไร่/ปี แถม%น้ำมันก็ต่ำลงเพราะมีปาล์มดูร่าเทียม(ปาล์มหิน) กด%ต่ำลงเข้าไปอีก จาก %น้ำมันเฉลี่ย 22% ก็จะกลายเป็น 17% จากราคาแทนที่จะได้ 10 บาท/กก. ก็จะได้รับประมาณ 7 บาท/กก. หรือคนขายต้นกล้าปาล์มจากโคนต้นปาล์มคัดเมล็ดปาล์มเก่งสุดยอดมากจนได้เป็นปาล์มดูร่าเทียม(ปาล์มหิน) แทบทั้งหมด %น้ำมันน่าจะได้ 12% สุดท้ายขายปาล์มได้ 5 บาท/กก. แทนที่จะเป็น 10 บาท/กก. เป็นต้นนะครับ.
(7) ปาล์มเทอเนอร่าเทียม
= ปาล์มใต้โคนที่มียีนส์ = DP ซึ่งมีโอกาส 50% ของปาล์มใต้โคนทั้งหมด มีลักษณะเหมือนปาล์มพันธุ์แท้ เช่น เมล็ดในเล็ก กะลาบาง เป็นที่ต้องการของชาวสวนปาล์มที่ต้องการปาล์มใต้โคนราคาถูก แต่ผลผลิตจะไม่เท่ากับปาล์มพันธุ์แท้หรือเทอเนอร่าแท้ จากงานวิจัยและทดสอบพบว่าผลผลิตปาล์มเทอเนอร่าเทียม < หรือ = 70% ของปาล์มแท้ (70% × 6 ตัน = 4.20 ตัน) เนื่องมาจาก
1. ผสมกันเองของลูกผสมเทอเนอร่าเหมือนพี่น้องเอากัน สุดท้ายลูกที่เกิดมาจะมีลักษณะผิดปกติสูง เช่น ปัญญาอ่อน แคระแกรน ความสามารถให้ผลผลิตจึงลดลงอย่างแน่นอนเป็นต้นครับ.
2. ผสมกันเองของปาล์มเทอเนอร่าแท้(D×P) ไม่ได้มีการคัดกรองเลือกเฟ้นและช่วงเวลาที่เหมาะสมของพ่อพันธุ์ และ แม่พันธุ์ที่ดี ทำให้ได้ลูกผสมมีความผิดปกติมากอย่างแน่นอน.
3. ช่วงเวลาผสมพันธุ์ไม่เหมาะสม เหมือนกับผู้หญิงอยู่ดีดีก็ท้องตอน 50 ปี กับผู้ชายที่สุขภาพไม่ดีติดเหล้ายาบ้างอมแงมจนเชื้ออ่อน ลูกก็มีโอกาสเป็นออทิสติกสูง หรือไม่ได้รับอาหารวัคซีนยาที่สมบูรณ์ในขณะที่อยู่ในท้องลูกที่เกิดมาก็คงไม่มีคุณภาพให้ผลผลิตที่ดีเช่นกันครับ.
