23 พ.ย. 2022 เวลา 17:03 • หนังสือ
แฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับหัวขบถ [โหมดเอาจริง]
Ch10: เซเวอรัส สเนป
[3]กลับสู่แสงสว่าง
ก่อนที่เราจะพูดถึงสเนปอีกครั้ง ผมอยากทบทวนเรื่องซิเรียสซักนิด JK Rowling ยืนยันว่าซิเรียสเป็นคนซื่อสัตย์มาก ซึ่งน่าสนใจ เพราะเท่าที่จำได้ เล่ม 5 ซิเรียสไม่คิดจะแก้ตัวให้เจมส์มากไปกว่า "ยังเด็กและอวดดี" ด้วยซ้ำ ซิเรียสที่แม้จะบ้าๆ บอๆ และเต็มไปด้วยอคติแต่ใจสูงพอที่จะแก้ต่างให้สเนปเมื่อรอนกล่าวหาสเนปผิดๆ ในเล่ม4 เขายืนยันว่าไม่เคยมีใครพบว่าสเนปเป็นผู้เสพความตาย ทั้งที่ซิเรียสรู้ลึกตื้นหนาบางเกี่ยวกับผู้เสพความตายมากและไม่มีเหตุผลที่จะปกป้องสเนปด้วยซ้ำ
ผมจึงเคารพซิเรียสเหนือลูปินเพราะแม้เขาจะเกลียดสเนปแต่เขาไม่ใส่ความสเนปเลย(ตรงกันข้าม ลูปินรู้เต็มอกว่าพวกตนรังแกสเนปฝ่ายเดียวแต่กลับบิดเบือนความจริงเพื่อให้ดูเหมือนสเนปเป็นคู่แข่งที่เท่าเทียมของเจมส์) และคำพูดของซิเรียสให้เบาะแสที่น่าสนใจแก่เรา อย่างแรกคือสเนปมีความสัมพันธ์กับลูเซียสดีมากจนซิเรียสเรียกสเนปว่า lapdog ซึ่งอุปมาอุปมัยถึงเด็กรับใช้และมีนัยยะเกี่ยวเรื่องเพศ (อันนี้เดี๋ยวพูดถึงในตอนหน้า)
อย่างที่สองคือ 'Baby Death Eater' ของเราขาดความกระตือรือล้นในงานของผู้เสพความตายจนไม่เคยมีใครเห็นเขาในกิจกรรมเหล่านั้นเลย ผมเลยมีภาพในหัวประมาณนี้ครับ ผู้เสพความตายกำลังเฮโลกันจะไปชุมนุมที่โน่น ปิดถนนตรงนั้น เผาตรงนี้ ฯลฯ สเนปก็จะนั่งซึมอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งพร้อมกับความคิดที่ล่องลอย
"ประชุมอะไรกันนักหนา... ไม่เห็นคุยเรื่องศาสตร์มืดเลย... ไม่อยากเป็นผู้เสพความตายแล้วแบบนี้.. หิว แวะกินแมคก่อนเข้าบ้านละกัน(แมคเมืองนอกถูกมาก).. เอ๊ะ ยุงกัด(ตบ)... กลับดึกพ่อจะตีมั้ยนะ?"
