พิชิต “ดอยหลวงเชียงดาว” ภูเขาที่มีความสูงอันดับ 3 ของไทย
กราบสวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนนะคะ ห่างหายไปนานถึง 3 เดือนที่เราไม่ได้ไปท่องเที่ยว เพราะพึ่งจะผันตัวจากนักศึกษามาเป็นมนุษย์เงินเดือนเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากทุกอย่างเริ่มลงตัว เราเลยนัดกับพี่ๆ ที่เคยไปเดินเปรโต๊ะลอซูด้วยกัน หาเวลาออกไปท่องโลกกว้างอีกครั้ง
…ครั้งนี้เราได้ไปเป็นนักศึกษาธรรมชาติ ณ ดอยหลวงเชียงดาว เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทาง เดินป่าในครั้งนี้ที่สุดแสนจะประทับใจ…
ดอยหลวงเชียงดาว
การเดินทางในครั้งนี้ของเราขอเริ่มต้นกันที่สนามบินดอนเมือง หลังจากเลิกงานเราก็รีบบินลัดฟ้าจากภูเก็ตไปดอนเมืองทันที เพื่อถึงให้ทันเวลารถตู้ที่จะพาเราไปเชียงใหม่ในครั้งนี้ เราใช้เวลานั่งรถจากกทม.-เชียงใหม่ประมาณ 9 ชม. สถานที่แรกที่เราไปครั้งนี้ก็คือร้านกาแฟบ้านฮักเฮือนสุข ที่เชียงดาว บรรยากาศดี อากาศที่นี่หนาวแล้ว ฟินสุดๆ แถมมีน้องแมวชื่อนาตาลี และโรเบิร์ต (พี่ฝ้ายตั้งชื่อให้🤣) อยากบอกว่าทริปนี้มีแต่เสียงหัวเราะ พี่ในกลุ่มโบ๊ะบ๊ะมุกกันสนุกมาก 555555
หลังจากดื่มกาแฟร้านแรกเสร็จเรียบร้อย เราก็ไปต่อร้านที่2 คือร้านฮกหลง ร้านนี้ก็น่ารักมาก ใครไปเชียงดาวแนะนำให้แวะไปนะ แถมที่ร้านมีน้องแมวชื่อ อเล็กซ์ (Ref.พี่ฝ้ายคนเดิม555) เรานั่งกันสักพักก็ไปหาทานข้าวเที่ยง ก่อนที่จะไปอบรมตอนบ่ายโมง (ใครจะขึ้นดอยหลวงเชียงดาวต้องผ่านการอบรมก่อนน้า)
เชียงดาวกับน้องแมว
ในการอบรมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เขาจะแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวและกฎระเบียบต่าง ๆ ระหว่างที่เราอยู่บนดอยหลวงเชียงดาวและตอนเดิน รวมถึงการเข้าห้องน้ำบนดอย ที่นี่เค้าจะมีเป็นถุงฉี่และถุงสำหรับถ่ายหนักให้นะ ปีนี้กฎค่อนข้างเยอะและเข้มงวดเนื่องจาก UNESCO ได้ประกาศ “พื้นที่สงวนชีวมณฑลดอยเชียงดาว” เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลก เราจึงต้องมีการอบรมเพื่อทำความรู้จักกับสถานที่ก่อน ใช้เวลาอบรมประมาณ 2 ชม. หลังจากนั้นเราก็จะได้รับบัตรประจำตัวการผ่านอบรมที่มีอายุเพียง 1 ปีเท่านั้น!!