4. การเพาะเมล็ดที่ดีต้องมีการบำรุงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เช่น การประเคนธาตุอาหาร การฉีดวัคซีน และอื่นอื่น เพื่อทำให้เมล็ดที่ได้มีศักยภาพให้ผลผลิตสูง มีโอกาสผิดปกติและเป็นโรคน้อยที่สุด เหมือนกับคนที่พ่อพันธุ์ควรมีเชื้ออสุจิที่แข็งแรง แม่พันธุ์ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ย่างดีเยี่ยม เพื่อให้ลูกที่เกิดมาสมประกอบ-ไม่พิการ-สมองดี-ร่างกายสมบูรณ์ แต่ไม่น่าแก้ปาล์มกระเทยได้ เป็นต้นครับ
(8) ปาล์มที่มีลักษณะผิดปกติและปาล์มกระเทย
= ไม่ว่าต้นปาล์มสายพันธุ์ใดก็แล้วแต่ เช่น ฟิสิเฟอร่า , ดูร่า หรือ เทอเนอร่าชนิดต่างต่างที่ขายในประเทศไทยหลายสายพันธุ์ ซึ่งหากยังเป็นต้นกล้าปาล์มที่อายุยังน้อยหรือยังไม่ให้ผลผลิตไม่สามารถคัดแยกได้เลยว่าเป็นปาล์มชนิดใหนใหนได้เลย
แต่ถ้าปาล์มลูกผสมพันธุ์แท้ที่เกิดจากฟิสิเฟอร่าบริสุทธิ์(PP) กับดูร่าบริสุทธิ์(DD) ก็จะเป็นเทอเนอร่าแท้(D×P) 100% ทั้งหมด ถึงแม้จะดูชนิดปาล์มไม่ออกก็ตาม แต่ถ้าเป็นปาล์มใต้โคน ก็จะมีโอกาสเป็นทั้ง 3 ชนิด(ฟิสิเฟอร่า25% , เทอเนอร่าเทียม50% , ดูร่า25%) ไม่สามารถคัดแยกได้เลย แต่สิ่งที่พอจะคัดแยกได้คือความผิดปกติและปาล์มกระเทย(LGBT) เป็นต้นครับ.
เปรียบเสมือนพ่อพันธุ์ฟิสิเฟอร่าที่เป็นฝรั่งอังกฤษแท้ หรือแม่พันธุ์ดูร่าที่เป็นไทยแท้ ลูกที่เกิดมาคือเทอเนอร่าแท้หรือลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย ไม่ว่าจะเป็นฝรั่ง ไทย หรือลูกครึ่ง ทุกสายพันธุ์ทุกชนชาติ ต้องมีคนที่พิการ ออทิสติก หรือ กระเทย(ตุ๊ด ทอม เกย์ ดี้ , ...) ศักยภาพของปาล์มกระเทยในการให้ผลผลิตต่ำมากประมาณ = 1 ตัน/ไร่/ปี กลุ่มพวกนี้มีประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมดและสามารถคัดออกได้เมื่ออายุประมาณ 8 เดือนขึ้นไป เป็นต้นครับ.
จากการที่ราคาปาล์มมีราคาสูงขึ้นเรื่อยเรื่อย นับตั้งแต่ปี 2564 - 2565 มีราคาในช่วง 6 - 12 บาท/กก(เฉลี่ย = 8 บาท/กก.) ทำให้ชาวสวนต่างต่างเห็นถึงรายได้ที่งดงามและอนาคตของปาล์มน้ำมันที่สดใส จึงหาสายพันธุ์ปาล์มที่คิดว่าคุณภาพดีเพื่อนำมาเพาะปลูกที่สวนของตัวเอง
 
สายพันธุ์ปาล์มแบ่งได้ตามแหล่งเพาะพันธุ์ เช่น
ไทยแลนด์ = โกลเด้นท์เทอเนอร่า , ยูนิวานิช , สุราษฎร์1-9 , ซีพีไอไฮบริด , ทรัพย์มอ. เปารงค์
มาเลเซีย = ยังกัมบิ , คาร์ลิกซ์ , เชอมาร่า , สาวิตคินาบาลู ,
คอสตาริกา = เดลี่คอมแพคท์ , คอมแพคท์กาน่า , คอมแพคท์ไนจีเรีย , คอมแพคทอีโวลูชั่น , เดลี่ไนจีเรีย , เดลี่กาน่า , อะเมซอน.