เอ่อ... ไม่ได้หมายความว่าน้องเค้าจะหน่อมแน้มขนาดนั้นนะ แค่ยกมาพอให้เห็นภาพว่าเขาไม่ได้ทำเรื่องโหดร้ายมากมายจนคนต้องมานั่งเถียงกันว่าเขาสมควรได้รับการอภัยบาปรึไม่ แม้โทเบียสจะอลุ่มอล่วย--ยอมให้ลูกชายไปฮอกวอร์ต(แล้วฟาดทีหลัง) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้ลูกแอนตี้ศาสนาได้ สเนปต้องได้รับการปลูกฝังว่าการฆ่าคนเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ในหนังสือสเนปก็ชัดเจนไม่เคยฆ่าใครก่อนดัมเบิลดอร์เพราะห่วงจิตวิญญาณของเขาเอง
เด็กหนุ่มสเนปจึงเหมือนไม้หลักปักขี้เลนที่เข้าประชุมผู้เสพความตายเพียงเพื่อจะไปนั่งอุ่นเก้าอี้ เราจึงสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมในหนังสือก่อนที่ความจริงจะเปิดเผย ทั้งฝ่ายภาคีและฝ่ายผู้เสพความตายล้วนไม่ไว้ใจสเนป--มองว่าเขาเป็นแค่คนขี้ขลาดปากดีที่เข้าทั้งสองฝั่งแล้วสอพลอหัวหน้ากลุ่มเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ เพราะในสงครามครั้งแรกเขาดูจะเป็นแค่เด็กขี้ขลาด ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
แต่โวลเดอร์มอร์เก่งในการใช้คนให้เหมาะวัตถุประสงค์ของเขา เขาไม่ได้ต้องการความสามารถของสเนปในการปรุงยาหรือศาสตร์มืดเพราะเขาชำนาญทั้งสองสิ่ง แต่ตามที่ใน "In defence of young James Potter" ของ pottermore ระบุสเนปเป็นแค่ "wraith" หรือเจตภูติที่ลอยผ่านโดยไม่มีอันตรายกับใคร--อย่างมากแค่แขยงนิดหน่อย จอมมารก็เลยปล่อยให้หมอลอยไปเรื่อยๆ เพื่อหาข่าวครับ
มีใครแอบไม่พอใจว่าผมดูถูกสเนปมั้ย?
ถ้าใช่ได้โปรดคิด... แม้ว่าจะมีหลายเวปหลายเพจจริงๆ ที่เชื่อว่าสเนปเก่งเกินกว่าจะถูกเจมส์รังแกฝ่ายเดียว และแอดมินเหล่านั้นก็อ้างความเชี่ยวชาญของสเนปว่าคือหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสเนปจะต้องเก่งกาจ แต่ขอโทษครับ.. คนที่เชี่ยวชาญเรื่องปืนอันดับหนึ่งของโลกจำเป็นต้องเป็นมือสไนเปอร์อันดับหนึ่งด้วยมั้ย? การที่สเนปเชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์จึงไม่ได้แปลว่าเขาต้องเป็นยอดนักดวล
ผมไม่รู้ว่าใครเป็นต้นทางของแนวคิดที่ว่าสเนปเป็นพ่อมดที่ทรงพลังระดับแถวหน้า แต่ JK Rowling ทำให้ชัดเจนว่าสเนปมีแนวโน้มจะไม่ใช่นักสู้ที่เก่ง ฉากริมทะเลสาบในSWM สเนปก็ไม่มีอะไรนอกจากความกาก เมื่อถูกโจมตี-- แม้จะมีการตอบสนองที่รวดเร็วเพราะนั่นไม่ใช่ครั้งแรกเขาจึงระวังตัวเต็มที่ตลอดเวลา แต่กระนั้นเขาก็ถูกเล่นงานง่ายๆ โดยที่เจมส์ไม่ต้องมีตัวช่วย และขณะที่ถูกรังแก--ปฏิกิริยาของเหล่าเหี้ยมุงคือหัวเราะเยาะโดยไม่ได้หวาดกลัวกับผลที่อาจเกิดขึ้น
คิดเกี่ยวกับมันครับ... ถ้าสเนปเป็นอันธพาลที่เก่งกาจที่จะไปอยู่แถวหน้าของโลกเวทมนตร์และเป็นที่หมายปองของจอมมาร ทำไมพวกเหี้ยมุงจึงไม่กลัวที่จะหัวเราะเยาะเขาอย่างเปิดเผย? ไม่กลัวที่จะโดนล้างแค้นโดยเขาหรือสลิธีรินคนอื่นภายหลังเหรอ?
