20 พ.ย. 2022 เวลา 12:30 • กีฬา
ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มในอีกไม่กี่อึดใจ เราไปรู้จัก จุดอ่อน จุดแข็ง และคีย์แมนของแต่ละทีมกัน ถ้าเรารู้แบ็กกราวน์บางอย่าง อาจทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้สนุกขึ้น วิเคราะห์บอลจริงจังจะพรีวิว เต็ง 1 ถึง 8 ไปดูว่าพวกเขามีทีเด็ดอะไรกันบ้าง
4
-----------------------
[ เต็ง 1 - บราซิล ]
2
บราซิลคือเต็งหนึ่งฟุตบอลโลกแทบทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน เหตุผลแรก คือฟุตบอลโลกครั้งเดียวที่จัดในเอเชีย (เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น 2002) บราซิลเป็นแชมป์โลก ดังนั้นการวนกลับมาจัดที่เอเชียอีกครั้ง จะแปลกอะไรถ้าพวกเขาจะคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง
5
ส่วนเหตุผลที่ 2 ในทีมทั้งหมดที่มาบอลโลก บราซิลมีตัวรุกที่ครบเครื่องที่สุดแล้ว เนย์มาร์, ริชาร์ลิซอน, เชซุส, ราฟินญ่า, อ็องโตนี่, วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก้, มาร์ติเนลลี่ ชื่อทั้งหมดนี้ ไปอยู่ทีมไหนก็เป็นตัวจริงได้ทั้งนั้น เรียกได้ว่า ถ้าใครเล่นไม่ออก ก็มีโจ๊กเกอร์เปลี่ยนลงมาแก้เกมได้ตลอด
1
ขณะที่กองกลาง ก็โอเคเลย ปาเกต้า กับ คาเซมิโร่ยืนคู่กัน อาจมีฟาบินโญ่สอดแทรกบางนัด ส่วนนายทวาร มีทั้งอลิสซอน และ เอแดร์ซอน ซึ่งอยู่ในระดับท็อปไฟว์ของโลกทั้งสองคน คือโดยรวมแล้วครบเครื่องมาก หาจุดอ่อนแทบไม่ได้ แกร่งทั่วแผ่นจริงๆ
3
สถาบันวิจัยอลัน ทัวริ่งของอังกฤษ ที่จะเอาผลคณิตศาสตร์มาคำนวณความน่าจะเป็นว่าใครจะเป็นแชมป์โลก บราซิลมาเต็ง 1 ที่จะเข้าชิง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์คือ 25.1%
5
คีย์แมน : ถ้าต้องเลือกคนเดียว คนนั้นคือเนย์มาร์ ในบรรดาตัวรุกทั้งหมดที่เรียกมา 9 คน เนย์มาร์การันตีตัวจริงแน่นอน เพราะประสบการณ์มากที่สุด อาวุโสสุด (30 ปี) คนอื่นที่เหลือ ถ้าไม่นับกาเบรียล เชซุส ไม่เคยมีใครมาบอลโลกแม้แต่คนเดียว ดังนั้นในเกมที่ตึงเครียด ต้องอาศัยความพิเศษของเนย์มาร์ในการช่วยน้องๆ พาทีมชนะให้ได้
1
จุดอ่อน : นับจากบราซิลแพ้เบลเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2018 จนถึงวันนี้ บราซิลลงแข่งทั้งหมด 50 เกม ในรอบ 4 ปี เชื่อหรือไม่ว่า ทั้ง 50 เกมนั้น เจอกับทีมจากยุโรปแค่ 1 นัดเท่านั้น (สาธารณรัฐเช็ก ในปี 2019) บราซิลชุดนี้ไม่มีประสบการณ์เลยกับทีมจากทวีปยุโรป และในกลุ่มของพวกเขา มี 2 ทีม (เซอร์เบีย, สวิส) มั่นใจไหมว่าจะชนะครบทั้งสองเกม
2
นอกจากนั้นตลอดเส้นทางของบราซิล ถ้าคิดอยากจะเป็นแชมป์ต้องเจอทีมยุโรปแน่ๆ อยู่แล้ว ไม่มีอะไรการันตีเลยว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดี
1
ขณะที่ฟูลแบ็กก็ดูจะน่าหวั่นใจนิดๆ เพราะ 4 คนที่เอามา อายุเยอะหมดเลย ดานี่ อัลเวส (39 ปี), อเล็กซ์ ซานโดร (31 ปี), ดานิโล่ (31 ปี), อเล็กซ์ เตลลิส (29 ปี) ถ้าเจอปีกตัวจี๊ดของชาติอื่น ก็อาจโดนเผาได้เละเหมือนกัน