ปาปัวนิวกินี = เดลี่ดามี่ , ซุปเปอร์แฟมีลี่
แอฟริกา = ซีหราดมิลเลเนี่ยม , เอลิท , กาโน่
ทุกสายพันธุ์ในที่นี้อยู่ในตระกูลปาล์มลูกผสมเทอเนอร่า ทั้งหมด ต่างกันแค่ชนิดของพ่อพันธุ์ฟิสิเฟอร่า และ ชนิดของแม่พันธุ์ดูร่า เปรียบพ่อพันธุ์ฟิสิเฟอร่าเป็นฝรั่งผิวขาว อาจจะเป็น อังกฤษ , สเปน , อิตาลี , เยอรมัน , ฝรั่งเศษ , ยูเครน , รัสเซีย , ฯลฯ
และเปรียบแม่พันธุ์ดูร่า เป็นคนผิวเหลืองแดงหรือคนดำ เช่น ไทย , มาเลเซีย , อินโดนีเซีย , คอสตาริกา , ไนจีเรีย , กาน่า , ปาปัวนิวกีนี , ไอวอรี้โคสต์ , เบนนิน เป็นต้น
ลูกผสมที่ได้ก็จะเป็นลูกครึ่ง 100% มีคุณสมบัติคือสวยหล่อเป็นพระเอกนางเอกได้เกือบทุกคน ประมาณ ณเดช , มาริโอ เมาเหล้า, ญาญ่า , ดาวิกา โฮเน่ , แพทริเซีย กู๊ด , ฯลฯ แต่ต้องคัดพวกกระเทย(LGBT) และพิการออกสัก 20% เป็นต้นครับ.
และเมื่อลูกผสมลูกครึ่งนี้เอากันโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีความพร้อมไม่ถูกสุขลักษณะ ก็จะเกิดเป็น
1. ฝรั่งแท้(25%) แต่เป็นหมัน(ฟิสิเฟอร่าที่ไม่บริสุทธิ์)
2. ลูกครึ่งเหมือนพ่อแม่50%(เทอเนอร่าเทียม)
3.ไทยแท้(25%)เหมือนไทยแท้(ดูร่าที่ไม่บริสุทธิ์)
ดังนั้น หากชาวสวนจะซื้อต้นกล้าปาล์มมาปลูกต้องแน่ใจเสียก่อนว่าแหล่งเพาะพันธุ์และจำหน่าย เป็นพันธุ์แท้มิใช่พันธุ์ใต้โคนหรืออาจเป็นพันธุ์แท้แต่เป็นดูร่าแท้ หรือ ฟืสิเฟอร่าแท้ ซึ่งสรุปได้ดังนี้.
 
(1)ฟิสิเฟอร่าทั้งหมด=0.50 ตัน = 12%ของพันธุ์แท้
(2)ดูร่าทั้งหมด = 3.60 ตัน = 60%ของพันธุ์แท้
(3)เทอเนอร่าเทียม = 4.20 ตัน = 70%ของพันธุ์แท้
(4) เทอเนอร่าแท้ = 6 ตัน/ไร่/ปี = 100%พันธุ์แท้
ทั้ง 3 ชนิดแรกที่เกิดจากปาล์มใต้โคนไม่สามารถคัดแยกได้เลยจนกว่าปาล์มจะให้ผลผลิตแล้วในปีที่3 นะครับ และความเป็นไปได้ของผลผลิตที่เป็นไปได้มากที่สุดในโลก คือ
 
(25%×0.50ตัน)+(25%×3.60ตัน)+(50%×4.20ตัน) = 0.125 + 0.90 + 2.10 = 3.125 ตัน/ไร่/ปี
เทียบกับ 6 ตัน/ไร่/ปี = 3.125 ตัน ÷ 6 ตัน = 52%
และถ้าปาล์มใต้โคนหากไม่คัดปาล์มผิดปกติและปาล์มกระเทยออกประสิทธิภาพของปาล์มใต้โคนจะลดลงไปอีก 20% คือ 3.125×80% = 2.50 ตัน/ไร่/ปี เทียบกับปาล์มแท้ 6 ตัน/ไร่/ปี
= 2.50 ตัน ÷ 6 ตัน = 42% ของปาล์มพันธุ์แท้ครับ.
