ใช้ชีวิตอย่างไรในช่วงเวลาที่ชีวิตตกต่ำถึงขีดสุด
กำลังใจดีๆ เพื่อใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นช่วงที่เลวร้าย
ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา หรืออาจจะอีกหลายๆ ครั้ง ที่ชีวิตเราต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ตกต่ำถึงขีดสุด บางทีอาจจะเรียกว่า “ดวงตก” แบบที่ว่ากู้ยังไงก็ไม่ขึ้น ทำยังไงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาในทางที่ดีเลย
ผมเองก็เคยผ่านประสบการณ์ดังกล่าวมาได้ เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมทั้งตกงาน และในขณะเดียวกันก็ถูกแฟนที่รักที่สุดทิ้งไป แถมเงินเก็บก็หมดแทบไม่มีเงินใช้จ่าย เรียกว่าทุกอย่างประเดประดังเข้ามาซัดเรากะให้จมทีเดียวราวกับคลื่นสึนามิก็ไม่ปาน
สำหรับท่านที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ที่ยากลำบาก วันนี้ผมมีวิธีการที่เคยใช้แล้วได้ผล จนในที่สุดชีวิตก็ได้เปลี่ยนแปลงต้านกระแสอันเชี่ยวกรากนี้กลับมายืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งได้ครับ
พยายาม กิน นอน ถ่าย ออกกำลังกาย :
ในสภาวะแบบนี้แน่นอนเลยจิตใจเราจะอ่อนล้าหมดหวังจนไม่สามารถที่จะดึงกลับมาที่เดิมได้ง่ายๆ ครับ เรื่องอารมณ์และจิตใจ ยากมากที่จะเยียวยาให้หายได้ในเวลาสั้นๆ ใครที่เคยเผชิญมาก็ต่างรู้ดี ดังนั้นสิ่งที่เราจะดูแลได้ดีที่สุดก็คือสุขภาพร่างกายของเราเอง เสียใจให้พอ ร้องไห้ให้พอ ได้สติกลับมาก็หันมากินข้าว ขับถ่าย ขยับร่างออกกำลังกายสักเล็กน้อย และต้องเข้านอน เวลานอนแม้ว่ามันจะหลับๆ ตื่นๆ บ้างในช่วงแรกก็ต้องนอน เพื่อไม่ให้ร่างกายทรุดโทรมตามสภาพจิตใจลงไป ปัญหาจะเพิ่มซะเปล่าๆ
ตั้งนาฬิกาปลุกทุก 1 ชั่วโมง :
มือถือจะอยู่กับเราแทบตลอดเวลา ใช้มือถือเรานี่แหละครับตั้งปลุกทุก 1 ชั่วโมง เพื่อเตือนสติให้ตัวเองว่าอย่าจมปลักอยู่กับอารมณ์ทางลบ เวลาเราจมจะพบว่าเวลา 1 ชั่วโมงผ่านไปไวมากโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อได้ยินเสียงปลุกจากนาฬิกาอย่างน้อยเราก็จะสะดุ้งตื่นจากภวังเหล่านั้น เป็นการเรียกสติกลับมาด้วยวิธีง่ายๆ เมื่อดีขึ้นแล้วก็ขยับเวลาปลุกให้ห่างออกไปเช่น ทุก 2-3 ชั่วโมง ในที่สุดเราจะไม่ต้องพึ่งเสียงนาฬิกาปลุกอีก พร้อมกับคนที่มีใจดวงใหม่ครับ
โทรหาพ่อ แม่ พี่น้อง คนสนิทที่เรารัก :
คนไกล้ตัวเหล่านี้รักท่านเสมอ ความรู้สึกว่าตัวเราเองนั้นก็มีค่าต่อทุกคนอยู่จะแล่นเข้ามา โทรหาพูดคุยและระบายให้เขาฟังบ้างผมเชื่อว่าเขาพร้อมจะรับฟัง ผมได้แม่ น้อง และเพื่อนรักนี่แหละครับที่ช่วยประคับประคองจิตใจจนกลับมาได้ เขาเหล่านั้นช่างแข็งแกร่งเหลือเกินกับสิ่งที่เขาได้เคยเผชิญมามากกว่าเราตอนนี้ด้วยซ้ำไป
บ่นกับตัวเอง :