1
------------------------
2
[ เต็ง 2 - อาร์เจนติน่า ]
อาร์เจนติน่า กำลังทะยานขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเขาเริ่มจากคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ตามด้วยถล่มอิตาลี คว้าแชมป์ Finalissima อย่างเด็ดขาด 3-0 ตอนนี้พวกเขาทำสถิติไร้พ่าย 36 เกมติดต่อกัน ตามหลังสถิติโลกของอิตาลี (37 เกม) เพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น
1
อาร์เจนติน่า มีจุดแข็งคือ ความเข้าใจกันของแนวรุก 2 รายการที่คว้าแชมป์ พวกเขาใช้สามตัวบน ลีโอเนล เมสซี่, อังเคล ดิ มาเรีย และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ซึ่งเป็นสามคนที่ส่งเสริมกันดีมากๆ และถ้าใครเหนื่อยล้า สำรองก็ยังมี เปาโล ดิบาล่า และ ฮูเลียน อัลวาเรซ คอยแก้เกมอีก
2
ทีมฟ้าขาว ต้องการหลุดพ้นจากความเชื่อว่า ถ้าไม่มี ดีเอโก้ มาราโดน่า ทีมก็ไม่สามารถเป็นแชมป์โลกได้ และครั้งนี้พวกเขาอาจจะปลดล็อกได้จริงๆ
คีย์แมน : ลีโอเนล เมสซี่ กับฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 และครั้งสุดท้ายของเขา เมสซี่ไม่สามารถถูกเรียกว่าเป็น G.O.A.T. ได้ ตราบใดที่ยังไม่สามารถได้แชมป์ฟุตบอลโลก ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของโลกฟุตบอล
2
เมสซี่มากาตาร์ในฟอร์มที่ดีจริงๆ กับเปแอสเช เขายิง 12 แอสซิสต์ 14 ช่วยให้ทีมนำเป็นจ่าฝูงของลีก และเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกแบบสบายๆ เซนส์บอลของเมสซี่ยังคงสุดยอด ในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดที่อัดยูเออี 5-0 เมสซี่ยิง 1 จ่าย 1 เลี้ยงกระจุยกระจาย มาตรฐานของเขายังดีจริงๆ
1
บางทีในวัย 35 นี่อาจเป็นการระเบิดพลังครั้งสุดท้ายในชีวิตของเมสซี่แล้ว และไม่แปลกถ้าอาร์เจนติน่าจะไปได้ไกลกว่าที่คิด
จุดอ่อน : เฮดโค้ชของพวกเขาคือ ลีโอเนล สกาโลนี่ อดีตนักเตะทีมชาติ วัย 44 ปี โดยสกาโลนี่ไม่เคยคุมสโมสรหรืออะไรเลย งานคุมทีมครั้งแรกของเขา คือการคุมทีมชาติอาร์เจนติน่านี่ล่ะ
2
เขาอาจจะคุมทีมในโคปา อเมริกามาแล้ว (แต่นัดชิงเล่นในสนามเกือบปิด มีคนดูแค่ 7 พันคน) เทียบไม่ได้เลย กับฟุตบอลโลกที่จะมีแรงกดดันมหาศาล ต้องเจอคู่แข่งในเลเวลที่สูงขึ้น ต้องแก้เกมอย่างเด็ดขาดมากขึ้น ใครจะการันตีว่าสกาโลนี่จะทำได้ดี
ในฟุตบอลโลกสมัยใหม่ (ไม่นับยุคก่อนสงครามโลก) มีโค้ชแค่คนเดียวเท่านั้น ที่ไม่เคยผ่านงานคุมสโมสรมาก่อนแล้ว ทำทีมได้แชมป์โลกเลย คือฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ (เวิลด์คัพ 1990) แต่ในเคสของเบ็คเค่นบาวเออร์ เขาเคยคุมทีมในบอลโลก 1986 มาแล้ว ต่างจากสกาโลนี่ที่จะเป็นบอลโลกครั้งแรกจริงๆ
2
------------------------
[ เต็ง 3 - ฝรั่งเศส ]
