1 ธ.ค. 2022 เวลา 04:53 • กีฬา
จามาล มูเซียล่า มีความฝันมาตลอดว่าอยากติดทีมชาติอังกฤษ และได้ลงเล่นที่สนามเวมบลีย์ และสุดท้ายเขาก็ได้เล่นที่เวมบลีย์จริงๆ แต่กลับลงเล่นในสีเสื้อของทีมชาติเยอรมันแทน ทำไมเขาเลือกแบบนั้น วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง
มูเซียล่า มีคุณแม่เป็นคนเยอรมันเชื้อสายโปแลนด์ และมีคุณพ่อเป็นคนไนจีเรีย เขาเติบโตขึ้นจากเมืองเล็กๆ ในเยอรมันที่ชื่อฟูลด้า
ตอนเด็กๆ เขาเล่นฟุตบอลอยู่กับทีมท้องถิ่น และยิงประตูได้ต่อเนื่อง พอจะเห็นแววว่าน่าจะไปรุ่ง
แต่ปัญหาคือ ตอนมูเซียล่าอายุ 7 ขวบ คุณแม่ของเขาที่เป็นนักศึกษาปริญญาโท ต้องไปทำวิจัย ที่มหาวิทยาลัยเซาธ์แฮมป์ตัน ในประเทศอังกฤษ ดังนั้นทั้งครอบครัวจึงต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่อังกฤษกันหมดเลย
มูเซียล่า จากที่เตะบอลกับทีมท้องถิ่นในเยอรมัน ต้องไปหาสโมสรใหม่ลงเล่น ซึ่งก็ไม่ง่าย สำหรับเด็กเยอรมันที่พูดอังกฤษไม่ได้สักคำอย่างเขา
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อ-คุณแม่ พยายามเต็มที่เพื่อหาทีมให้ลูกชายฝึกฟุตบอลให้ได้ สุดท้ายสโมสรเซาธ์แฮมป์ตัน ก็รับเข้าไปอยู่ในทีม u-7
ช่วงเวลาที่ลงเล่นกับเซาธ์แฮมป์ตัน มูเซียล่าไม่ทำให้ทีมนักบุญผิดหวัง เขายิงประตูกระจุยตั้งแต่อายุน้อยๆ จนทำให้ใครๆ ต่างพากันทึ่งไปหมด มีนัดนึงที่มูเซียล่ายิง 6 ลูกใน 10 นาที จนเป็นที่ลือลั่นกันไปทั่ว
2
ผ่านไป 1 ปี คุณแม่ของมูเซียล่าทำงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยเซาธ์แฮมป์ตันเสร็จแล้ว ตามจริงก็ควรจะกลับไปที่เยอรมัน แต่ในเมื่อเส้นทางอาชีพของลูกชาย ดูจะเป็นรูปเป็นร่างที่อังกฤษ ทำให้เธอตัดสินใจว่า จะอยู่อังกฤษต่อไปเลยดีกว่า หางานทำที่อังกฤษเลยก็ได้
มูเซียล่า ถูกส่งเรียนหนังสือในโรงเรียนที่อังกฤษอย่างเป็นกิจจะลักษณะ และสามารถพูดอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในที่สุด เขาใช้ภาษาเก่งขนาดที่แต่งบทประพันธ์ไปร่วมแข่งขันในโรงเรียน และได้รางวัลชนะเลิศด้วย
2
ด้วยความที่มูเซียล่า เป็นผู้เล่นพรสวรรค์ ทำให้เซาธ์แฮมป์ตันอยากรั้งตัวต่อ แต่เชลซี กับ อาร์เซน่อลก็อยากได้เช่นกัน กลายเป็นศึกสามเส้า แต่สุดท้ายเชลซีเป็นฝ่ายชนะ สาเหตุหลัก เพราะคุณแม่ได้งานที่บริษัทใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสนามซ้อมค็อบแฮมของเชลซี คือมันเป็นชอยส์ที่ตอบโจทย์ชีวิตมากสุด
มูเซียล่า จะไปโรงเรียนในวันจันทร์ถึงศุกร์ และหลังเลิกเรียนก็ไปซ้อมฟุตบอลกับทีมเยาวชนของเชลซี ชีวิตของเขาก็ค่อยๆ ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ
