The Song of World Cup
The Cup of Life เพลงบอลโลกติดหูตลอดกาล
ถ้าพูดถึงเทศกาลบอลโลกแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเพลงประจำทัวร์นาเมนต์บอลโลกนั่นเอง ถ้าเป็นในอดีตนั้นช่วงบอลโลกก็จะเปิดเพลงพร้อมมิวสิควีดีโอกันทั่วบ้านทั่วเมืองออกทางทุกสถานีโทรทัศน์และวิทยุ เพื่อให้รู้กันว่านี่เข้าสู่ช่วงเทศกาลบอลโลกแล้ว แต่ปีนี้นี่เองที่ประเทศไทยกว่าจะได้รู้ว่าได้ถ่ายทอดบอลโลกก็ปาเข้าไปสามสี่วันก่อนเริ่มแข่งซะแล้ว แต่ตาม Youtube หรือ Social Media ต่างๆก็เปิดเพลง Hayya Hayya (Better Together) กันมาสักพักละ
ย้อนกลับไปในอดีตถ้าพูดถึงเพลงประกอบบอลโลกที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ติดหูมากที่สุด และ เรียกได้ว่าเปลี่ยนเพลงบอลโลกไปตลอดกาลก็ต้องยกให้กับเพลง The Cup of Life เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลโลก France 98 ของ Ricky Martin หรือในชื่อต้นฉบับก็คือ La Copa De La Vida ถ้าลองดูใน Google Trend หรือ Search Engine Tool ต่างๆเราจะพบว่าเพลงนี้ถูกค้นหามากจนพีคสุดๆทุกๆ4ปี ซึ่งเป็นวาระเดียวกับฟุตบอลโลกทุกๆครั้งนั่นเอง
ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะปัจจุบันเวลาพุดถึงเพลงบอลโลกกับคนที่อายุสามสิบปีขึ้นไปต้องรู้จักเพลงที่ขับร้องอย่างสนุกสนานโดยนักร้องชาวเปอร์โตริโก้อย่าง Ricky Martin
ด้วยทำนองเพลงที่สนุกสนานสไตล์ลาตินเหมาะกับบรรยากาศที่ครึกครื้นและ ท่อนฮุกติดหู ร้องตามง่ายอย่าง
“Here we Go Ale Ale Ale, Go Go Go Ale Ale Ale”
ท่าเต้นก็สุดง่าย ไปหาตำกันได้ตามยูทูปเลยครับ ปัจจุบันนี้เพลงนี้ยังถูกใช้ตามคลาสฟิตเนส Body Pump หรือ แม้กระทั่งคลาสจักรยานอยู่เลย
ประวัติส่วนตัวเราคงไม่ต้องพูดถึงมากแล้วสำหรับ Ricky Martin เพราะน่าจะเป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว และถ้าใครจำได้ในปีบอลโลก 1998 ก็เป็นปีเดียวกับที่มีทัวร์คอนเสิร์ตของริคกี้ที่ประเทศไทยนั่นเอง
ย้อนกลับไปก่อนปี 1998 เพลงประกอบบอลโลกนั้นมามีกันอย่างจริงจังครั้งแรกคือที่ Italia’90 และเพลงประกอบครั้งนั้นก็คือเพลง “To Be Number One” หรือ Un’estate italiana ที่เป็นเพลงสไตล์ป๊อปร๊อค ก็แอบเป็นปรากฎการณ์อยู่ระดับนึงและก็ยังมีพูดถึงปัจจุบันนี้
แต่กระแสเพลงบอลโลกก็ตกไปในช่วง USA’94 ที่เพลง Glory Land นั้นไม่ได้ติดหูเอาซะเลย
เชื่อได้เลยว่าถ้ามีใครถามว่าเพลงบอลโลกปี 1994 คือเพลงอะไร? จะต้องค้น Google มาตอบกันแน่ๆ ไม่ก็จะตอบว่าเพลง We Are The Champion ของวง Queen ที่ถูกหยิบมาเปิดตอนที่ Carlos Dunga กัปตันทีมชาติบราซิลชูถ้วยบอลโลกนั่นแหละ
จนกระทั่งสี่ปีต่อมาที่กลายเป็นปรากฏการ์ณ The Cup of Life Fever เพลงที่ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง แม้กระทั่งเด็ก ป.5 ป.6 ยังร้องได้ ใช่ครับตัวเราในสมัยนั้นนั่นเอง
มันทำให้หลายๆคนเริ่มจับทางได้ว่า ถ้าอยากทำเพลงบอลโลกออกมาให้ดีต้องเป็นเพลงสไตล์คึกครื้น จังหวะดนตรีสนุกสนาน มีท่อนฮุคท่อนจำ หรือ เป็นคำที่ร้องต่อได้ง่ายๆ หลังจากนั้นทุกสี่ปีทุกๆคนจะคาดหวังว่าเพลงบอลโลกจะเป็นเพลงแบบไหนกันนะ นั่นแหละถึงบอกว่าทำไมเพลงของ Ricky Martin มันเปลี่ยนเพลงประกอบบอลโลกไปตลอดกาล
แม้หลังจากจะมีเพลงบอลโลกทั้งถูกใจแฟนบอล ทั้ง Waka Waka หรือ We are one และ เพลงที่ไม่ติดหูออกมาอย่างบอลโลก 2002 และ 2006 แต่ยังไงทุกคนก็ยังจำเพลง The Cup of Life ประจำบอลโลก 1998 ได้ไม่มีวันลืม และถึงแม้จะลืมมันก็จะมีคนเปิดย้อนให้ฟังอีกทุกๆสี่ปีนั่นแหละ
The Cup of Life หรือ La Copa de la Vida เริ่มต้นมาจากการที่ทีมงานผู้จัดฟุตบอลโลก 1998 ที่ไปทาบทามศิลปินหนุ่มจากเปอร์โตริโก้ที่เพิ่งประสบความสำเร็จจากสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สามของตัวเอง ให้มาร้องเพลงประจำบอลโลก แม้ในช่วงแรกจะมีความประหม่าอยู่บ้างเพราะจะต้องทำเพลงออกมาในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย
แต่สุดท้ายเพลงนี้ก็ทำออกมาได้ดีแม้เป็นภาษาอังกฤษแต่สไตล์ดนตรีนั้นยังคงเดิม จิตวิญญาณความเป็นเพลงลาตินป๊อปยังเต็มเปี่ยมและเป็นการเปิดโลกให้ทุกๆคนไม่ใช่แค่แฟนบอลได้รู้จักเพลงสไตล์ลาตินไปด้วย ส่งผลให้เพลงอื่นๆของ Ricky Martin หลังจากนั้นดังสุดๆไปเลยด้วยไม่ว่าจะเป็นเพลง Livin’ la Vida Loca , She Bang รวมไปถึงการฟีเจอริ่งกับนักร้องสุดฮอตในเวลานั้นอย่าง Christina Aguilera ในเพลง Nobody Wants to Be Lonely
แล้วเพลงบอลโลกที่คุณชอบคือเพลงไหนกันบ้าง?
+ + + + + +
มาถึงเทศกาลนอนดึก เขียนลงโพสยาวๆ เปิดหัวก่อนบอลโลกด้วยเพลงประกอบบอลโลกเดิมๆนี่แหละ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