ในหนังสือ--สเนปตอนเป็นผู้ใหญ่โดนตบคว่ำไม่รู้กี่รอบทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพพร้อมรบ เล่ม 3 โดนเป่าสลบง่ายๆ โดยแก๊งค์สามช่า ถ้าจะยกกรณีที่เขาต่อสู้กับแฮร์รี่ได้อย่างยอดเยี่ยมปลายเล่ม 6 นั่นคือแฮร์รี่พึ่งผ่านศึกหนักทั้งสติแตกและเหนื่อยอ่อน เพราะถ้าเอาตอนเต็มร้อยและพร้อมทั้งคู่--สเนปโดนแฮร์รี่ตบหงายอย่างง่ายดายตั้งแต่คาบแรกของDADA
ลิลี่ซะอีกที่พอชักไม้กายสิทธิ์ออกมาเจมส์ก็ถึงกับเครียดเพราะนี่คือของจริง เป็นลูกมักเกิ้ลแท้ๆ แต่จอมมารกลับอยากได้ อันนี้ก็ต้องพูดกันตรงๆ อีกคน เนื่องจากมีผู้อ่านท้วงเข้ามาว่าลิลี่ไม่ได้ถูกปูมาให้เป็นหญิงแกร่ง ซึ่งผมงงอีกว่าเวปไหนเพจไหนมันเอาข้อมูลมั่วๆ แบบนี้มาเผยแพร่อีก ลิลี่ถูกปูมาเป็นหญิงแกร่งชัดเจนมาก จอมมารปล่อยให้เธอรอดไปได้ถึง 3 ครั้งเพราะต้องการเอาเป็นพวก เล่มแรกก็ให้เบาะแสผ่านแฮกริดว่าชีเป็นนักรบแถวหน้า ทั้งดัมเบิลดอร์และสลักฮอร์นต่างก็ยืนยันว่าลิลี่เก่งกาจและกล้าหาญ
JK Rowling ยืนยันว่าโวลเดอร์มอร์ต้องการลิลี่ในฐานะผู้เสพความตาย
ฉากริมทะเลสาบใน SWM และใน Prince's tale ลิลี่ไม่ใช่แค่เก่งกาจและกล้าหาญ เธอใจหินด้วย แต่มันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นที่ผมจะบอกคือสเนปไม่ใช่พ่อมดที่เก่งกาจในวัยเด็ก เขาอาจจะเก่งมากตามที่หลายท่านเชื่อ--แต่นั่นคือหลังจากสิบปีต่อมา กระนั้นก็ไม่น่าจะมีอันดับเหนือเบลลาทริกซ์ หรือมักกอนนากัลแน่นอน แล้วจำได้มั้ยว่าเล่ม 4 เขาค่อนข้างกลัวมูดดี้ด้วย
เอาจริงๆ นะ สเนปเชี่ยวชาญเรื่องการหนี ถ้าใครจำฉากหนีตายที่น่าตื่นตาตื่นใจในเล่ม7 ได้
เนื่องจากการเทรนมหาโหดของ Marauders ถ้าไม่หนีเก่งจริงไม่น่าอยู่รอดจนเรียนจบ ส่วนหนึ่งคงต้องขอบคุณความออทิสติกอย่างที่เคยบอกครับ โรคนี้ทำร้ายเขาหนักมากพอๆ กับปกป้องเขา อ่านถึงตอนนี้ทุกท่านทราบแล้วว่าสเนปไม่ใช่พ่อมดผู้ทรงพลังอำนาจ แต่ "เชี่ยวชาญการป้องกันตัวและหลบหนี" ในมุมมองกลาง-ไม่ใช่ที่แฮร์รี่บอกเรา สเนปทั้งบอบบางและดูง่ายต่อการขมขู่ ผู้คนไม่เห็นว่าเขาเป็นภัยคุกคามได้ เขาจึงเหมาะที่จะเดินไปรอบๆ เพื่อหาข่าว
แล้วหมอก็ได้ข่าวใหญ่มาเลยทีนี้!