กับเชลซี มูเซียล่ามีผลงานที่ดี ส่วนชีวิตที่โรงเรียนก็โอเค เขาไปเรียนหมากรุก เพื่อที่จะได้มีระบบความคิดอย่างเป็นแบบแผนมากขึ้น และไปเรียนฮับกีโด ศิลปะการต่อสู้ของเกาหลี เพื่อจะได้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว ซึ่งสามารถเอาไปใช้ได้ในการเล่นกีฬาอาชีพ
โรงเรียนในสมัยประถมของมูเซียล่า ชื่อ คอร์ปัส คริสตี้ ซึ่งมูเซียล่าพาทีมฟุตบอลของโรงเรียนคว้าแชมป์ระดับประเทศได้ในปี 2013 ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นั้น แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่เป็นโค้ชเยาวชนทีมชาติ ได้เข้ามาเป็นวิทยากรให้เด็กๆ ด้วย และกล่าวชื่นชมจามาล มูเซียล่า (10 ขวบ) เป็นการส่วนตัว
ดังนั้นจะเห็นได้เลยว่า เซาธ์เกต รู้จักกับมูเซียล่ามานานมากแล้ว และรู้ด้วยว่าเป็นผู้เล่นที่มีอนาคตไกล
มูเซียล่าซ้อมบอลกับเชลซี ควบคู่กับเล่นให้ทีมโรงเรียนต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุด เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุด U-15 ลงเล่นเกมกระชับมิตรกับทีมชาติตุรกี ในเดือนธันวาคม 2016
1
มูเซียล่าถูกส่งลงมาเป็นสำรอง และยิงประตูได้ทันที ในนัดประเดิมสนาม ช่วยอังกฤษชนะตุรกี 5-2 โดยใน Squad ของอังกฤษวันนั้น นอกจากมูเซียล่าแล้ว ยังมีจู๊ด เบลลิงแฮม, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ทีโน่ ลีฟราเมนโต้อีกด้วย
1
นัดแรกที่มูเซียล่า ได้ลงเป็นตัวจริงให้ทีมชาติชุด u-15 คือเกมที่อังกฤษชนะเนเธอร์แลนด์ 3-1 ในเดือนธันวาคม 2017 และสามารถทำแฮตทริกได้อย่างสวยงาม สร้างความตื่นตะลึงให้คนที่พบเห็น ว่าเด็กคนนี้มันมีของจริงๆ
1
ความฝันของมูเซียล่า ณ เวลานั้น คืออยากติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ อยากเล่นในเวมบลีย์ และอยากทำแฮตทริกได้ที่เวมบลีย์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในโลกของฟุตบอลยุคปัจจุบัน การแย่งชิงตัวผู้เล่นกัน ของบรรดาทีมชาติเป็นเรื่องปกติมาก ถ้าหากมีโอกาสแม้แต่นิดที่จะได้ตัวนักเตะมาครอง สมาคมฟุตบอลของประเทศต่างๆ ก็ต้องลองพยายามดูก่อน
สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน เริ่มสนใจมูเซียล่าขึ้นมา และมารู้ว่า ตัวนักเตะมีคุณแม่เป็นเยอรมัน ดังนั้นจึงเริ่มกระบวนการทาบทามมูเซียล่าให้พิจารณาย้ายมาเล่นกับทีมเยาวชนเยอรมันดูบ้าง