ฝรั่งเศสมาป้องกันแชมป์โลกด้วยความมั่นใจ พวกเขามีโค้ชที่อยู่กับทีมมายาวนาน อย่างดิดิเยร์ เดสช็องส์ เป็นคนที่เข้าใจทีมทุกอย่าง และนี่อาจเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเขา ดังนั้นอาจจะทิ้งทวนให้อลังการที่สุดก็ได้
1
จุดแข็งของฝรั่งเศสคือ ความสามารถโค้ช ประสบการณ์แชมป์ฟุตบอลโลก และ กองหน้า ที่พร้อมทำลายล้างทุกคนให้ราบคาบ อย่าง เอ็มบัปเป้ (ค่าเหนื่อยสูงสุดในโลก) และ กรีซมันน์ (รองดาวซัลโวฟุตบอลโลกคราวที่แล้ว) ยังไม่นับอุสมาน เดมเบเล่, คิงสลีย์ โคมัน และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์อีก
1
จริงๆ ปมประเด็นที่คนเถียงกันอยู่นาน คือเบนเซม่า ควรจะลงตัวจริง (เพราะเป็นนักเตะบัลลงดอร์) หรือ ชิรูด์ ควรจะลง (เพราะเล่นเข้าแผน เป็นตัวจริงชุดแชมป์โลก) แต่สุดท้ายเมื่อเบนเซม่าเจ็บและต้องถอนตัวออกไป ก็ชัดเจนแล้วว่าฝรั่งเศสจะเล่นอย่างไร
1
ฝรั่งเศสประกาศก่อนทัวร์นาเมนต์ว่าจะเล่นแผน "แบ็กโฟร์แบบ Defensive" แปลง่ายๆ ว่า ฟูลแบ็กสองข้างไม่เติม อาจจะใช้เซ็นเตอร์แบ็กเล่นแทนฟูลแบ็กไปเลย นั่นแปลว่า พวกเขามั่นใจในศักยภาพเกมรุกของตัวเองจริงๆ ว่าไม่ต้องใช้ฟูลแบ็กก็ยิงได้
3
นอกจากนั้น ฝรั่งเศสยังเป็นทีมที่มีพลังสดมากที่สุด กองหลังกับกองกลาง ไม่มีใครอายุถึง 30 แม้แต่คนเดียว พลังความฟิต ไม่เป็นรองใครแน่นอน ในทัวร์นาเมนต์ที่เล่นกันถี่แบบนี้
2
คีย์แมน : คีลียัน เอ็มบัปเป้ เป็นดาวรุ่งในบอลโลกครั้งที่แล้ว (19 ปี) แต่มาคราวนี้ (23 ปี) เขาจะมาในฐานะหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก เอ็มบัปเป้มีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่กองหน้าคนหนึ่งพึงจะมี และกับทีมชาติฝรั่งเศส เขาไม่ได้มีอีโก้ใดๆ ต่างกับที่เปแอสเช ดังนั้นถ้าเอ็มบัปเป้เล่นบอลอย่างมีสติ จะเป็นตัวอันตรายอันดับหนึ่งแน่ๆ
2
จุดอ่อน : กองกลางของทีม ทั้ง 6 คน ไม่มีใครอยู่ในทีมชุดแชมป์โลก 2018 เลย โดยคนที่เดสช็องส์ไว้ใจได้อย่าง พอล ป็อกบา และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้เจ็บทั้งคู่ ไม่มีอะไรการันตีเลยว่า 6 คนนี้ จะเล่นร่วมกันได้รอดไหม ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกไม่เคยมีทีมไหน ที่มีกองกลาง เป็น World Cup Debut ครบทุกคน แล้วจะคว้าแชมป์โลกได้ทันที (แต่ฝรั่งเศสอาจจะเป็นทีมแรกก็ได้ ใครจะรู้)
-----------------------
1
[ เต็ง 4 - สเปน ]
สเปน คือหนึ่งในทีมที่เร้าใจมากที่สุดในยูโร 2020 จริงๆ พวกเขาคู่ควรกับการเข้าชิงด้วย แต่ไปแพ้จุดโทษอิตาลีในรอบรองชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย สเปนชุดนี้ ไม่ใช้งานนักเตะอายุ 30 อัพ อย่างเซร์คิโอ รามอส และ ดาบิด เด เกอา เพราะหลุยส์ เอ็นริเก้ ต้องการสร้างทีมในแบบของตัวเอง ทีมที่จะประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว
2
ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีโค้ชแค่ 3 คนเท่านั้น ที่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาก่อน ประกอบด้วย หลุยส์ ฟาน กัล (อาแจ๊กซ์), ฮันซี่ ฟลิค (บาเยิร์น มิวนิค) และ อีกคนก็คือ เอ็นริเก้ (บาร์เซโลน่า) ดังนั้นเรื่องฝีมือ และการดีลกับนักเตะ เขาจะทำได้ดีอย่างไม่มีปัญหาแน่ๆ อย่าลืมว่า เขาเป็นนักเตะไม่กี่คนในโลก ที่เคยเล่นกับทั้งเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่ามาแล้ว
2
จุดที่น่าสนใจคือ หลุยส์ เอ็นริเก้ หัดเล่น Twitch เขาสตรีม เพื่อบอกแฟนๆ ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับทีม (สตรีมครั้งแรกมีคนดูพร้อมกัน 150,000 คน) ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกดี เป็นการเชื่อมต่อระหว่างโค้ช กับ แฟนๆ ชาวสเปน นั่นทำให้แฟนบอล และสื่อมวลชนชื่นชอบเขามากๆ
1
ในภาพรวม สเปนอยู่ในช่วงที่มั่นใจมาก 10 เกมหลังสุด ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ทรงถือว่าโอเค
คีย์แมน : เปดรี คือกองกลางที่หลุยส์ เอ็นริเก้ เชื่อมั่นอย่างมาก ในยูโร 2020 ตอนนั้นเปดรี อายุ 18 ปี แต่เขาได้ลงเล่นตัวจริงทุกเกม เล่นครบ 90 นาทีทุกนัด คนอื่นอาจมีโดนเปลี่ยนบ้างไรบ้าง แต่เปดรี ยืนปักหลักเสมอ นี่คือมิดฟิลด์ที่หลุยส์ เอ็นริเก้ชอบที่สุด พลังความฟิตมหาศาล เข้าใจเกมเป็นเลิศ
1
เปดรี จะเล่นร่วมกับ กาบี และ เซร์คิโอ บุสเกตต์ สองเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลน่า ที่จะแย่งตำแหน่งกับ โรดรี้ (แมนฯ ซิตี้), โกเก้ และ ยอร์เรนเต้ (แอตเลติโก้ มาดริด) และ โซแลร์ (เปแอสเช) จะเห็นเลยว่า แผงมิดฟิลด์ของสเปน แข็งแกร่งไม่ได้เป็นรองใครทั้งนั้น
1
จุดอ่อน : กองหน้าตัวเป้าคือคำถาม จริงอยู่พวกเขาคืออัลบาโร่ โมราต้า แต่โมราต้าเป็นคนที่ขาดความแน่นอนที่สุด บางเกมจะเล่นดีก็ดีมาก แต่บทจะฟอร์มหลุดก็ยิงวืดหน้าตาเฉย ซึ่งเกมระดับบอลโลก คุณพลาดแบบนั้นไม่ได้
2
คนอื่นนอกจากโมราต้า สเปนเรียกกองหน้า (และปีก) รวมทั้งหมด 7 คน เข้าสู่ทีมชุดนี้ แต่มีเพียงแค่เฟอร์รัน ตอร์เรส คนเดียว ที่ยิงในทีมชาติเกิน 10 ลูก ที่เหลือก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ จึงน่าสนใจว่า ในเกมกดดันจะเอาอยู่ไหม
2
นอกจากนั้น สเปนก็อยู่ในสายที่ไม่ง่ายเลย มีเยอรมันอยู่ร่วมกลุ่มด้วย และอีกทีมคือญี่ปุ่น ที่คุณก็ประมาทไม่ได้ แล้วถ้าเข้ารอบต่อไปได้ คู่แข่งที่รออยู่คือ โครเอเชีย หรือ เบลเยี่ยม ซึ่งก็สาหัสทั้งคู่ สเปนต้องระเบิดฟอร์มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าคุณคิดจะไปถึงแชมป์โลกให้ได้
1
-----------------------
[ เต็ง 5 - อังกฤษ ]
1
คุณจะชอบอังกฤษหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ในยุคของแกเร็ธ เซาธ์เกท พวกเขามีผลงานดีมากๆ ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ฟุตบอลโลก 2018 เข้ารอบรอง ตามด้วยยูโร 2020 เข้ารอบชิง อังกฤษชุดนี้มีความเยือกเย็น เล่นกันเป็นทีม และมีสปิริตที่น่าทึ่ง