JK Rowling อธิบายว่าแฮร์รี่เริ่มซ่อนตัวตั้งแต่แรกคลอด งานหนังสือที่เอดิเบอระ ปี 2004
จากข้อมูลที่ผมยกมาจะเห็นได้ว่าพวกพอตเตอร์ซ่อนตัวมานานแล้ว ขนาดแฮร์รี่รับศีลจุ่มก็ยังทำแบบลับๆ ดังนั้นตอนที่สเนปได้ยินคำพยากรณ์ครั้งแรกน่าราวๆ ปี 1979-80 และตามข้อมูลที่เราได้รับจากดัมเบิลดอร์ในหนังสือคือ "ไม่ได้คาดหมายว่าจะได้ยินสิ่งที่ควรค่าแก่การดักฟัง" ซึ่งหมายถึงสเนปไม่ได้ตั้งใจจะฟังเพราะหาข่าวด้วยซ้ำ JK Rowling ใส่รหัสลับทะลึ่งๆ ที่เข้าใจได้ในหมู่วัยรุ่นยุคเก่าซึ่งสื่อลามกไม่สามารถเข้าถึงง่ายๆ แถมไม่ได้พึ่งทำครั้งแรกแต่หลายครั้งจนบางทีก็แอบคิดนะว่า "วรรณกรรมเยาวชนแน่เหรอ?"
หนุ่มน้อยสเนปวัย 19-20 (แทบจะไม่เป็นผู้ใหญ่เลย) เดินดุ่ยๆ ขึ้นบันไดไปหน้าห้องตอนที่ป้าแมลงปอร้องขึ้นมา(เราน่าจะพอเดาได้)ก่อนให้คำพยากรณ์แบบ "โอ๊ววว! อ๊าาา! อู๊ววว!" กลายเป็นคำถามระดับโลกขึ้นมาอีกว่าขณะที่สงครามขยายตัว ทั้งสองฝ่ายรวบรวมข่าวสารให้มากที่สุดเพื่อโอกาสในชัยชนะ ทำไมอีสองลดอร์ไม่เห็นความสำคัญของการร่ายคาถาป้องกันการรบกวนวะ? เพราะถ้าผมอยู่ห้องข้างๆ นี่ก็คงรีบแนบหูกับผนังเหมือนกัน!!
ไม่ใช่ว่า JK Rowling จะตั้งใจบอกเราว่าสเนปจะแอบฟังเพราะคิดว่าปู่สองดอร์กับป้าแมลงปอจะผลิตลูกกันนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเธอคงต้องการสื่อว่าอาเบอร์ฟอร์ธได้ยินเสียงโหยหวนแปลกๆ แล้วเห็นเด็กคนหนึ่งขึ้นบันไดไป พอตามขึ้นไปก็เห็นเด็กที่ว่าแนบหูที่รูกุญแจ เป็นใครก็คงคิดแหละว่าแค่เด็กหื่น(อะไรแข็งขืนขึ้นมาด้วยรึเปล่าลูก ขดเป็นงูเชียว) สงสัยเป็นนักเรียนเพราะตัวเล็กเหลือเกิน นั่นจึงอธิบายว่าทำไมเขาแค่โยนสเนปออกจากร้านแทนที่จะเรียกมือปราบมารโดยสันนิฐานว่าเป็นผู้เสพความตายซึ่งสมเหตุสมผลกว่ามาก
ระยะยาว เมื่อสงครามเริ่มรุนแรงขึ้น ปุ๊ปปั๊บตุ้ม! คนนั้นตาย! ตรงนี้ตุ้มอีก! อ้าว.. ตายอีกแล้ว! สเนปซึ่งเป็นเด็กหนุ่มที่มีบุคลิกภาพแบบ vulnerable & insecure จะเริ่มกลัวเป็นพิเศษ จนเมื่อจอมมารประกาศว่าจะฆ่าพวกพอตเตอร์ยกครัว สเนปด้วยความรักลิลี่ก็รีบคุกเข่าอ้อนวอนขอให้ไว้ชีวิตลิลี่ จากนั้นก็ถ่อไปหาดัมเบิลดอร์เพื่อขอให้ดัมเบิลดอร์ปกป้องเธอ
แต่เดี๋ยวนะ! ทำไมดูแปลกๆ สเนปไม่ไว้วางใจคนที่พูดจาน่าเชื่อถืออย่างโวลเดอร์มอร์แต่กลับไปหาดัมเบิลดอร์ที่อยุติธรรมกับตัวเองมาตอดเหรอ?? นี่ดูไม่มีเหตุผลเลย!