ในเดือนตุลาคม 2018 เขาตัดสินใจตอบรับคำเชิญของเยอรมัน และลงเล่นให้ทีมเยอรมันชุด u-16 ในเกมอุ่นเครื่องกับเบลเยี่ยม ปรากฏว่า เยอรมันแพ้เละคาบ้าน 4-1 มูเซียล่าทำอะไรไม่ได้เลย มันไม่เหมือนกับตอนที่เขาเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ
สุดท้าย พอเล่นไป 2 นัดแล้วไม่เวิร์ก มูเซียล่าเลยกลับไปเล่นให้ทีมเยาวชนอังกฤษดีกว่า คือตอนนั้น เหมือนโมเมนตั้มจะไปทางอังกฤษแบบชัดเจนมากแล้ว
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของมูเซียล่า เกิดขึ้นในปี 2019 ตอนนั้นเขาอายุ 16 ปี โดยบาเยิร์น มิวนิค ทีมแชมป์จากบุนเดสลีกา ได้ติดต่อเชลซี เพื่อขอซื้อตัวคัลลัม ฮัดสัน-โอดอย
แม้การเจรจาจะไม่สำเร็จ แต่เอเยนต์ของฮัดสัน-โอดอย ก็ได้แนะนำว่า ลองเจรจาซื้อมูเซียล่าดูสิ นี่เป็นชอยส์ที่น่าสนใจ ถ้าหากบาเยิร์นอยากได้ตัวรุกดาวรุ่งสักคนไว้ใช้งาน
1
ตามกฎของฟุตบอลอังกฤษ ถ้านักเตะอายุ 16 ปี จะยังไม่มีสัญญาอาชีพ ทีมต่างๆ สามารถเซ็นสัญญาแย่งตัวมาได้เลย โดยจะจ่ายเพียงแค่เงินชดเชยจำนวนหนึ่งเท่านั้น ซึ่ง ณ เวลานั้น มูเซียล่า มีข้อเสนอจากหลายทีม แต่เมื่อบาเยิร์นกระโดดมาอยู่ในวงสนทนาด้วย มันก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง
1
มูเซียล่ากล่าวว่า "เมื่อไหร่ก็ตามที่สโมสรอย่างบาเยิร์น มิวนิคต้องการคุณ คุณไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอได้"
มูเซียล่าเป็นแฟนบอลบาเยิร์นตั้งแต่อยู่ที่เยอรมัน ดังนั้นเมื่อได้โอกาสทองขนาดนี้ จะให้เขาปฏิเสธได้อย่างไร
ด้วยข้อเสนอจากทีมเสือใต้ มูเซียล่าเลยย้ายมาอยู่บาเยิร์นในที่สุด โดยออกสตาร์ตด้วยการเล่นให้ทีมเยาวชนไปก่อน
แต่คนมันมีพรสวรรค์ แป๊บเดียวเท่านั้นก็เปล่งแสงออกมา หลังจากอยู่บาเยิร์นได้ 1 ปี วันที่ 20 มิถุนายน 2020 เกมนัดรองสุดท้ายของบุนเดสลีกา ที่บาเยิร์นเจอไฟร์บวร์ก หลังจากสกอร์นำขาด 3-1 แล้ว นาทีที่ 88 เฮดโค้ชบาเยิร์น ฮันซี่ ฟลิค ถอดโทมัส มุลเลอร์ออก แล้วส่ง ตัวสำรองมูเซียล่า ลงเล่นเป็นเกมแรก
1
ทำให้มูเซียล่า สร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดตลอดกาลของบาเยิร์น ที่ได้ลงในบุนเดสลีกา ด้ววัย 17 ปี กับอีก 115 วันเท่านั้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเขากับทีมเสือใต้
เมื่อเริ่มแจ้งเกิดในวงการได้แล้ว ฮันซี่ ฟลิค กล่าวชมว่ามูเซียล่ามี "พรสวรรค์อันเหลือล้น" ขณะที่ลีรอย ซาเน่ กล่าวชมว่า "เอาจริง และซ้อมหนัก" ส่วนโจชัว คิมมิชบอกว่า "เก่งเหลือเชื่อสำหรับคนอายุน้อยแบบเขา"
