25 พ.ย. 2022 เวลา 10:27 • ดนตรี เพลง
[รีวิวอัลบั้ม] Bloom - Numcha
ได้เวลาเบ่งบาน
-ในที่สุดเราก็ได้ฟังผลงานเพลงสากลเต็มรูปแบบชุดแรกของนักร้องสาวไทย-อินดี้ รั้วมหิดล น้ำชา-ณัฐธชา ชูเกษ เจ้าของเพลง Keep Cold ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากโปรเจคต์ส่งอาจารย์ก่อนจบมหาลัย ไม่น่าเชื่อว่าเพลงดังกล่าวจะนำพาเธอคนนี้ไปสู่เส้นทางโกอินเตอร์ ออก live session ในช่วงโควิดร่วมกับ 88rising ล่าสุดเพิ่งได้เดินสายออกทัวร์ทีไต้หวัน
-ทั้งๆที่น้ำชาปล่อยซิงเกิ้ลแค่ไม่กี่เพลงเท่านั้น กลับเป็นที่เตะตาต้องใจสายตาชาวโลกเสียแล้ว ปัจจัยที่ทำให้น้ำชาสามารถดึงดูด international fan ได้ ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษที่แข็งแรงอย่างเดียว เพลงของเธอมี ท่วงทำนองที่ friendly เข้าถึงได้ง่าย คาแรคเตอร์รวมๆแล้วมีความเป็นคนช่างฝัน dreamy ถึงจะเผชิญเรื่องผิดหวัง ขมขื่น แต่ก็มีแง่มุมบางอย่างให้กลับมามองโลกอย่างมีความหวังได้
-Bloom เป็นเดบิวท์อัลบั้มที่เอาๆจริงๆสำหรับผมเป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานมินิมอลที่ไม่ได้เน้นความทะเยอทะยาน ท่วงทำนอง mid-tempo ฟังสบายด้วยว่วนนึง ด้วยความที่รวบรวมซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมาเราเลยคาดเดาได้ก่อนแล้วว่าเราจะเจอมู้ดแอนด์โทนแบบไหน ความรู้สึกพิเศษอย่างนึงที่ผมพอสัมผัสได้ก็คืองานเพลงของน้ำชามีความเป็นงานคราฟต์ในแบบของตัวเธอเองอยู่ไม่น้อย อาร์ตเวิร์คปกอัลบั้มเอยก็ดี แนวทางอินดี้ก็ไม่ซ้ำใคร ไม่ได้วนอยู่กับความป็อป ยังกรึ่มด้วยความโซล-อาร์แอนด์บีอีกต่างหาก นับว่าเป็นแต้มต่อที่ดีมากๆ
-ไตเติ้ลแทร็คอินโทรเปิดอัลบั้มก็มอบความรู้สึกเช้าวันใหม่ ดอกไม้เริ่มเบ่งบาน เมื่อมีดอกไม้ก็ต้องมีผีเสื้อ เลยต่อเนื่องด้วยเพลง Butterfly อย่างแนบเนียน เป็นเพลงที่ปล่อยออกมาเมื่อปีกลาย และเพจเราก็เอาไปอยู่ใน Top 65 Thai Songs ด้วย องค์ประกอบความฟุ้ง ซาวนด์กีตาร์กรึ่มๆมีส่วนช่วยให้เพลงนี้มีองค์ประกอบที่มีน้ำมีนวล ไม่แห้งแล้ง ส่วนเนื้อหาก็ตีความไปในทางความรู้สึก insecure ของตัวแทนแห่งมวลหมู่ดอกไม้ที่มักจะโดนผีเสื้อคอยบินตอม มันเป็นความรู้สึกที่ชวนฝัน แต่ก็ชั่วคราวเช่นกัน
-Ladybug ซิงเกิ้ลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีความ feel good ละเมอเพ้อพบถึงใครซักคน โดยที่ยังไม่บอกเค้าด้วยนะ มันเป็นความรู้สึกแอบรักที่หอมหวาน ช่างเจิดจ้าเหลือเกิน ราวกับว่าอยากอยู่กับความรู้สึกนี้โดยไม่ต้องบอกความในไปเลยดีกว่ามั้ย Scenario เป็นหนึ่งในเพลงใหม่ในอัลบั้มที่รอการค้นพบ เข้าสู่โทน personal ที่พาเข้าสู่ภาวะเปล่าเปลี่ยว ราวกับความรู้สึกดาวน์ชั่ววูบในยามที่คิดถึงใครบางคน จนเราโหยหาการพบปะและการสัมผัสจน losing my mind เสียเอง ท่วงทำนองไวโอลินช่วยเพิ่มความอาลัยอาโศกพาอารมณ์ละห้อยได้อีก
-Merry Midnight ที่ร่วมงานกับพี่โก๋ Sunset Rollercoasters มาร่วมดูเอ็ทเพลงตีมคริสต์มาสที่น้ำชาย้ำนักย้ำหนาว่า เป้าประสงค์ของเพลงนี้อยากทำออกมาให้โรแมนติกพริมใจ แต่ท่วงทำนองที่ขับเคลื่อนด้วยโทนอบอุ่นและเครื่องสีไวโอลินนำพาให้เพลงดึงโมเมนต์แห่งการโหยหาความรักความอบอุ่นก็เป็นได้ ถือเป็นเพลงคริสต์มาสที่ safe and sound นำพาอารมณ์คิดถึงคนห่างไกลไม่มากก็น้อย
ตามหาลำโพงแหล่มๆต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขซะหน่อยมั้ย >>> https://shope.ee/4V33Krpczj
-in my white dress ซิงเกิ้ลล่าสุดที่ผมชอบมากสุด ถึงจะเป็นเพลงที่ว่าด้วย puppy love ชวนฝัน แต่ด้วยกลิ่นอัลเทอร์แทรกซึมเท่านั้นแหละ มันช่วยเสริมมุมเท่ห์ ขับเคลื่อนให้เพลงเกิดแรงไดนามิคที่ช่วยให้มีมิติที่นอกเหนือจากท่วงทำนองหวานๆ
-Kyrptonite ก็เช่นกัน หากไร้ซึ่งริทึ่มกีตาร์ไฟฟ้า ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าเพลงมันจะเบาโหวงมั้ย ที่แน่ๆมันเป็นองค์ประกอบจำเป็นในการขับเคลื่อนความเป็น blues ซึ่งก็ช่วยให้เพลงแพ้ภัยตัวเธอประดุจซุปเปอร์แมนแพ้คริปโตไนท์ กลายเป็น night vibe ที่มีจุดต้องมนต์สะกด แตกต่างเพลงหลงรักที่มักจะใส่ element pop เสียอีก
-333 มินิมอลอคลูสติคป็อป เสียงร้องคลอเบาๆประหนึ่งอัดจากมือถือ แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น แลดูมีความหวังอย่างบอกไม่ถูก ที่มาของตัวเลขนอกจากจะเป็น angel number ที่แปลว่า beyond soulmate แล้ว
-น้ำชาเล่าให้ฟังในบทสัมภาษณ์ของเพจผมได้ความมาว่า ตอนแรกเธอคิดชื่อเพลงนี้ไม่ออก แต่เผอิญว่าเธอไปเจอตัวเลขนี้จากการไถรูปในมือถือตัวเองไปเรื่อย และช่วงเวลาที่กำลังเคาะเพลงนี้ตรงกับเวลา 3 นาฬิกา 33 นาทีพอดี จึงเป็นฤกษ์งามยามดีที่ตอกย้ำการเป็นชื่อเพลงที่ใช่ ในแบบที่ตัวเลขเข้ามาห้อมล้อมซะขนาดนี้ จะไม่เอามาตั้งชื่อเพลงก็กะไรอยู่
-ปิดท้ายด้วยสองซิงเกิ้ลที่แจ้งเกิดให้น้ำชาเป็นที่รู้จักข้ามประเทศ Keep Cold และ Dirty Shoes เป็นเพลงที่มีตีมอบอุ่น เฟรนด์ลี่ทั้งคู่ แต่จุดร่วมทางอารมณ์ในเพลงนี้ไม่ได้แปลว่า happy ending เสมอไป โดยเฉพาะเพลงแรก Keep Cold ที่เป็นการเก็บงำความรู้สึกไว้จะเป็นการดีกว่า แล้วให้ทุกอย่างมันดำเนินไปด้วยความประนีประนอม
-ส่วนเพลงสุดท้าย Dirty Shoes ก็เป็นการมอบความหวังที่ดี ไม่ได้ประโคมความโลกสวยเกี่ยวกับมุมมองความรักที่เห็นทุกอย่างดีงามไปหมด โดยที่ไม่มองเรื่องราวข้างทางเสียเลย ทุกความสัมพันธ์ย่อมมีอุปสรรคดุจโคลนที่เปื้อนรองเท้า แต่มันต้องมีซักวันที่โคลนเหล่านั้นถูกชะล้างเพื่อรีเฟรชตัวเองใหม่ในวันข้างหน้า เป็นการปิดท้ายที่ออกแนวสาวขาลุย พร้อมเปรอะเปื้อนจริงๆ
-ถือเป็นศิลปินไทยที่มี potential ที่น่าสนใจในการสร้างความแตกต่างให้กับซีนอินดี้ด้วยวิธีการคราฟต์งานเพลงในรูปแบบของตัวเอง เมื่อผมฟังอัลบั้มชุดนี้ ผมไม่ได้เห็นแค่การเป็นศิลปินที่ทำงานเพลงสนอง need ตัวเองอย่างเดียว ผมเห็นคนที่กำลังทำงานคราฟต์งานฝีมือบางอย่างที่อยู่ในรูปแบบเพลงก็เท่านั้น มันเป็นเสน่ห์ของความโฮมเมดที่เป็นข้อได้เปรียบในการสร้างความต่างให้กับซีนอินดี้จริงๆ
-การได้ตัวตึงของซีนไทยอินดี้ เบนซ์ แห่งวง Dept ที่มาช่วยโปรดิวซ์ให้เกือบทั้งชุดกลับช่วยให้งานคราฟต์ชุดนี้แข็งแรง มีมิติที่มากกว่าโทนสว่างใสอบอุ่นอย่างที่เราเห็นกันในงานเพลงป็อปทั่วไปด้วย เป็นการเริ่มต้นที่สวยงาม เบิกบานในแบบของเธอเอง ซึ่งผมก็แอบคาดหวังว่าการเปิดประตูสู่การเป็นสาวลุย ไม่หวั่นทุกอุปสรรคแบบที่สื่อใน Dirty Shoes นั้น จะทำให้เธอไม่วนอยู่กับเซฟโซนเดิม เพื่อรับอะไรใหม่ๆมาสร้างสีสันก็เป็นการดีครับ
Thx 4 Readin’
See Y’all
ชมสัมภาษณ์ย้อนหลังที่พูดถึงเกี่ยวกับอัลบั้ม Bloom และเหตุผลที่ไม่รวมเพลง April’s Loop ในอัลบั้มนี้ได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ >>> https://fb.watch/h04bXqE0yJ/
โฆษณา