จุดแข็งที่สุดของอังกฤษ คือ "เซ็ตพีซ" ในฟุตบอลโลกที่รัสเซีย อังกฤษสร้างประวัติศาสตร์ ทำประตูจากลูกนิ่งทั้งหมด 9 ลูกในทัวร์นาเมนต์ จุดโทษ, เตะมุม, ฟรีคิก มาครบทุกสิ่งอย่าง ในทีมชุดนี้ มีตัวเปิดลูกนิ่งที่อันตรายมากๆ อย่างคีแรน ทริปเพียร์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิ่งมีหัวหอก ที่ค้ำบอลได้ดี อย่างแฮร์รี่ เคนด้วยแล้วล่ะก็ มันยิ่งเข้าทางกันไปใหญ่
1
แกนหลักของอังกฤษชุดนี้ เป็นกลุ่มที่เล่นด้วยกันต่อเนื่อง ตั้งแต่ยูโร 2020 เคน, พิคฟอร์ด, แม็กไกวร์, สโตนส์, ชอว์, ไรซ์, ทริปเพียร์, สเตอร์ลิ่ง สอดแทรกด้วย ฟิล โฟเด้น, จู๊ด เบลลิงแฮม, คัลลิม วิลสัน ดังนั้นทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าต้องเล่นยังไง
2
นอกจากนั้น การจับสลากของอังกฤษ ยังไม่หนักจนเกินไป ในรอบแรกอยู่กลุ่มเดียวกับ อิหร่าน, สหรัฐอเมริกา และ เวลส์ พวกเขาจบอันดับหนึ่งได้สบายๆ จากนั้นในรอบสอง ก็มีแนวโน้มจะเจอกับเซเนกัล (ที่ไม่มีมาเน่), เจ้าภาพกาตาร์ หรือ เอกวาดอร์ ซึ่งจะเป็นใคร อังกฤษก็ดูดีกว่าทั้งสิ้น
1
จะไปหนักเอาจริงๆ คือรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่อาจเจอฝรั่งเศส แต่ถึงตรงนั้นก็ไม่มีอะไรต้องมากลัวเกรงกันแล้ว
1
คีย์แมน : จู๊ด เบลลิงแฮม จะเป็นหัวใจสำคัญมากในแผงมิดฟิลด์ คือในยูโร คู่กลางคือดีแคลน ไรซ์ กับ คาลวิน ฟิลลิปส์ แต่ด้วยความที่ฟิลลิปส์ แทบไม่ได้ลงสนามเลยในซีซั่นนี้ เบลลิงแฮมจะยึดตำแหน่งแน่นอน
3
ด้วยแผนของอังกฤษ 5-2-3 กองกลาง 2 คน จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน เพื่อลำเลียงบอลไปสู่สามกองหน้า ดังนั้น เราต้องมาดูว่าเบลลิงแฮม กับไรซ์จะประสานงานกันได้ดีแค่ไหน
1
จุดอ่อน : อย่างแรกคือฟอร์ม อังกฤษไม่ชนะใครมา 6 เกมติดต่อกันแล้ว โดย 6 เกมในเนชั่นส์ลีก โดนอัดเละเทะ แพ้ฮังการีคาบ้าน 4-0 แพ้อิตาลีที่ไม่ได้มาบอลโลกด้วยซ้ำ 1-0 คำถามคือ มันเป็นแค่เกมกระชับมิตรเฉยๆ หรือว่าทีมอื่นๆ เขารู้ทางอังกฤษกันหมดแล้ว ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็เหนื่อยหนักแน่นอน
2
อย่างที่สองคือ บรรยากาศของสื่อมวลชนในอังกฤษ ที่บิ้วให้ทีมสิงโตคำถามเป็นแชมป์ โดยไม่ถ่อมตัว หลายสื่อมองข้ามช็อตแล้วว่าแชมป์กลุ่มแน่ นี่อาจส่งผลให้นักเตะขาดความระวัง และเล่นอย่างคึกคะนองเกินควร
3
และอย่างที่สามคือกองหลัง โดย 6 เกมหลังสุด เซาธ์เกต เปลี่ยนเซ็นเตอร์แบ็กทุกเกม ไม่เคยมีเกมไหนใช้ซ้ำเลย ลองคนนี้ ลองคนนั้น เราไม่รู้ว่าเขาหาคอมบิเนชั่นเจอหรือยัง แต่คนหนึ่งที่ลงตัวจริงทุกเกม นั่นคือแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งเป็นปัญหาอีก เพราะแม็กไกวร์แทบไม่ได้เล่นกับสโมสร แล้วจะให้มายึดตัวจริงทีมชาติ ความมั่นใจเขามีหรือ?