เรื่องราวจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดี มูเซียล่าฉายแสงอย่างเต็มตัวกับบาเยิร์น เขาได้ลงเล่นต่อเนื่อง ยิงประตูสม่ำเสมอ พอฮันซี่ ฟลิค ลาทีมไป ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ใช้งานต่อ แล้วพัฒนาให้นักเตะยิ่งเก่งขึ้นกว่าเดิมอีก
ในช่วงเวลาที่อยู่บาเยิร์น มีรายงานว่า พวกรุ่นพี่ในทีมทั้งคิมมิช, นอยเออร์, มุลเลอร์, ซาเน่, นาบรี้ และ โกเร็ตซ์ก้า ได้เกลี้ยกล่อมให้มูเซียล่า เลือกทีมชาติเยอรมัน แทนที่จะไปเลือกอังกฤษ
2
การโดนกล่อมทุกวันแบบนี้ ต่อให้คุณเคยฝันว่าอยากเล่นให้อังกฤษมาก่อน มันก็ไขว้เขวง่ายๆ เหมือนกัน
มูเซียล่า เล่นให้อังกฤษมาตลอด ตั้งแต่ u-15, u-16, u-17 และ u-21 ถ้าดูแบบนี้ ฝั่งอังกฤษเองดูจะกุมความเป็นต่อมากกว่า แต่เยอรมันเองก็มีคะแนนตีตื้นขึ้นมา ตั้งแต่ตัวนักเตะย้ายไปบาเยิร์น
เข้าสู่ปี 2021 มูเซียล่าจำเป็นต้องตัดสินใจแล้ว เพราะอีกแค่ปีเดียว ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก็จะมาถึง เขาต้องเลือกไปเลย ว่าจะเอาอังกฤษ หรือ เยอรมัน จะแทงกั๊กไม่ได้อีกแล้ว
จุดชี้ขาดของเรื่องนี้ อยู่ที่โยอาคิม เลิฟ เฮดโค้ชทีมชาติเยอรมัน และ โอลิเวอร์ เบียร์ฮอฟฟ์ ผู้อำนวยการทีมชาติ เข้ามาคุยกับมูเซียล่าอย่างจริงจัง และอธิบายให้ฟังว่า ถ้าเลือกเยอรมัน เส้นทางต่อไปของเขาจะเป็นอย่างไร นอกจากนั้น ยังเตรียมข้อมูลมาวิเคราะห์มูเซียล่าให้ฟังอีกด้วยว่า เขามีจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างไรบ้าง ทำอย่างไรถึงจะเก่งขึ้น
1
นอกจากนั้น การที่ทีมชาติเยอรมัน กับ บาเยิร์น มิวนิค มีความใกล้ชิดกัน บุนเดสเทรนเนอร์ กับโค้ชบาเยิร์นก็อาจคุยกัน เพื่อปรับตำแหน่งการยืนของมูเซียล่า ที่ทีมชาติกับสโมสรให้เหมือนกัน เพื่อให้เขาเล่นได้ง่ายขึ้นด้วย
คิดตามคอมม่อนเซนส์ ถ้าเลือกเยอรมันเขาก็ไม่ต้องปรับตัวเยอะ ตรงข้ามกับทีมชาติอังกฤษของเซาธ์เกต ที่อาจต้องจูนตัวเองเยอะมาก ถ้าต้องการเล่นเป็นตัวจริง
1
24 กุมภาพันธ์ 2021 มูเซียล่า จึงตัดสินใจเลือกเยอรมันในที่สุด ซึ่งมีไม่บ่อยนัก ที่นักเตะสักคนที่เล่นทีมเยาวชนอังกฤษมาตลอด จะเปลี่ยนใจไปเลือกชาติอื่นแทน
มูเซียล่าอธิบายว่า "ผมมีหัวใจให้เยอรมัน และ มีหัวใจให้อังกฤษ ทั้งสองประเทศจะอยู่ในหัวใจของผมเสมอ ส่วนการเลือกครั้งนี้ ผมใช้เวลาคิดมานานมาก แต่สุดท้ายผมเชื่อความรู้สึกของตัวเอง ว่าเยอรมันจะเป็นชอยส์ที่ถูกต้อง"
"ผมใช้เวลาคิดนานมาก คิดว่าทางเลือกไหน จะทำให้ผมมีโอกาสได้เล่นมากที่สุด มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย"