ดังนั้น ชาวสวนปาล์มควรจะเลือกสายพันธุ์ปาล์มที่เหมาะสมกับพื้นที่และการจัดการและที่สำคัญต้องเป็นพันธุ์แท้ที่คัดปาล์มผิดปกติออกไปด้วย ซึ่งหากเลือกพันธุ์ใต้โคน(ปาล์มปลอม) ผลผลิตจะลดลงไปประมาณมากกว่า 48% แทนที่จะได้ผลผลิต 6 ตัน/ไร่ กลับได้เพียง 3.125 ตัน/ไร่ เกิดการสูญเสียผลผลิตสูงถึง 2.80 ตัน/ไร่ หรือคิดเป็นเงิน = 2,800 กก./ไร่ × 6 บาท/กก. = 16,800 บาท/ไร่/ปี
ถ้ามี 20 ไร่ จะต้องสูญเงิน = 20ไร่ × 16,800 บาท = 336,000 บาท/ปี ถ้าเก็บผลผลิต = 25 ปีต้องสูญเสียรายได้ = 336,000 บาท × 25ปี = 8,400,000 บาทเลยนะจะบอกให้.
หากมองในแง่เศรษฐศาสตร์มหภาค หากพื้นที่ปลูกปาล์มในประเทศไทย 6 ล้านไร่ เกิดเป็นปาล์มใต้โคนสัก 50% หรือสัก 3 ล้านไร่ จะเกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง คิดเป็นปริมาณทะลายปาล์มที่สูญเสีย = 3,000,000 ไร่ × 2.80ตัน/ไร่ = 8.40 ล้านตัน/ปี คิดเป็นมูลค่า = 8.40 พันล้านกิโลกรัม × 6 บาท/กก.= 50,400 ล้านบาท/ปี.
รวมทั้ง%น้ำมันที่ต่ำลงเฉลี่ย 5% จากการที่ได้ปาล์มดูร่าเทียม(ปาล์มหิน) เข้ามาในระบบจะทำให้ราคาลดลงไปอีกประมาณ 2 บาท/กก.
คิดเป็นมูลค่า
= 3ล้านไร่ × 3,200กก.× 2บาท = 19,200 ล้านบาท
เทียบเท่ากับคนไทยมีรายได้ที่ลดลง
= (50,400+19,200)÷60=1,160บาท/ปี/คน.
และที่สำคัญคือวงการเกษตรและอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันอาจจะต้องสูญสิ้นสลายไปเลยเพราะประสิทธิภาพต่ำมากมากไม่ควรค่าแก่การลงทุน
คิดเฉพาะอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันโดยไม่คิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นอื่น คิดเป็นมูลค่า
= 6,000,000ไร่ × 5ตัน/ไร่ × 6 บาท/กก. = 180,000 ล้านบาท เทียบเท่ากับคนไทยมีรายได้ลดลงเข้าไปอีก = 180,000 ล้านบาท ÷ 60ล้านคน
= 3,000 บาท/คน/ปี
แทนที่จะเกิดการผลิตแปรรูปเพิ่มมูลค่า(P)+จ้างงาน(EM)+ส่งออก(EX) ให้มากขึ้น กลับต้องเกิดการแทนที่ของการอุปโภคบริโภค(C) และนำเข้า(IM) น้ำมันปาล์มขวดและผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันอื่นอื่นมาทดแทนมากขึ้นอย่างมหาศาลคิดเป็นมูลค่า
= 6,000,000ไร่ × 800กก. = 5,400 ล้านกก.(น้ำมันปาล์มบริโภค) = 5,400ล้านขวด(1กก.)
ต้องซื้อมาในราคา = 5,400 ล้านขวด × 100 บาท/ขวด = 540,000 ล้านบาท. เลยนะครับ
ดังนั้นคนไทยมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือรายได้ลดลง = 540,000 ล้านบาท ÷ 60 ล้านคน = 9,000 บาท/คน/ปี เลยครับ.