ก่อนอื่น--พฤติกรรมของสเนปในหนังสือ--เห็นได้ชัดว่ากลัวมาจนสติแตก ทำให้ผมนึกถึงเดรโกในฉากที่ศาสตราจารย์เบอร์เบจถูกฆ่าและกลายเป็นอาหารนากินี เป็นไปได้มั้ยที่สเนปจะพึ่งพบกับเหตุการณ์ที่น่ากลัว จอมมารทรมานและฆ่าคนในแบบที่เขารับไม่ได้รึเปล่า ุถ้าใช่มันเป็นพ่อแม่ของเขารึไม่? หรือคุณยายมักเกิ้ลข้างบ้าน? มักเกิ้ลเจ้าของร้านที่ให้ขนมเขาบ่อยๆ ตอนเป็นเด็กรึเปล่า?
หรือคิดให้ลึกอีกนิด--เป็นคนใกล้ชิดของผู้เสพความตายคนอื่นที่ต้องถูกฆ่าหรือทรมานเพื่อลงโทษสมาชิกคนนั้น!?
แล้วทีนี้ใส่ตัวเองลงไปในเรื่องราว--ถ้าเราจะเข้าร่วมกลุ่มผู้เสพความตายเราย่อมต้องคาดหวังว่าคนที่เราห่วงใยจะต้องรอดใช่มั้ยครับ? เช่นกันสำหรับสเนปที่ไม่เคยมีความปลอดภัยใดๆ ในชีวิตเลยนี่ควรเป็นสัญญาที่โวลเดอร์มอร์จะมอบให้เขาได้ แต่! ถ้าจอมมารทำร้ายคนที่ผู้ติดตามของเขาห่วงใยเพียงเพราะเห็นว่าไร้ค่า--ก็แค่มักเกิ้ล--ก็แค่ลูกมักเกิ้ล สเนปจะเหลืออะไรให้ไว้วางใจ!
JK Rowling กล่าวว่าสเนปต้องการลิลี่แต่เขาก็ต้องการมัลซิเบอร์ด้วย ซึ่งแปลว่า ณ เวลานั้นเขามีเพื่อนคนอื่นที่รักไม่น้อยไปกว่าลิลี่ แต่ลิลี่คือคนที่กำลังจะตกหน้าผา ดังนั้นสเนปตัดสินใจช่วยลิลี่ก่อนเพราะเขากำลังช๊อค
ในเล่ม7: Prince's tale กล่าวถึงสเนปที่วิ่งไปหาดัมเบิลดอร์พร้อมกับผมที่กระเซิงไปรอบๆ ท่าทางหวาดกลัวและเหมือนจะเสียสติ--แทนที่จะแค่อยู่เงียบๆ แล้วแอบส่งจดหมายเตือนดัมเบิลดอร์, เจมส์ และ ลิลี่โดยไม่ต้องระบุตัวผู้ส่ง แล้วหลังจากนั้นการเจรจาก็เริ่มขึ้น
"If she means so much to you, surely Lord Voldemort will spare her? Could you not ask for mercy for the mother, in exchange for the son?"
"I have — I have asked him —"
"You disgust me, You do not care, then, about the deaths of her husband and child? They can die, as long as you have what you want?"
"Hide them all, then. Keep her—them—safe. Please."
"And what will you give me in return, Severus?"
"In — in return? Anything."