หลังจากเลือกเยอรมัน 1 ปีต่อมา เดือนกันยายน 2022 อังกฤษมีโปรแกรมเนชั่นส์ลีก เปิดเวมบลีย์พบกับเยอรมัน เกมนั้นเสมอกันไป 3-3 โดยมูเซียล่าได้ลงเป็นตัวจริงด้วย
มันแปลว่าความฝันที่จะได้เล่นในเวมบลีย์ของเขา ในที่สุดก็เป็นจริง เพียงแต่มันไม่เกิดขึ้นกับทีมชาติอังกฤษเท่านั้นเอง แต่เกิดขึ้นในสีเสื้อของเยอรมันแทน
ในเรื่องนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ แสดงความผิดหวัง เขากล่าวว่า "เราอยากให้เขาเลือกอังกฤษ แต่เมื่อเขาลงซ้อมกับทีมบาเยิร์น มิวนิคทุกวัน รายล้อมด้วยผู้เล่นทีมชาติเยอรมันแบบนั้น รวมถึงมีครอบครัวที่มีสายสัมพันธ์แน่นหนากับทางนั้น มันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะไม่เลือกเรา"
"จริงๆ เราเห็นแววของเขาตั้งแต่ช่วงที่เป็นนักเตะเยาวชนทีมชาติอังกฤษแล้ว เรารู้อยู่แล้วว่า เขาจะเติบโตมาเป็นผู้เล่นระดับนี้ได้"
กลายเป็นอังกฤษก็พลาดเพชรเม็ดงามไป หลายคนเชื่อว่า ถ้าเซาธ์เกตรุกเร็วกว่านี้ ดึงมูเซียล่ามาติดทีมชาติแต่เนิ่นๆ ก็คงได้ตัวไปแล้ว แต่เรื่องนั้นก็ไม่เกิดขึ้น
จริงๆ เรื่องนี้ ถ้าเราคิดถึงมุมของมูเซียล่า ก็จะเข้าใจว่าทำไมเขาเลือกทางนี้
1
ข้อแรกคือเยอรมันอยากได้เขาจริงๆ เฮดโค้ชอย่างเลิฟมานั่งคุยเอง มันก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่มอบให้
ข้อสองถ้าเขาพาเยอรมันประสบความสำเร็จได้ ก็จะเป็นฮีโร่ทั้งกับบาเยิร์น และ กับทีมชาติไปพร้อมกัน สามารถทำมาหากินในเยอรมันได้ไปอีกในระยะยาว
และข้อสาม ถ้าเลือกอังกฤษ การติดทีมมาบอลโลกคงไม่พลาดหรอก แต่ไม่มีอะไรการันตีเลยว่าเขาจะได้ลงเล่น เพราะตำแหน่งหน้าเป้า ก็มีแฮร์รี เคนจองอยู่แล้ว และคงจะจองแบบนี้ไปอย่างน้อยก็ 2-3 ทัวร์นาเมนต์
1
ตัวริมเส้นซ้ายขวา มีคนที่เซาธ์เกตชอบมากๆ อย่างราฮีม สเตอร์ลิ่ง และมีดาวรุ่งอย่างฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า ยังไม่นับแจ๊ค กรีลิช และ มาร์คัส แรชฟอร์ด คำถามคือ มูเซียล่าจะไปอยู่ตรงไหนได้
ดังนั้นการเลือกเยอรมัน ที่แผนการเล่นต่างๆ มันเอื้อมาเพื่อเขาอยู่แล้ว ก็เป็นคำตอบที่ดูจะถูกต้องมากที่สุด
สุดท้าย เราก็ต้องมาดูกันว่า ทางเลือกของมูเซียล่า จะผิดหรือถูก เยอรมัน หรือ อังกฤษ ทีมไหนจะได้แชมป์เมเจอร์ก่อนกัน
1
จริงๆ แล้ว การเลือกระหว่างประเทศที่ตัวเองเกิด กับ ประเทศที่ตัวเองเติบโตขึ้นมา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่สุดท้ายคนเราก็เลือกได้แค่คำตอบเดียวเท่านั้น
ถ้าคิดหักลบเหตุผลอย่างรอบคอบแล้ว ผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตละกัน
#NotAnEasyDecision
โฆษณา