บัตรคิวลงทะเบียนมีรูปดอกไม้ที่เชียงดาวด้วย
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการอบรม พวกเราก็มุ่งหน้ากลับเข้าสู่เมืองเชียงใหม่กัน เพราะคืนนี้พวกเราจะไปชิวกันในเมือง ตามประสาวัยรุ่นที่พรุ่งนี้เช้าจะต้องตื่นตี4 เพื่อจะไปเดินป่า แต่ก็ยังใช้ชีวิตแบบชิวไม่คิดจะกลับไปนอนกัน 55555 เรานั่งชิวร้านแรกที่ร้านโยว ร้านนี้เพลงดี ไอเลิฟมาก ฟังแล้วเศร้าดี 🥹 นั่งสักพักพวกเราก็ย้ายร้านกัน (จำชื่อร้านไม่ได้) แต่หนังไก่ทอดหม่าล่าอร่อยมาก พวกเราสั่งแค่หนังไก่ทอด จนที่ร้านถามว่าไม่คิดจะสั่งเมนูอื่นบ้างหรอ5555555555
เอ้ย!! ก็อันนี้มันอร่อยอะ อยากกินอี๊กกก 🤣
…ประมาณเที่ยงคืนพวกเราก็ชวนกันเดินกลับโฮสเทล เพื่อไปอาบน้ำนอนพักเตรียมตัวเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาวพรุ่งนี้เช้า
อยากไปเชียงใหม่ไปซื้อหนังไก่55555555
…เช้าวันเสาร์เวลาประมาณ 8 โมงเช้าพวกเรามาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเพื่อลงทะเบียน และตรวจกระเป๋านับถุงขนม ข้าว ขวดน้ำ ขยะที่จะนำขึ้นดอยหลวง (เอาขึ้นไปกี่ชิ้นต้องเอากลับมาให้ครบไม่งั้นโดนเก็บเงินค่าขยะ 500 บาท) อ๋อ! ที่นี่เค้าไม่ให้เอากระดาษทิชชู่เปียกขึ้นไปนะ
เวลาประมาณ 9:20 น. พวกเราก็พร้อมกระโดดขึ้นท้ายกะบะ เพื่อนั่งรถไปยังจุดเริ่มเดินประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (นั่งรถก็เหนื่อยแล้วอะ ทางคือตับไตไส้พุงจะสลับที่กันไปหมด 🤢)
และระหว่างนั่งรถ เรา พี่ฝ้าย พี่เป้ก็พูดคุยเล่นมุก ตั้งชื่อน้องหมา น้องวัวตามข้างทางไปเรื่อยจนถึงจุดเริ่มเดิม สงสารพี่เดียร์พี่ลูกหาบที่นั่งมาด้วยกัน คงรำคาญ🤣 (พูดจนคอแห้ง ขำจนท้องแข็งอะ5555)
26/11/22
11.10 น. เริ่มเดินได้...
เริ่มออกเดินแรกๆ พวกเราก็เดินกันไปเป็นแถวตอนเรียงหนึ่ง ประมาณ 10 นาทีผ่านไป ก็เหลือแค่เรา พี่ฝ้าย พี่เป้ และพี่แอ๊ว (เป็นไกด์+นักสื่อความหมาย) ที่เดินเป็นกลุ่มสุดท้าย ใช่แล้วจริงๆ พวกเราไม่ได้เหนื่อยนะ เราแค่ไม่รีบ เดินชมนก ชมดอกไม้ไปเรื่อยๆ (แต่ความจริงแล้วคือเหนื่อยมาก ทุกคนรีบไปไหนกันค้า55555555) 🥹
เส้นทางเดินป่าดอยหลวงเชียงดาวสวย น่ารักมาก เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด เราเดินไปถ่ายรูปไปไม่เบื่อเลย และทางเดินช่วงแรกจะเป็นป่าสน มองเห็นยอดภูเขาด้านหน้า ด้านข้าง เพิ่มความสวยไปอีก 18 เท่าเลย