ในบทสนทนานี้จะเห็นของทุเรศหลายอย่าง เช่น "ทำไมเธอไม่ขอความเมตตาสำหรับแม่แลกกับชีวิตลูก?" เป็นคำถามที่ไร้สาระมากและทำให้งงว่าทำไมคนอ่านหลงประเด็นจนหาสเนปว่า "ขายชีวิตแฮร์รี่เพื่อแลกกับชีวิตลิลี่" จอมมารจะฆ่าทั้งครอบครัวนะเว้ย! ถ้าเราจะกิน "สลัด, พิซซ่า, ไก่ทอด" แล้วมีคนขอว่าให้เรากินแต่สลัดแลกกับการที่จะไม่กินไก่ทอด มันได้หรอ? แล้วนี้มันเรียกว่า "ขายสลัดเพื่อแลกกับไก่ทอด" มั้ย? เมื่อทั้งสลัดและไก่ทอดมันของเรา
*ถ้าเขาเอาสลัดมาขอแลกกับไก่ทอดก็ว่าไปอย่าง(แต่ถ้าเป็นกู กูไม่ให้)
การจะบอกว่าสเนปขายชีวิตแฮร์รี่เพื่อแลกกับลิลี่เป็นตรรกะวิบัติจริงๆ เพราะโวลเดอร์มอร์ไม่ได้จะฆ่าแต่ลิลี่และสเนปขอให้ไว้ชีวิตลิลี่โดยแนะให้หันไปฆ่าแฮร์รี่แทน
ข้อเท็จจริงอีกข้อคือสเนปไม่มีสิทธิขออะไร และการจะขอชีวิตลิลี่ก็ต้องการมากกว่าแค่ความกล้า เขาอาจถูกทรมานกรือถูกฆ่าได้ และเด็กที่เปราะบางอย่างสเนปกลับถูกผลักไปถึงจุดนั้นทั้งๆ ที่เธอเป็นเหมือนอะโคไนท์ เพราะรากฐานครอบครัวที่เคร่งศาสนาที่ปลูกฝังให้เขายึดมั่นในความรักและตระหนักถึงคุณค่าของจิตวิญญาณ ความละอายใจเกรงกลัวบาป เมื่อเขารู้ว่าคนที่เขารักจะตายเพราะสิ่งที่เขาทำ--นี่คือเรื่องใหญ่มาก--เขาต้องแก้ไข
อีกข้อครับ ทุกท่านคงเคยได้ยินคำคมที่ว่า "เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย" ซึ่งฉากนี้สเนปได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นควายขนานแท้เพราะใครจะทนให้คนอื่นเขาหลอกใช้และทำร้ายได้ขนาดนั้น จากไดอะล็อคสุดส้นตีนนี้ สเนปไม่ใช่แค่ควายน้อยแสนโรแมนติกที่วางเธอไว้บนแท่น(โอม ชาบู ชาบู เธอ) แต่จิตใจแกแม่งบริสุทธิ์ดุจจุติมาจากพรหมโลก
ท่านผู้อ่านหลับตาแล้วลองคิดตามครับ ท่านถูกคนกลุ่มหนึ่งรังแกอย่างโหดร้ายตั้งแต่ ม.1-6 ถูกล่วงละเมิดทางเพศ-จับโชว์อวัยวะแล้วทุกคนก็รุมหัวเราะ.. เพื่อนสนิทของก็ปล่อยให้ท่านเกือบจมน้ำตายเพราะมัวจีบอันธพาลที่รังแกก่อนจะเลิกคบกับท่านเพราะท่านบังอาจด่าเธอที่ทำให้ท่านเกือบขิต จากนั้นเธอก็ไปแต่งานกับอันธพาลที่รังแกท่านครับ
มาบัดนี้อดีตครูที่เข้าข้างอันธพาลตลอดเวลาเรียกร้องให้ท่านเสียสละอะไรก็ได้แม้แต่ชีวิตแลกกับการที่เขาจะปกป้องนักเรียนคนโปรดที่ปกติก็ปกป้องอยู่แล้ว! จะบ้าเหรอ!? คนๆ หนึ่งจะต้องโง่และแสนดีขนาดไหนที่จะยอมเสียสละทุกอย่างแม้แต่ชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัวของคนที่ทำลายชีวิตเราทั้งชีวิต!? ถ้าใครยืนกรานว่าสเนปไม่ใช่คนดีผมก็เคารพความเห็นเหล่านั้นนะ แต่ผมขอเห็นต่างว่ะ เขาอาจจะไม่ใช่คนใจดีแบบลิลี่-แฮร์รี่ ไม่ใช่คนน่ารักแบบลูปิน-ลูน่า แต่เขาก็เป็นคนดีในระดับเกินมนุษย์แล้วเช่นกัน