4
ถ้ากองหลังไม่ลงตัว โดนทะลวงได้ง่ายๆ ล่ะก็ ต่อให้แฮร์รี่ เคนยิงแทบตายอย่างไร ทีมก็ยากจะชนะอยู่ดี
-----------------------
[ เต็ง 6 - เยอรมนี ]
เยอรมนี เปลี่ยนโค้ชเป็นทัวร์นาเมนต์แรกในรอบ 14 ปี จากโยอาคิม เลิฟ มาสู่ฮันซี่ ฟลิค แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความสามารถ ฟลิคเป็นผู้รอบรู้ ตอนเยอรมันได้แชมป์โลกปี 2014 เขาก็เป็นผู้ช่วยเลิฟนี่แหละ แล้วพอไปคุมบาเยิร์น ก็พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปที่รอคอยได้ด้วย
1
เยอรมนี อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริง โทนี่ โครส ประกาศรีไทร์ทีมชาติไปแล้ว ขณะที่ผู้เล่นที่เรียกมาติดทีมชุดนี้ มีถึง 14 คน ทีเป็น World Cup Debut หรือเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรก ฮันซี่ ฟลิค กะจะสร้างทีมกันใหม่เลย
5
หลายคนบอกว่า เป้าหมายจริงๆ ของฟลิค คือยูโร 2024 ที่เยอรมันจะเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นในบอลโลกจึงต้องการให้เด็กๆ ได้เก็บประสบการณ์ก่อน ถ้าเข้ารอบลึกๆ ก็จะถือเป็นโบนัสไป
1
จุดแข็งของเยอรมัน คือแนวรุก 6 ตัวบน ที่มาจากบาเยิร์น มิวนิคทั้งหมด มุลเลอร์, ซาเน่, กนาบรี้, มูเซียล่า, โกเร็ตซ์ก้า, คิมมิช ถ้าคุณเล่นเข้าขากันที่บาเยิร์น ก็ไม่มีเหตุผลที่คุณจะไม่เข้าขาที่เยอรมนี
1
คีย์แมน : โจชัว คิมมิช ต้องรับบทบาทหนักแน่นอน ตำแหน่งอื่นเราอาจเห็นการโรเทชั่น แต่คิมมิชจะการันตีตัวจริง เขาคือหนึ่งในกองกลาง และแบ็กขวาที่เก่งที่สุดในโลก บางที่ฮันซี่ ฟลิค จับคิมมิชเล่นแบ็กขวาเพื่อแก้เกมก็ได้ อย่าลืมว่าตอนฟลิคคุมบาเยิร์นก็ใช้คิมมิชยืนแบ็กขวาตลอด
2
คิมมิชปัจจุบันอายุ 27 ปี อยู่ในช่วงพีกที่สุดในการเล่นฟุตบอล นี่จะเป็นปีที่เขาเป็นผู้นำอย่างแท้จริงในสนาม เยอรมันจะอยู่หรือไป ฟอร์มของคิมมิชจะมีส่วนสำคัญมาก
2
จุดอ่อน : กลุ่มนักเตะหนุ่มๆ ของเยอรมนี ไม่เคยมีประสบการณ์ในฟุตบอลโลกมาก่อนเลย ในสถานการณ์ที่กดดัน พวกเขาจะรับมือได้ดีแค่ไหน จริงๆ ฟลิคอยากจะเอาตัวเก๋าๆ ที่เขาเชื่อใจ อย่างมาร์โก รอยส์ และ ติโม แวร์เนอร์ ติดทีมมาด้วย แต่ก็บาดเจ็บไปด้วยกันทั้งคู่
2
ตอนเยอรมันได้แชมป์โลก พวกเขามีมิโรสลาฟ โคลเซ่ ยืนค้ำในแดนหน้า เป็นผู้ใหญ่ที่มีบุคลิกเยือกเย็น เยอรมนีตอนนี้ มีคาแรคเตอร์แบบนั้นหรือไม่ในทีม? นี่คือคำถามที่น่าสนใจ
และก็เช่นเดียวกับสเปน เยอรมนี อยู่ในกลุ่มที่ยากมากๆ แค่ผ่านรอบแรกก็เหนื่อยแล้ว นัดแรกพวกเขาเจอญี่ปุ่น อย่ามั่นใจว่าจะชนะในเมื่อ 4 ปีก่อนยังแพ้เกาหลีใต้
1
ต่อให้เยอรมนีเข้ารอบต่อไปก็หนักตลอดทาง แม้แต่สื่อเยอรมันเองก็ยังไม่มั่นใจว่าปีนี้จะไปได้ไกล และฟลิคต้องโชว์ฝีมืออย่างสุดชีวิตเพื่อทำให้โลกได้เห็น
-----------------------
[ เต็ง 7 - เนเธอร์แลนด์ส ]