ลืมบอกไปเลย ว่าที่นี่เค้ามีจุด Check Point เป็นระยะๆ ให้เราแสกนด้วยนะ ผ่านแอพ Doi Chiang Dao Biosphere ในแอพจะบอกระยะทางของจุดต่างๆ และเมื่อเราแสกนแล้ว ในแอพจะบอกว่าจุดตรงที่เรามาถึงมีพันธุ์ไม้ ดอกไม้อะไรบ้าง เป็นลักษณะป่าแบบไหน เราว่ามันดีมากเลยนะ เหมือนเดินไปแบบมีจุดมุ่งหมายที่จะไปพิชิตแต่ละจุด ชอบมาก
ตัวอย่าง
เดินไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ อากาศก็เริ่มเย็นๆ ขึ้น สักพักก็มีเม็ดฝนตกลงมาใส่เรา ใช่ค่ะ!! ฝนตก (เค้าบอกหนูว่าป่าหน้าหนาว😅) แต่ดีที่เราใส่ Rain Cover ให้กระเป๋าไว้แล้ว ส่วนคนก็เดินแบบเปียกๆ ไปเลย เพราะคิดว่าฝนคงตกไม่หนัก และไม่นาน แต่ความเป็นจริงแล้วฝนไม่หยุดค่ะ และทางเดินคือเละมาก จนคิดว่ากำลังเดินอยู่ที่เปรโต๊ะลอซู 😂 สไลด์ซ้ายที ขวาที เกือบจะล้มก็หลายครั้ง55555
พวกเราเดินต่อไปได้สักพักเริ่มรู้สึกว่าฝนตกหนักขึ้น เลยชวนกันแวะใต้ร่มไม้เพื่อทานข้าวเที่ยงกันก่อน และตัดสินใจใส่เสื้อฝนเพื่อเดินต่อ ***ทำไมดูลำบากจัง555555
น้ำพริกปลาร้าอร่อยมาก 555
13.40 น. พวกเราเดินมาถึงสามแยกปางวัว เย้!! ครึ่งทางแล้วทุกคน อีกแค่ 4 กิโลก็จะถึงแล้ว 🥲
มาถึงครึ่งทางพวกเรานั่งพัก ทำความสะอาดรองเท้าเดินป่าที่แปลงร่างเป็นรองเท้ามิกกี้เม้าส์เพราะโคลน ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนจะเดินกันต่อ...
ระหว่างเดินเราใช้คำว่า หู้ย!! สวยอะ ได้เปลืองมาก เพราะหันไปทางไหนก็สวยไปหมด เราเดินอยู่ท่ามกลางหุบเขาล้อมรอบ (เหมือนอยู่ในหนังเลยอะ) มีหมอกปกคลุมภูเขาบางส่วนเพราะฝนพึ่งจะหยุดตกไป บอกเลยว่าสวยมากๆ สวยจนลืมเหนื่อย (โกหกค่ะเหนื่อยเหมือนเดิม555555)
ชอบมุมนี้มากกกกกกกกกกก...
หลังจากเดินผ่านภูเขาที่แสนจะสวยไป เราก็จะเดินเข้าป่าทึบอีกครั้ง
ป่าที่นี่อุดมสมบูรณ์มากกกกกก ดูสดชื่นไปหมด ถ่ายรูปกันเพลินสุดๆ
แต่ทางที่นี่ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ ชันอยู่เรื่อยๆ ไม่ใจดีกับคนที่ไม่ออกกำลังแบบเราเลย 🥹 แต่ถ้าแลกกับความสวยแล้ว โอเค!! ยอม คุ้มสุดๆ
***16.40 น. เราเดินมาถึงจุดกางเต็นท์แล้ว ใช้เวลาเดินไปทั้งหมดประมาณ 5 ชม. 30 นาที กำลังดีไม่น่าเกลียดไป55555555
มาถึงพวกเราก็รีบกางเต็นท์เก็บของ เพื่อรีบเดินขึ้นยอดไปดูแสงส้มของพระอาทิตย์ตก ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
บนยอด 2,225 สวยมากกกกก มองเห็น 360 องศา วิวภูเขาด้านหน้าคือสวยแบบตายไปเลย คุ้มมากๆ ที่เดินมาไกลและเหนื่อย อากาศหนาวมาก พวกเราถ่ายรูปกันเยอะสุดๆ ถ่ายแบบไม่คิดว่าเมมจะเต็ม55555 ใช้เวลาบนยอดสักพักก็ชวนกันลงมาที่แคมป์เพื่อทานข้าวเย็นด้วยกัน และนั่งพูดคุยกันก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน...