ผมไม่รู้ว่าเขาเริ่มเป็นสายลับเมื่อไหร่ ความเชื่อที่แพร่หลายที่สุดคือไม่กี่วันก่อนพวกพอตเตอร์จะตายเพราะมันคือช่วงเวลาที่เหมาะสมหากจะซ่อนตัวอย่างเร่งด่วน--และทุกคนคิดว่าผู้รักษาความลับคือซิเรียสแต่จริงๆ กลับเป็นปีเตอร์ เนื่องจากตรงนี้จะทำลายพล็อตโฮลด์ที่ว่าซิเรียสถูกสงสัยอย่างไม่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ไม่สอดคล้องกับข้อมูล official ที่ระบุว่าสเนปเป็นหัวหน้าบ้านที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์คือ 21 ปี ทั้งนี้เนื่องจากความไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับระบบโรงเรียนและการบริหารบุคลากร
เพราะในวันที่พวกพอตเตอร์ถูกฆ่าคือวันฮัลโลวีนปี 1981 ซึ่งสเนปอายุ 21 แล้ว มันเลยจากวันเปิดเทอมมาด้วย สเนปไม่สามารถจะเข้ามาเป็นครูช่วงนี้ได้ยกเว้นครูฝึกสอน ยิ่งตำแหน่งหัวหน้าบ้านยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เพราะจะเป็นการข้ามหัวศาสตราจารย์สลักฮอร์นที่ควรจะเป็นทั้งอาจารย์สอนปรุงยาและหัวหน้าบ้านมาตั้งแต่เดือนกันยายน อีกทั้งการจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าบ้านก็ควรมีการฝึกและทำความคุ้นเคยกับตำแหน่งก่อนไม่ใช่อยู่ๆ ก็แทรกเข้ามา เว้นแต่ฮอกวอร์ตจะบริหารด้วยระบบมั่วซั่วไร้ความเป็นมืออาชีพแบบตามใจปู่สองดอร์
ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่สเนปจะย้ายข้างและถูกรับเข้าเป็นอาจารย์โดยอ้างกับจอมมารว่าสอดแนมดัมเบิลดอร์คือก่อนเดือนกันยายนปี 1980 ซึ่งก็คือไม่กี่วันหลังแฮร์รี่เกิดนั่นเอง โดยสเนปจะเข้ามาในฐานะอาจารย์ฝึกสอนที่เตรียมเสียบตำแหน่งสลักฮอร์นที่จะเกษียรหลังสิ้นปีการศึกษา ซึ่งระหว่างฝึกสอนนั้นแกก็จะกลมกลืนกับนักเรียนโตซักหน่อยเพราะอายุไล่ๆ กัน ตัวก็เล็กๆ แถมใส่ชุดดำเหมือนนักเรียนอีก ไม่รู้เคยเจอมักกอนนากัลสั่งกักบริเวณเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นนักเรียนลุกจากเตียงบ้างรึเปล่า
และอย่างที่เราทราบครับ หลังลิลี่ตายสเนปก็หัวใจสลาย เขาคิดจะตายเพื่อชดใช้ให้เธอแต่ดัมเบิลดอร์มีแผนที่ยิ่งใหญ่กว่ารออยู่ เขาทำให้สเนปมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องแฮร์รี่แทนลิลี่--เพื่อความสุขของเธอ  สเนปในวัยเด็กนั้นอ่อนแอและขี้ขลาด แต่เมื่อเขารู้สึกผิดเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไถ่ถอนเขาจึงทำหลายสิ่งที่เขาไม่กล้าเพราะเขาตัดสินใจให้ทุกสิ่งแม้แต่ชีวิตไปแล้ว สเนปถูกผลักไปจนเกินขีดจำกัดซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกลายเป็นผู้ชายที่กล้าหาญที่สุดที่เรารู้จักในหนังสือ
ตอนหน้าเรายังอยู่กับสเนปเพื่อไล่ตามสิ่งที่ผมทิ้งไว้ และจะป็นการวิเคราะห์ตัวละครแบบเต็มรูปแบบ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเป็นตอนจบของบทความเกี่ยวกับเขา
โฆษณา