เนเธอร์แลนด์ส สร้างผลงานที่ดี ในฟุตบอลโลก 2014 เมื่อจบอันดับ 3 พอจบทัวร์นาเมนต์ หลุยส์ ฟาน กัล ลงจากตำแหน่งไปรับงานโค้ชแมนฯ ยูไนเต็ด จากนั้นมาฮอลแลนด์ก็เปลี่ยนโค้ชหลายคน แต่ก็ไม่เวิร์ก (ตกรอบคัดเลือกยูโร 2016 , ตกรอบคัดเลือกบอลโลก 2018) ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องกลับมาใช้คนที่เข้าใจทีมมากที่สุด นั่นคือ ฟาน กัลนั่นเอง
3
เนเธอร์แลนด์ส ใช้แผน 4-3-3 มาตลอดรอบคัดเลือก แต่ในเนชั่นส์ลีก ฟาน กัลเปลี่ยนมาใช้ 3-4-1-2 และผลลัพธ์คือ 6 เกมในเนชั่นส์ลีก ชนะ 5 เสมอ 1 (ในนี้มีการอัดเบลเยี่ยม เหย้า-เยือนด้วย)
1
การใช้แผนนี้ จุดประสงค์สำคัญที่สุดคือ ช่วย เวอร์จิล ฟาน ไดค์ แทนที่จะเล่น ระบบคู่เซ็นเตอร์เหมือนที่ลิเวอร์พูล ซึ่งฟาน ไดค์จะเหนื่อยเกินไป เพราะเขาก็อายุเกินเลข 3 แล้ว พอเปลี่ยนมาใช้ระบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็ก มีคนประกบซ้าย-ขวา (ยูเรียน ทิมเบอร์, นาธาน อาเก้) ฟาน ไดค์เล่นง่ายขึ้น และเล่นดีขึ้นด้วย
3
ฮอลแลนด์ยุคนี้ มีตัวเวิลด์คลาสแค่คนเดียวคือ ฟาน ไดค์ ส่วนเฟรงกี้ เดอ ยอง ก็เล่นดีขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งอาจไปอยู่จุดนั้นได้ แต่ถ้าเทียบกับยุคสมัยก่อน ก็ต้องยอมรับว่า คาแรคเตอร์ของทีมชุดนี้ ยังไม่หรูหราขนาดนั้น
1
คีย์แมน : เฟรงกี้ เดอ ยอง คือคนนั้น เอาล่ะตอนนี้ ฮอลแลนด์มีกองหลังที่พอใช้ได้แล้ว แต่การจะเจาะคู่แข่งได้ การขึ้นเกมของกองกลางนั้นสำคัญมาก ฮอลแลนด์ชุดนี้ ฝากบอลทุกอย่างให้เดอ ยอง คิดและจินตนาการว่าจะทำอย่างไรต่อ
1
ฟาน กัล ชมเดอ ยองว่า "ทำให้ลูกจ่ายที่ควรจะธรรมดา กลายเป็นลูกจ่ายบอลสุดพิเศษได้เสมอ" เดอ ยอง เขาอาจจะไม่ได้แอสซิสต์ด้วยตัวเอง แต่เดอ ยองเป็นคนสร้างเพลย์ จนนำไปสู่การแอสซิสต์
1
จุดอ่อน : ทั้งทีมเนเธอร์แลนด์ตอนนี้ มีนักเตะแค่ 2 คน ที่เคยเล่นฟุตบอลโลก ประกอบด้วย ดาลีย์ บลินด์ และ สเตฟาน เดอ ฟราย อีก 24 คนที่เหลือ นี่คือฟุตบอลโลกครั้งแรก นี่คือประสบการณ์ใหม่ของพวกเขา ไม่แปลกถ้าจะมีการเล่นผิดพลาด หรือตื่นสนามเกิดขึ้น เวทีฟุตบอลโลกมันกดดันกว่าเนชันส์ลีก หลายเท่านัก
1
ศักยภาพของกองหน้า ก็เป็นคำถามเหมือนกัน ในทีมชุดนี้ ไม่มีกองหน้าระดับท็อปคลาสเลยแม้แต่คนเดียว บางคนเล่นอยู่ลีกเบลเยี่ยม (วินเซนต์ แยนเซ่น) บางคนเล่นอยู่ลีกตุรกี (เวาท์ เวกฮอร์ส) ขณะที่เมมฟิส เดปาย อาจจะดังสุด แต่ในฤดูกาลนี้เขาได้เล่นให้บาร์เซโลน่าไป 3 นัดเท่านั้น เพราะโดนเลวานดอฟสกี้แย่งตำแหน่ง
1
ฮอลแลนด์ไม่เคยขาดแคลนกองหน้าระดับโลก จากแวน บาสเท่น มาถึงเดนนิส เบิร์กแคมป์ และมาถึงโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ไม่มีผู้เล่นที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในพริบตา
1
-----------------------
2
[ เต็ง 8 : โปรตุเกส ]
โปรตุเกส ถูกยกย่องว่าเป็น Golden Generation เพราะถ้าวัดกันที่ 11 ตัวหลักเพียวๆ พวกเขาแข็งแกร่งมาก ชนิดที่สามารถเอาชนะได้ทุกทีม
2