หาที่ลับๆ ที่มีแต่ตัวเราเองพูดบ่นความในใจที่ถูกสิ่งต่างๆ กระทบออกมา แม้ว่ามันจะดูเหมือนคนบ้า แต่ถ้าได้ลองทำแล้วเราจะไม่เป็นบ้า เชื่อผมเถอะครับว่ามันช่วยให้ดีขึ้นแน่นอน ผมยังเคยอัดเสียงตัวเองในตอนนั้นด้วยเพื่อเอาไว้ฟังว่าเวลาหายแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร เมื่ออัดอั้นตันใจมากๆ ลองพูดมันออกมาครับ พูดให้ลมให้ฟ้าได้ฟัง การที่เรารู้สึกดีทีละน้อยบ่อยๆ ในที่สุดมันจะสะสมดึงสติให้เรากลับมาใจปกติได้ครับ
ให้ตัวเองอยู่ใน “เซฟโซน (Safe Zone)” :
คำแนะนำนี้ผมได้รับจากผู้ใหญ่เจ้านายเก่าที่นับถือ ซึ่งเป็นข้อสรุปของการใช้ชีวิตช่วงตกต่ำ เวลาที่จิตใจและร่างกายเราอ่อนล้าจากปัญหาต่างๆ ที่ถาโถม มีแนวโน้มที่จะทำให้เราตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ผิดพลาดได้ง่ายมาก
เพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิตเกิดปัญหาอื่นๆ เป็นลูกโซ่ตามมาเราต้องจัดให้ตัวเองอยู่ในสภาวะพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดหรือ Safe Zone อย่าเพิ่งลงทุนอะไรเพิ่ม อย่าเพิ่งไปหาจีบหาคู่คนใหม่แทนคนเก่าที่ทิ้งไป อย่าเพิ่งตัดสินใจโครงการใหญ่ๆ ในตอนนั้นผมเองถึงกับงดขับรถยนต์ด้วยซ้ำ มาขึ้นรถสาธารณะไปทำงานแทนเนื่องจากตัวเองได้นอนน้อยมาก มีภาวะนอนไม่หลับ ตื่นบ่อยๆ แม้ว่าจะเพิ่งนอนไปได้ไม่ถึงชั่วโมง ผมเลยกลัวว่าตัวเองจะวูบหรือปรี๊ตแตกขาดสติตอนขับรถ
แล้วการขึ้นรถสาธารณะทำให้เราได้คิด ได้ออกกำลัง ได้วิ่งได้เดิน ได้เคลื่อนที่ไปพร้อมกับผู้คนมากมายที่เขาเหล่านั้นดูจะเข้มแข็งสู้ชีวิต เราจะเหมือนได้รับพลังกลับมาจากเขาเหล่านั้น เป็นอีกทางทำให้จิตใจไม่ผูกติดครุ่นคิดแต่เรื่องเลวร้ายต่างๆ
เราต้องทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพวะที่เซฟที่สุดในทุกๆ ด้าน ไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ซ้ำเติมเราเข้ามาอีก หยุดๆ อะไรหลายๆ อย่างที่ดูแล้วไม่เซฟไปก่อน เพื่อรอวันที่จิตใจกับร่างกายเรากลับมาปกติดีมีสติสัมปชัญญะพร้อมใช้ชีวิตอีกครั้ง
ทำงานให้มากขึ้น อย่าแปลกแยกกับเพื่อนร่วมงาน ออกไปกินข้าวกลางวันกับพวกเขา ไปทำกิจกรรมต่างๆ เท่าที่ใจเราจะเอื้ออำนวย ทำให้เราไม่จมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ความสดชื่นสดในจะกลับมาสู่ตัวเราอีกครั้ง
ด้วยวิธีการง่ายๆ ไม่กี่ข้อนี้ ทำให้ภายในเวลาไม่กี่เดือนผมก็กลับมาปกติพร้อมสู้ชีวิตอีกครั้งได้ รอดพ้นการเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง แม้ว่าอาการเบื่อโลกไร้ความทะเยอทะยานจะติดอยู่อีกเป็นปีแต่ในที่สุดมันก็หายไปได้
ช่วงเวลาที่ตกต่ำของชีวิตนั้น วันหนึ่งก็จะผ่านไปแน่นอนครับ ขอแค่ท่านอดทนไว้ และระหว่างนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือไม่ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ เพิ่มตามมา เพื่อรอวันที่ชีวิตจะพาเราไปพบกับแสงสว่าง เมื่อถึงวันนั้นเราจะกลายเป็นอีกคนที่มีพลังใจกล้าแกร่งและไม่หวั่นไหวกับสิ่งเลวร้ายเหล่านี้อีกต่อไป
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
RichWayBook
โฆษณา