ราคา “น้ำมัน” ดิ่งลงต่อเนื่อง!
หลังมีข่าว G7 เคาะราคาน้ำมันรัสเซีย
ในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าดิ่งลงอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ ล่าสุด WTI หลุดระดับ 79 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์หลุด 86 ดอลลาร์ หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน จะทำให้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
โดยเวลา 19.53 น.ตามเวลาไทย(23 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลบ 2.18 ดอลลาร์ หรือ 2.69% สู่ระดับ 78.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลบ 2.61 ดอลลาร์ หรือ 2.95% สู่ระดับ 85.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ G7 รวมทั้ง EU และออสเตรเลียมีกำหนดบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียดังกล่าวในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน
การกำหนดเพดานราคาน้ำมันครั้งนี้ถือเป็นมาตรการลงโทษต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้จะทำให้บริษัทเดินเรือ, บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันภัยต่อ ไม่สามารถให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งคาร์โกน้ำมันรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานที่ G7 และพันธมิตรกำหนดไว้
หลายฝ่ายมองว่าการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรลถือเป็นระดับที่เหมาะสม เนื่องจากรัสเซียยังคงมีกำไรจากการจำหน่ายน้ำมันที่ระดับดังกล่าว ขณะที่มีต้นทุนการผลิตราว 20 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำมันในตลาด ขณะเดียวกันทำให้รัสเซียมีรายได้ลดลงจากการจำหน่ายน้ำมันที่จะนำไปสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน
3 ถูกใจ
366 รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
  • 3
    โฆษณา