รีวิว Wonder Woman 1984 อาธรรพ์หนังภาคต่อที่ดีไม่เท่าภาคแรก
เรื่องราวเกิดขึ้นในยุค 80's หลังจากสูญเสียคนรักและยุติสงครามที่เกิดขึ้นในภาคแรก "ไดอาน่า พรินท์" หรือ"วันเดอร์วูแมน" ผันตัวเองมาเป็นนักโบราณคดีประจำพิพิธภัณฑ์ และใช้ชีวิตต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาพบกับ "บาบาร่า มิเนอร์ว่า" เพื่อนร่วมงานที่หลายๆคนมาว่าเฉิ่ม และบาบาร่าเองก็ได้ถูกให้ตรวจสอบหินปริศนาก้อนนึงที่สามารถขอพรอะไรก็ได้ แต่กลับซ่อนความน่าสะพรึงกลัวไว้เบื้องหลัง
"แม๊กซ์ ลอร์ด" นักธุรกิจหนุ่มที่กำลังจะล้มละลาย ทราบถึงการมีอยู่ของหินวิเศษ จึงพยายามออกตามหาและจะใช้มันในการยึดครองโลก วันเดอร์วูแมนจึงต้องหยุดการกระทำดังกล่าว แถม "สตีฟ" คนรักเก่ายังกลับมาจากความตาย ไดอาน่าจึงต้องตามหาสาเหตุและหยุดยั้งพลังชั่วร้ายของหินปริศนา.....
บอกตรงๆ ว่าผมคาดหวังกับเรื่องนี้ไว้พอควร เพราะภาคแรกทำออกมาได้สนุกมาก แต่พอได้ดูจริงๆ กลับรู้สึกว่ามันยังขาดๆเกินๆ ไปในหลายจุด
ทางด้านเนื้อเรื่อง การที่หนังมีความยาว 2 ชม. กว่า แต่มีฉากแอ๊คชั่นน้อยมาก ทำให้ง่วงได้พอตัวเลย แม้จะมีพาร์ทดราม่า การปูเนื้อเรื่องของตัวละคร แต่รู้สึกว่ามันยืดเยื้อเกินไป แถมเรายังไม่รู้สึกอินเท่าไหร่กับบทของตัวร้ายและตัวละครอื่นๆ ยกเว้นพาร์ทดราม่าของนางเอกคนเดียว
ด้านฉากแอ็คชั่นที่มีน้อยอยู่แล้วนั้น ทำได้ไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่าภาคแรกเลยด้วยซ้ำ ผมไม่ว่าถ้าจะมีฉากบู้น้อยหน่อยแล้วเน้นเล่าเนื้อเรื่องมากขึ้น แต่ผกก.ยังทำได้ไม่ดีทั้งสองจุด อย่างชุดที่ปูมาว่าเทพ มีปีก สวยงาม คือแค่ใส่มาบินๆ โดนตบสองสามทีพัง คือ อิหยังว่ะมาก ก็เล่นเป็นชุดโชส์ในโปสเตอร์ขนาดนั้น ก็ต้องคาดว่าความเฟี้ยวหรือลูกเล่นจากชุดบ้างแหละ แต่ไม่มีเลย
สิ่งดีๆ ในเรื่องเพียงอย่างเดียวคือนางเอก "กัล กาโดท" ที่รับบทวันเดอร์วูแมน นางยังคงมีความสง่างามแบบสุดๆ เหมาะสมกับบทมาก ส่วนตัวละครอื่นๆ อย่างตัวร้าย คือเกือบจะเท่แหละ แต่บางจุดก็ไร้เหตุผลเกินไป ไม่มีความน่าจดจำใดๆเลย แม้จะใช้นักแสดงมากฝีมืออย่าง "เปรโด พาสคาล" เองก็ตาม
สรุป Wonder woman 1984 เป็นอะไรที่ยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ ขาดสีสัน พาร์ทดราม่าก็ยังดึงอารมณ์ได้ไม่สุด ยิ่งพาร์ทแอ๊คชั่นยิ่งแล้วใหญ่ หวังว่าการมี เจมส์ กันน์ ไปคุมเป็นหัวเรือใหญ่ของ DC จะทำให้หนังเรื่องต่อๆไป ดูดีขึ้นกว่านี้นะ
คะแนน 6/10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
