24 พ.ย. 2022 เวลา 02:27 • หุ้น & เศรษฐกิจ
✅Morning Update 24.11.2022
1. ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน
2. ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดในแดนบวกวันก่อนหน้า โดย Kospi ปิด +0.53%
3. ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีโดย CSI300 +0.10% / HSCEI +0.74% / และ HSI +0.57%
ที่ประเทศจีน เมืองเจิ้งโจว ได้เกิดเหตุประท้วงในโรงงาน Foxconn ซี่งเป็นโรงงานประกอบ iPhone ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยพนักงานกว่าร้อยชีวิตได้พยายามหนีออกจากโรงงานหลังจากพนักงานยังไม่ได้รับค่าจ้าง พร้อมวิตกกังวลถึงความเสี่ยงของการระบาดโควิด-19 ภายในโรงงาน
4. ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวตามภูมิภาคและตลาดสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีหลังจากปรับตัวลดลงแรงในวันก่อนหน้า โดย SET ปิดที่ 1,624.40 จุด (+0.56%)
5. ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงสวนทางภูมิภาคเอเชีย VNI -0.64%
6. ตลาดหุ้นยุโรปหรือ Stoxx 600 ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีจากตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีที่ฟื้นตัว โดย Stoxx 600 ปิดที่ 438.82 (+0.60%)
7. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของเยอรมนี (German Manufacturing Purchasing Managers Index) ประจำเดือนพฤศจิกายนชะลอการหดตัวที่ 46.7 จุด ดีกว่าคาดที่ 45.0 จุด
8. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมวลรวมของสหราชอาณาจักร (Composite Purchasing Managers Index) ประจำเดือนพฤศจิกายนยังคงอยู่ในโซนหดตัวต่อเนื่องที่ 48.2 จุด แต่หดตัวน้อยกว่าคาดที่ 47.2 จุด
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของสหราชอาณาจักร (Services Purchasing Managers Index) ประจำเดือนพฤศจิกายนยังคงอยู่ในโซนหดตัวที่ 48.8 จุด แต่หดตัวน้อยกว่าคาดที่ 48.0 จุด
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร (UK Manufacturing Purchasing Managers Index) ประจำเดือนพฤศจิกายน ยังคงอยู่ในโซนหดตัวที่ 46.2 จุด แต่เป็นการหดตัวที่น้อยกว่าคาดที่ 45.7 จุด
9. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกภายหลังรายงานการประชุม FOMC เผยมีสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่น้อยลง โดยดัชนี Dow Jones +95.96 จุด +0.28% / S&P 500 +23.68 จุด +0.59% / และ Nasdaq 100 +113.88 จุด +0.97%
10. หุ้นที่ Outperform ตลาด 3 อันดับสูงสุด ได้แก่หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +1.33% กลุ่มเทคโนโลยีสื่อสาร +1.21% และกลุ่มผู้ให้บริการสาธารณูปโภค +1.04%
หุ้นที่ Underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุด ได้แก่หุ้นกลุ่มพลังงาน -1.16% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ -0.15% และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค +0.33%
11. รายงานการประชุมคณะกรรมการ Fed หรือ FOMC Minutes เผยว่าคณะกรรมการมีความเห็นว่า Fed อาจจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำลง โดยมีสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุม Fed รอบเดือนธันวาคมนี้
แต่อย่างไรก็ตาม Terminal Rate หรืออัตราดอกเบี้ยในจุดที่สูงสุดคาดยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือระดับเป้าหมายของ Fed ที่ 2% แม้ว่าเงินเฟ้อจะเริ่มมีการชะลอตัวลงก็ตาม
12. ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนหรือ U.S. Durable Goods Orders ประจำเดือนตุลาคมขยายตัวที่ 1.0% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) สูงกว่าคาดที่ 0.4%
ขณะที่ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานหรือ U.S. Core Durable Goods Orders ประจำเดือนตุลาคมหดขยายตัวที่ 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) จากคาดขยายตัวทเพียง 0.1%
13. ตัวเลขผู้มาลงทะเบียนสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์หรือ Initial Jobless Claims ที่ 240,000 ราย มากกว่าคาดที่ 225,000 ราย
14. ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่หรือ New Home Sales ประจำเดือนตุลาคมขยายตัวที่ 632,000 หน่วย ดีกว่าคาดที่ 570,000 หน่วย โดยเป็นการขยายตัวที่ 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า (MoM)
15. ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤศจิกายนชะลอตัวลงที่ระดับ 56.8 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากปัจจัยความกังวลเศรษฐกิจถดถอย
16. HP (Hewlett Packard) ประกาศแผนการลดพนักงานทั่วโลกในช่วง 3 ปีข้างหน้าจำนวน 4,000-6,000 ตำแหน่ง หรืออาจมากถึง 9,000 ตำแหน่ง เพื่อการบริหารต้นทุนที่มีทิศทางสูงขึ้นในช่วงแผนงาน 3 ปี
17. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น / หุ้น Innovation ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น / หุ้น Semiconductor ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี / ETF ด้าน Technology & Innovation ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น / ADRs หรือหุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี
18. S&P500 VIX Index ปรับตัวลดลงเข้าใกล้ระดับ 20 จุด โดยปิดที่ 20.35 จุด (-4.42%) / Nasdaq 100 VIX ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยปิดที่ 26.66 จุด (-4.07%)
19. Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงแรง โดยล่าสุดอยู่ที่ 3.689%
20. ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงแรง โดยล่าสุดอยู่ที่ 106.10 จุด / ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย โดยล่าสุดอยู่ที่ 36.01 บาทต่อดอลลาร์
21. ราคาทองคำผันผวนและปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์
22. ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลงแรงหลังข่าวการล๊อคดาวน์ในประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าพลังงานน้ำมันดิบสูงสุดของโลก โดยล่าสุดอยู่ที่ 84.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
23. ราคาบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสินทรัพย์เสี่ยง โดยราคาล่าสุดของบิทคอยน์อยู่ที่ 16,500 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา