2 ธ.ค. 2022 เวลา 13:00 • หนังสือ
What makes you you ทำไมเป็นคนแบบนี้ แค่ชื่อหนังสือก็เท่ละค่ะ หนังสือเล่มนี้ว่าด้วย “ความเป็นมนุษย์” ของเรา ว่าอะไรทำไมพวกเราเป็นแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
คุณท้อฟฟี่ แบรดชอว์ได้รวบรวมประเด็นสุดพีคของ “คนยุคนี้” เอาไว้อย่างครบถ้วนทีเดียวค่ะ ทั้งความ Perfectionist อยากมีความสุข หาสมดุล FOMO และอื่นๆอีกมากมาย เราอ่านเล่มนี้แล้วมีบทที่เราชอบและจดออกมาเป็นประเด็นที่น่าสนใจเกินสิบบทเลยค่ะ!
เนื้อหาในเล่มนี้เป็นเหมือนเรื่องสั้นๆ พูดถึงความเป็นมนุษย์โดยอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัย วิธีการเขียนสบายๆ ตลกๆ ทำให้อ่านง่ายมาก วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกขอเลือกประเด็นที่เราคิดว่าติดท้อปปัญหาของคนยุคนี้มาแชร์กันค่ะ
(1) Nice Guy Syndrome
คนที่ผูกความสุขตัวเองไว้กับความสุขของผู้อื่น จนลืมไปว่าตัวเองก็มีความต้องการเหมือนกันนะ บางครั้งอาการนี้จะพ่วงด้วยความไม่ชอบความขัดแย้ง ฉันลำบากก็ได้ อย่าเกลียดฉันเลยนะ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติค่ะ! เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การต้องการการยอมรับมันอยู่ในยีนส์ของเราเลยค่ะ แต่ปัญหาในเรื่องนี้คือ “สมดุล” มันเสีย มันกลายเป็นว่า Nice Guy เป็น People pleaser ไม่มีจุดยืนของตัวเอง
แล้วทำยังไงได้บ้าง สำหรับตัว Nice Guy เอง ไม่ต้องกลัวค่ะ คนที่เค้าสำคัญกับเราจริงๆ พอเราบอกความต้องการของเราแล้ว พวกเขาจะอยู่อยู่ดี (และอาจจะอยู่แบบมีคุณภาพมากขึ้นด้วย) หรือถ้าทำใจบอกไม่ไหวลองจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มคนดูก็ได้ว่า ใครกันแน่คือคนที่สำคัญในชีวิตเรา และดูแลแค่คนกลุ่มนั้นก็พอ
ส่วนคนที่มีคนรอบข้างเป็น Nice Guy ถึงแม้ว่าเขาจะยินดีฟังคุณพูดเป็นชั่วโมงๆ และอาจจะถามคุณก่อนว่า “เป็นยังไงบ้าง” อย่าลืมให้ Nice Guy ได้พูดบ้าง ถาม Nice Guy บ้างว่า “เออ แล้วนี่เป็นยังไงบ้างอ่ะ” คำถามเล็กๆก็สามารถสร้างความหมายให้ “คนแสนดี” ได้แล้วค่ะ
(2) Dehumanization มนุษย์ที่ทำลายความเป็นมนุษย์เพื่อให้ตัวเองยังเป็นมนุษย์อยู่
1
ชื่อหัวข้อดุเดือดมากเลยค่ะ แต่เป็นเรื่องที่พบได้ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปจนถึงการเรียกคนที่เราไม่รู้จักในโซเชียลว่าเป็น หมา ไปจนถึงองค์กรที่มีวัฒนธรรมแบบ “นายสั่งมา ขัดไม่ได้” ล้วนคือการ “ลดค่าความเป็นมนุษย์” กันทั้งนั้น คงไม่ต้องบอกว่ามนุษย์เรามีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ชอบคนที่คิดเหมือนตัวเองกันอยู่แล้ว แต่เรื่องที่น่าเศร้าคือสำหรับ “กลุ่มที่แตกต่าง” บางกลุ่มคนกลับไม่ได้มองเป็นมนุษย์เหมือนตนเองเลย