สุดท้ายต้องไปซื้อน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียและอินโดนีเซียที่ราคาสูงกว่าปกติจนไม่มีตังค์เหลือพอไปซื้อข้าวหอมมะลิกินต้องกินแกลบหญ้าเหมือนไก่วัวยิ่งกว่าหมาบ้านเราในปัจุบันเสียอีกเพราะยากจนกันทั้งประเทศจนเท่าเทียมกันหมดเป็นที่พอใจอย่างยิ่งของฝ่ายประชาธิปไตย เป็นต้นครับ.
ดังนั้น หากชาวสวนปาล์มจะเลือกต้นกล้าปาล์มน้ำมันควรที่จะเลือกสายพันธุ์ปาล์มให้เหมาะสมกับพื้นที่และการจัดการและที่สำคัญที่สุดควรต้องเลือกพันธุ์แท้หรือเทอเนอร่าแท้(D×P) ที่เกิดมาจากการผสมของฟิสิเฟอร่าที่บริสุทธิ์(PP) กับ ดูร่าที่บริสุทธิ์(DD)
และมีการคัดต้นกล้าปาล์มที่ผิดปกติและเป็นกระเทยออกสัก 10%-20% ก็จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาวสวนปาล์มในเรื่องต้นทุนการผลิตที่ลดลงผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความสามารถในการทำกำไรได้มากขึ้นหลายเท่าและส่งผลดีต่อวงการอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันดังที่ได้กล่าวไว้แล้ว เป็นต้นนะครับจะบอกให้ครับ.
ปาล์มพันธุ์แท้หรือเทอเนอร่าแท้(D×P) มีประสิทธิภาพให้ผลผลิตสูงมากมากมีเมล็ดในเล็กกะลาบางมากให้%น้ำมันสูงมากทำให้สามารถจำหน่ายได้ในปริมาณที่มากที่สุดและ%น้ำมันดีที่สุดด้วยทำให้ขายได้ในราคาที่สูงขึ้นไปอีกก็เปรียบเหมือนกับคนที่เก่งดีมีวินัยรวมเป็นรูปแบบหนึ่งเดียวในสังคม ถ้าหากได้ประชากรแบบนี้แล้วสังคมและประเทศคงพัฒนาเจริญก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน.
แต่ถ้าหากไปเลือกปาล์มพันธุ์ใต้โคน(ดูใบหรือไต้หวัน) ซึ่งมี 3 รูปแบบคือ ฟิสิเฟอร่า(25%) , เทอเนอร่าเทียม(50%) , ดูร่า(25%) ผลผลิตจะต่ำมากไม่มีประสิทธิภาพ %น้ำมันต่ำทำให้ขายได้ในปริมาณที่น้อยและมีราคาที่ถูกลงเข้าไปอีก.
สุดท้าย ชาวสวนปาล์มจะเลือกปาล์มพันธุ์แท้ หรือปาล์มปลอม(ใต้โคน) อยากได้ประชากรปาล์มที่มีคุณภาพให้ผลผลิต = 6 ตัน/ไร่(100%) ในสวนตัวเองหรือประชากรปาล์มที่ด้อยคุณภาพที่คละเคล้ากัน 3 รูปแบบ(ดูร่า + เทอเนอร่าผันผวน + ฟิสิเฟอร่า) ซึ่งน่าจะได้ผลผลิตมีโอกาสมากสุด = 2.50 - 3.125 ตัน/ไร่ หรือ คิดเป็น = 42%-52%ของปาล์มพันธุ์แท้ ซึ่งก้อแล้วแต่ดุลยพินิจของท่านชาวสวนปาล์มทั้งหลายนะจ๊ะจะบอกให้
ส.นันทภัค
นักวิชาเกินการเกษตรและพัฒนาประเทศ
หัวหน้าพรรคชาติศาสน์กษัตริย์
Cr. เพจ คนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย By ชัยพัฒนา การเกษตร
โฆษณา