กองหลังมีรูเบน ดิอาส แบ็กซ้าย-ขวา มีกานเซโล่, ดาโลต์ กองกลางมี รูเบน เนเวส, แบร์นาโด้ ซิลวา และ บรูโน่ เฟอร์นันเดส ส่วนกองหน้าก็แน่นอน กัปตันทีมคริสเตียโน่ โรนัลโด้, ชูเอา เฟลิกซ์ และ ราฟาเอล เลเอา นี่ถ้ามีดีโอโก้ โชต้าอีกคน ทีมจะมีอาวุธครบมือยิ่งกว่านี้
3
แม้ไลน์อัพจะดูดี แต่โปรตุเกส เข้ารอบฟุตบอลโลกมาอย่างทุลักทุเลมาก ต้องไปวัดกันถึงเพลย์ออฟ กว่าจะเข้ามาได้ ขณะที่ฟอร์มก่อนมาฟุตบอลโลกก็ไม่ค่อยดี แพ้ทั้งสวิตเซอร์แลนด์ และสเปน ในเนชั่นส์ลีก
1
สำหรับแผนการเล่น เฟร์นันโด ซานโตส จะสลับ 4-3-3 กับ 4-3-1-2 ซึ่งทั้ง 2 แผนนี้นักเตะส่วนใหญ่ก็จะคุ้นเคยดี ไม่ต้องมาปรับตัวอะไร
1
คีย์แมน : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แม้ว่าซานโตสจะให้สัมภาษณ์ว่า โรนัลโด้ไม่การันตีตัวจริง แต่นั่นเป็นการให้สัมภาษณ์ลดแรงกดดันมากกว่า ยังไงโรนัลโด้ก็การันตีตัวจริงอยู่แล้ว ต่อให้เกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดกับไนจีเรียเขาจะไม่ได้ลงก็เถอะ
2
นี่คือฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 ของโรนัลโด้ และคร้้งสุดท้ายของเขาด้วย ผลงานดีที่สุด คือจบอันดับ 4 เขาต้องการขยับไปอีก้าวให้ได้ ถ้าเขาอยากจะเป็น G.O.A.T. อย่างที่ตัวเองคิด คุณต้องคว้าแชมป์โลกให้ได้ ซึ่งถ้าทำได้ การดีเบทความเป็นที่สุดกับเมสซี่ ก็จะยังถกเถียงต่อไปไม่จบสิ้นแน่
1
จุดอ่อน : ก็คือโรนัลโด้เช่นกัน เราไม่รู้ว่าเขาจะรวมสมาธิได้ดีแค่ไหน ในแง่ว่าเขามีดราม่ามากมายนอกสนาม ทั้งบทสัมภาษณ์กับเพียร์ส และความสัมพันธ์กับสโมสร แล้วในซีซั่นนี้ โรนัลโด้ก็ลงเป็นตัวจริงน้อยมาก ไม่อยู่ในฟอร์มที่ดี ก่อนจะเล่นให้ทีมชาติ
3
เขาเป็นคีย์แมนก็จริง แต่ก็อาจเป็นจุดอ่อนได้ อยู่ที่เจ้าตัวแล้ว ว่าจะปิดฉากฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายแบบไหน
1
สถิติที่น่าสนใจของโรนัลโด้ คือเขาไม่เคยยิงในรอบน็อกเอาต์ของฟุตบอลโลกได้เลยแม้ลูกเดียว เขาต้องมาแล้ว ถ้าอยากจะปิดฉากอาชีพอย่างสง่างามที่สุด
4
นี่ล่ะครับ คือเต็ง 1 ถึง 8 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และทุกทีมก็มีโอกาส ที่จะไปถึงแชมป์โลกทั้งหมด การเล่นในทวีปที่เป็นกลางอย่างเอเชีย ทำให้ทั้งอเมริกาใต้ และ ยุโรป ไม่มีข้อได้เปรียบกันที่ชัดเจนขนาดนั้น
จริงๆ มีทีมอื่นอีกเช่นเบลเยี่ยม (เต็ง 9) รวมถึงรองแชมป์โลก โครเอเชีย ก็อาจสอดแทรกไปไกลๆ ได้เหมือนกัน จริงๆ นั้นคาดเดาอะไรไม่ได้เลย
1
ตื่นเต้นแล้วนะครับนี่ อยากรู้เหมือนกันว่าแต่ละทีมจะมีผลงานดีแค่ไหน
ส่วนตัวผมดีใจนะครับ ที่ฟุตบอลโลกมาแล้ว ผมรู้วาบรรยากาศรวมๆ ของปีนี้ ก็เงียบกว่าปีอื่น เพราะมันไม่ได้บิ้วกันมาเป็นเดือน แต่รับประกันได้เลยว่า ยังไงบอลโลกก็คือบอลโลก การันตีความสนุก และดราม่ามากมายที่จะเกิดขึ้นแน่นอนครับผม
ใครเชียร์ทีมไหน คิดว่าจะไปไกลถึงไหน มาแชร์กันทีนะครับผม
#FIFAWORLDCUP2022
โฆษณา