2,225 ม. จากระดับน้ำทะเล
เวลาประมาณตี 5 เราตื่นมาหากาแฟร้อนๆ กินแก้หนาว ก่อนที่จะเดินขึ้นยอดไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
เอาจริงๆ เราไม่ชอบการเดินตอนเช้าเท่าไหร่ มันรู้สึกแน่นๆ จะอ้วกยังไงไม่รู้ แต่ก็อดทนเดินขึ้นไปให้ถึง เดินๆ หยุดๆ ประมาณ 50 รอบ 55555555 เราเดินไปถึงยอด พระอาทิตย์ก็ขึ้นพอดี แสงสีส้มตัดกับทะเลหมอกสวยมาก นานมากแล้วที่เราไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้น รู้สึกดีมาก สวยมากๆ
หลังจากนี้พวกเราก็สลับกันถ่ายรูปมามุมต่างๆ บนยอดดอย สักพักก็มีเสียงบอกว่ากวางผาๆ พวกเราก็รีบวิ่งไปดูกัน น้องกวางผายืนอยู่บนเขาฝั่งกิ่วลมตรงข้ามเรา ซึ่งไกลมาก สายตาเรามองเห็นแค่ลางๆ ได้แต่มองผ่านกล้องส่องทางไกลของลุงสิงค์ (เจ้าหน้าที่) 🥲
บรรยากาศตอนเช้า
หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ และกำลังเดินลงจากยอดดอยเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...น้องโทรศัพท์เราน็อคดับสนิทไม่มีสิทธิแม้แต่จะกดเปิด 🥲 ทำให้ตอนเดินออกจากป่าเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ได้แต่เดินหน้าเศร้าๆ ฝากพี่คนอื่นถ่ายไว้ให้เพื่อมาใส่ใน Block นี้ (เสียใจจุง)
เส้นทางเดินกลับก็เหมือนเดิมแต่รู้สึกดีหน่อยเพราะไม่ค่อยชันแล้ว ส่วนมากจะเป็นทางลง พวกเราเดินกลับมาถึงป้ายที่จุดเริ่ม น่าจะเป็นกลุ่มท้ายๆ เลย (ไม่เน้นเดินเร็วค่ะเน้นเดินถึง555) นั่งพักกันไม่นาน พวกเราก็ขึ้นรถกะบะเพื่อกับไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ระหว่างทางกลับพวกเราก็ได้แวะซื้อส้มเชียงดาวที่เค้าบอกว่าอร่อยกลับไปฝากที่ทำงานด้วย (ซื้อ3โล เอากลับไป3ลูก555555 มันหนักอะ) 🤣
นั่งรถมาสักพักก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกแล้ว...รถกะบะคันด้านหน้าติดหล่ม เพราะฝนตกทางเลยเละมากๆ รถหลายคันติดไปไม่ได้ รวมถึงคันของอิชั้นด้วยค้า น่ากลัวมากรถบางคันเหมือนจะตกลงข้างทาง ลุ้นสุดๆ เราท่องพุทโธๆๆ ตลอดทาง5555555 จนสุดท้ายก็ผ่านพ้นรอดปลอดภัยกลับมาได้ โล่งงงงงงอก!!
...มาถึงเขตก็ทำการนับจำนวนขยะที่นำขึ้นไปว่าครบมั้ย? (ไม่ครบโดนปรับ 500 แน่) เสร็จเรื่องต่างๆ แล้วเราก็รีบไปอาบน้ำ เตรียมตัวนั่งรถตู้ซิ่งกลับกทม. กันนนนนน
ขอพระคุณรูปทางพี่ๆ
เอิ่ม...เล่าจบแล้วทุกคน อ่านกันรู้เรื่องมั้ย เราเขียนอาจจะงงๆ นิดนึงนะ เพราะเราก็งง 555555 เราพยายามเล่าแบบรวบรัดเพราะไม่ค่อยมีเวลาเขียนมากนัก
***สุดท้ายขอบคุณทุกคนมากที่อ่านมาถึงตรงนี้***
ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติมคอมเม้นถามเราได้เลยนะ ☺️
เราอยากบอกว่าการเดินป่าครั้งนี้สนุกมาก เราหัวเราะเยอะมาก
เป็นตัวของตัวเองสุดๆ ขอบคุณพี่ๆ ในกลุ่มทุกคน พี่ๆ น่ารักมาก หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกในสถานที่ต่อไปนะคะ 🥰
ก่อนลากันไป...ขอแนบรูปเพิ่มเติมให้ชมกันนะคะ
ปล.1 วันที่อบรมเราซื้อลอตเตอรี่1 ใบ ถ้าถูกเราจะให้พี่ๆ ในกลุ่มคนละ ห้าหมื่น
ปล.2 เราไม่ถูกลอตเตอรี่ 🥲
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
