23 พ.ย. 2022 เวลา 05:34 • การตลาด
การช่วยเหลือคนที่เพิ่งจะเคยเห็นหน้า โดยที่ไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนใดๆกลับมา แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นเรื่องที่สามารถช่วยให้ชีวิตคนได้อีกเป็นล้านคน
Source: aimeagles.com
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1892 ในช่วงที่เด็กหนุ่มวัย 18 ปีคนหนึ่ง ที่กำลังหาทางนำเงินมาจ่ายค่าเทอมให้กับ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่เขาเรียนอยู่ การที่เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ต้องดิ้นรนด้วยตนเองจะบากหน้าไปพึ่งใครก็ลำบาก
ในวันหนึ่งเขาก็เกิดความคิดในการหาเงินขึ้นมา เขาจึงร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งเพื่อทำการเปิดการแสดงคอนเสิร์ตในมหาวิทยาลัย โดยคาดหวังที่จะได้เงินก้อนหนึ่งมาใช้จ่ายในการเรียน
ทั้งคู่จึงได้ไปเชิญนักเปียโนชาวโปแลนด์ชื่อดัง อิคนาซี เจ ปาเดเรฟสกี้ (Ignacy Jan Paderewski) มาแสดงที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยปาเดเรฟสกี้คิดค่าตัวเป็นเงิน 2,000 ดอลลาร์
Credit: Saigon Weekly
แต่โชคร้ายที่คอนเสิร์ตครั้งนี้เก็บเงินได้เพียง 1,600 ดอลลาร์เท่านั้น หลังการแสดงจบทั้งคู่ได้มอบเงินทั้งหมดที่ได้ ให้กับปาเดเรฟสกี้ และเช็คล่วงหน้าอีก 400 ดอลลาร์ พร้อมกับสัญญาว่าจะเงินเข้าบัญชีให้ครบในระยะเวลาที่เร็วที่สุด
ทั้งคู่ได้ชี้แจงเหตุผลของการจัดงานครั้งนี้ที่ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ปาเดเรฟสกี้เมื่อได้ทราบเหตุผลแล้ว เขาจึงได้มอบเงินคืนให้ทั้งคู่ พร้อมทำการฉีกเช็คที่ระบุจำนวนเงิน 400 ดอลลาร์ทิ้ง แล้วบอกให้พวกเขาหักค่าใช้จ่ายในการจัดงานให้เรียบร้อยก่อน แล้วนำไปจ่ายค่าเทอมเหลือเท่าไหร่จึงให้นำเงินส่วนที่เหลือมาให้เขา
การกระทำครั้งนี้ของปาเดเรฟสกี้ ได้ทำให้เด็กหนุ่มทั้งคู่สามารถนำเงินไปจ่ายค่าเทอมให้มหาวิทยาลัยได้ในที่สุด
1
Credit: Stone Quarries and Beyond
หลังจากนั้นอีกไม่นาน “ปาเดเรฟสกี้” เดินทางกลับประเทศบ้านเกิดคือประเทศโปแลนด์ เขาก็ได้มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่โชคไม่ดีที่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มขึ้น โปแลนด์ถูกทำลายล้างจากสงคราม มีคนอดอยากมากกว่า 1.5 ล้านคนในประเทศของเขา และประเทศก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะนำไปซื้ออาหารเลี้ยงพวกเขา
ปาเดเรฟสกี้ไม่รู้ว่าจะหันไปขอความช่วยเหลือจากที่ไหน เขาจึงหันไปขอความช่วยเหลือจาก “องค์การอาหารและบรรเทาทุกข์แห่งสหรัฐอเมริกา”
Credit:  History Today
ในช่วงนั้นสหรัฐอเมริกามีประธานาธิบดีที่ชื่อว่าเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ซึ่งก็ได้ตกลงในการส่งความช่วยเหลือตามที่ปาเดเรฟสกี้ร้องขอมา โดยการส่งอาหารจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็วไปให้ชาวโปแลนด์ที่อดอยากอยู่ในขณะนั้น
ปาเดเรฟสกี้รู้สึกโล่งใจที่เขาสามารถนำพาประเทศรอดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ จากการช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ เขาจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปขอเข้าพบฮูเวอร์และขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัว
Credit: Radio Biafra
ในระหว่างที่ปาเดเรฟสกี้เริ่มพูกล่าวขอบคุณฮูเวอร์ด้วยความปลาบปลื้มอยู่นั้น ประธานาธิบดีฮูเวอร์รีบพูดแทรกแล้วก็พูดว่า “คุณไม่ควรขอบคุณผมเลยคุณปาเดเรฟสกี้ คุณอาจจำเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เมื่อหลายปีก่อนคุณได้ช่วยเด็กนักเรียนสองคนสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาได้และฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น”
นี่คือก็คือครั้งหนึ่งในชีวิตของปาเดเรฟสกี้ ที่ทำการช่วยเหลือคนที่เขาเองก็เพิ่งจะเคยเห็นหน้า โดยที่เขาก็ไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนใดๆกลับมา แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นเรื่องที่สามารถต่อยอดในการให้ชีวิตคนอีกเป็นล้านคน
ไม่มีสิ่งใดในธรรมชาติดำรงอยู่ด้วยตัวเองเพียงลำพัง แม่น้ำไม่ดื่มน้ำของตัวเอง ต้นไม้ไม่กินผลของมันเอง ดวงอาทิตย์ไม่ให้ความร้อนแก่ตัวมันเอง ดอกไม้ไม่ส่งกลิ่นหอมให้ตัวเอง การมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นเป็นกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ และในนั้นความลับของการมีชีวิตอยู่
ที่มา: CuteWallpaper.org
ทุกการกระทำมีผลตามมาเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ทำดีหรือไม่ดีกับใครไว้มากกว่า
“วันนี้คุณทำเรื่องอะไรดีๆกับใครไว้บ้างหรือยัง?”
โฆษณา