แท้จริงแล้วมนุษย์เราเหมือนกันมากกว่าที่คิดนะคะ :) คนแอฟริกากับคนเอเชียเรามีโครโมโซมต่างกันน้อยมากๆ ทั้งๆที่เราดูต่างกัน ผู้เขียนหนังสือได้ยกคำพูดของเมอรีล สตรีปนักแสดงที่ได้ออสการ์และรางวัลจนเราเดาว่าน่าจะต้องใช้ทั้งห้องในการเก็บถ้วยรางวัล เคยพูดว่า “คนคิดว่านักแสดงต้องพยายามไปเป็นคนอื่น แต่ที่จริงแล้วมันคือการมองให้เห็นตัวเราที่อยู่ในตัวคนอื่นตังหาก” เพราะเราเป็นมนุษย์ที่มีความสุข ทุกข์ หิว เบื่อ โกรธเหมือนๆกัน มันมีตัวเราในตัวคนอื่นเสมอ
คนมักชอบบอกว่า “Put yourself in someone else’s shoes” หรือเอาใจเราไปใส่ใจเขา แต่คุณท้อฟฟี่ยกประโยคนึงที่เราชอบมากกว่าคือ “Walk million in someone else’s shoes” หรือไม่ใช่แค่ไปใส่รองเท้าเขา ลองเดินในรองเท้าเขาไปซักล้านก้าว เราจะได้เข้าใจว่าเขามาจากจุดไหน และบางทีเราอาจจะไม่ได้แตกต่างกันเลยเพราะเราล้วนเป็น “มนุษย์” เหมือนกันค่ะ
(3) Spotlight Effect ทุกคนบนโลกต้องเห็นสิวฉันแน่เลย
ตอบคำถามในหัวข้อ ไม่ค่ะ ไม่มีใครในโลกเห็นสิวเรา เราแค่อยู่ใน Spotlight Effect ที่คิดว่า Spotlight ส่องมาที่เราและเราเป็นคนสำคัญ ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
จากหนังสือ How to win friends and influence people ทำงานวิจัยและพบว่า “ความคิดของเราเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง 95%!!” ความหมายคือทุกคนคิดแต่เรื่องของตัวเอง ไม่มีใครสนใจคนอื่นขนาดนั้นเลย เช่นเดียวกันก็คือคนที่สนใจสิวเม็ดนั้นบนหน้าเราก็คือเราคนเดียวนี่แหละ
(4) ความสุขไม่ใช่คำตอบเดียว
อันนี้คือบทที่เราชอบมากที่สุดค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าคนยุคนี้อยากมีความสุขซะจน “รู้สึกผิดที่ไม่มีความสุข” ไปเสียแล้ว เป็นทุกข์บนความอยากสุข ซึ่งสิ่งที่สมดุลกว่าความสุขคือ “Well-being (สุขภาวะ)”
Well-being ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบคือ
- Resilience ความสามารถในการล้มแล้วลุก
- Outlook วิสัยทัศน์ ความสามารถที่จะมองโลกอคติน้อย
- Attention อยู่กับปัจจุบัน
- Generosity ความใจดี
ทั้ง 4 ปัจจัยนี้อาจจะไม่ได้พาเราไปสู่ความสุขตลอดเวลา แต่มันอนุญาตให้เรามีสุขภาวะได้ ซึ่งบางทีอาจจะกลมกล่อมกว่าความสุขก็ได้นะคะ 🙂
ซื้อหนังสือเล่มนี้ได้เลยที่ https://shope.ee/10TMJcinq6 📘
ปล.​ ประเด็นดีๆในเล่มนี้มีเยอะมาก เราจะเอามาเล่าแยกให้ฟังในโพสอื่นๆนะคะ แต่แนะนำให้ทุกคนหาซื้ออ่านจะเป็นประโยชน์สูงสุดค่ะ เพราะแต่ละบทก็พูดถึงคนที่แตกต่างกันไปค่า
ตอนนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกมีถึง 5 ช่องทางแล้วนะคะ 🥳
ถ้าใครชอบคอนเทนต์สั้นๆ ดึงประเด็นที่น่าสนใจมาเล่าแบบรวบรัดสามารถตามได้ที่ Twitter / Tiktok มีคอนเทนต์ใหม่ทุกวันเลยค่ะ
สำหรับสาย Podcast อยากฟังหนังสือแบบเน้นๆ เปิดทิ้งไว้ตอนทำงานชิวๆสามารถไปตามได้ที่ Youtube เลยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดค่า :D
โฆษณา