2 ธ.ค. 2022 เวลา 02:30 • ธุรกิจ
Larobe8 แบรนด์เสื้อผ้า ของอดีตพิธีกร สตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก ที่สร้างสถิติ ยอดขายเกือบ 4 ล้าน ใน 3 นาที
1
Larobe8 แบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงสุดฮิตใน Instagram
ที่สร้างปรากฏการณ์ขายสินค้าหมดสต็อก ภายในเวลาเพียง 3 นาที
ซึ่งนอกจากจะเป็นแบรนด์ขวัญใจสาว ๆ ในไทยแล้ว
ยังมีลูกค้าประจำในจีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย, สหรัฐอเมริกา และในยุโรปอีกด้วย
โดยในวันนี้ลงทุนเกิร์ล มีโอกาสพูดคุยกับ คุณเบลล์-นันทิกานต์ สิงหา เจ้าของแบรนด์ Larobe8 ถึงเรื่องไอเดียการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ ให้กลายเป็นที่ต้องการของสาว ๆ จนต้องแย่งกันกดซื้อ
เรื่องราวของ Larobe8 น่าสนใจอย่างไร ?
และทำอย่างไรถึงขายดีได้ขนาดนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แบรนด์ Larobe8 ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 หรือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยคุณเบลล์-นันทิกานต์ สิงหา อดีตพิธีกรรายการสตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก ที่ค้นพบตัวเองในวัย 24 ปี ว่างานในวงการบันเทิง ไม่ใช่ตัวตนของเธอ
คุณเบลล์จึงตัดสินใจเข้าคอร์สเรียนแฟชั่นดิไซน์ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตามความชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก
จากนั้น เธอก็ลองออกแบบเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่เอง ในสไตล์ที่ชอบ นั่นคือ แฟชั่นลุคคลีน ๆ โทนสีเข้ม มีดิไซน์เรียบหรู สามารถหยิบมาใส่ได้ทุกโอกาส
ส่งผลให้คุณเบลล์ได้พลิกความชอบของตัวเองเป็นธุรกิจ เมื่อเธอสวมชุดที่ออกแบบเอง ถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย แล้วเริ่มมีคนให้ความสนใจ อยากจับจองเป็นเจ้าของ จนถึงขั้นขอให้วางขาย
เรื่องนี้จึงนำไปสู่การเปิดแบรนด์เสื้อผ้าที่เริ่มจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ในชื่อ Larobe8 นั่นเอง
หลังจากที่เปิดตัว แบรนด์ Larobe8 ก็ติดตลาดอย่างรวดเร็ว
กลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ลูกค้าใหม่ก็อยากซื้อ
ขณะที่ลูกค้าเก่าก็ยังซื้อซ้ำไม่หยุด
โดยมีสัดส่วนลูกค้าใหม่ และลูกค้าขาประจำ คือ 20:80 เลยทีเดียว
มากไปกว่านั้น ยังมีลูกค้าประจำในจีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย ไปจนถึงสหรัฐอเมริกา รวมถึงอีกหลายประเทศในทวีปยุโรป
ซึ่งคุณเบลล์ก็ได้เล่าว่า สาเหตุที่ทำให้ Larobe8 เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ มีหลายองค์ประกอบรวมกัน
อันดับแรกคือ “สินค้าคุณภาพดี ในราคาเอื้อมถึง”
เนื่องจากคุณเบลล์ยึดถือว่า คุณภาพเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ายอมจ่าย
ดังนั้น Larobe8 จึงใช้เนื้อผ้าคุณภาพสูง นำเข้าจากต่างประเทศ บวกกับฝีมือการตัดเย็บโดยช่างคนไทยที่คัดสรรมาอย่างดี แถมยังตรวจสอบความเรียบร้อยแบบชุดต่อชุด
ทำให้ชุดของแบรนด์ยังสวย แม้สวมใส่ซ้ำเป็นร้อย ๆ ครั้ง แต่อยู่ในราคาที่เอื้อมถึงได้ ตั้งแต่ 900-3,000 บาท
อย่างที่สองคือ “ความแตกต่าง”
โดยคุณเบลล์ตั้งใจดิไซน์ชุดทุกชุดให้มีเอกลักษณ์ จนไม่ว่าใครเห็น ก็จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นของแบรนด์ Larobe8
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ทุกคอลเลกชันจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทรนด์แฟชั่นในขณะนั้น แต่ดิไซน์จากแรงบันดาลใจที่อยู่รอบตัวของคุณเบลล์ล้วน ๆ
1
เช่น คอลเลกชัน “Paris” ที่เกิดจากการไปท่องเที่ยวในปารีส แล้วจินตนาการว่าถ้าได้กลับมาอีกครั้ง จะใส่ชุดแบบไหนให้เข้ากับบรรยากาศ
และที่สำคัญก็คือ แม้สไตล์ของแบรนด์จะมีความชัดเจน แต่ก็สามารถแมตช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลาย ใช้งานซ้ำได้ไม่รู้จบ คุ้มค่าที่จะซื้อสักชุด
อย่างที่สามคือ “คำนึงถึงคุณภาพ มากกว่าปริมาณการผลิต”
ยกตัวอย่าง คอลเลกชันที่ชื่อว่า “Biscuit”
ทางร้านจะเปิดให้จองสินค้าเป็นรอบ ๆ และมีจำนวนจำกัด
เนื่องจากผ้าที่ใช้ในแต่ละรอบ อาจเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม
ซึ่ง Larobe8 ก็จะทำการถ่ายแบบใหม่ทุกครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนเนื้อผ้า และมีการแจ้งรายละเอียดก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ
ที่สำคัญ คือ คอลเลกชัน Biscuit ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนขายหมด 1,500 ตัว ภายใน 3 นาที
หรือหากคิดเป็นยอดขาย ก็จะเป็นตัวเลขที่อาจสูงถึง 3.9 ล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ก็ยังมีคอลเลกชัน “Kimm” ที่ขายดีไม่แพ้กัน
โดยภายในเวลาเพียง 3 นาที ก็สามารถขายสินค้าไปได้กว่า 900 ตัว และคิดเป็นรายได้สูงถึง 2.7 ล้านบาทเลยทีเดียว
ขณะที่คอลเลกชันที่ขายดีที่สุดในร้านอย่าง “Sarah Top” และ “Mini Sarah” ก็ถูกรีสต็อกไปมากกว่า 10,000 ตัว หลังเปิดตัวไม่ถึง 2 ปี
นำมาสู่คำถามในใจของหลายคนว่า ในเมื่อสินค้ามีความต้องการมากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ผลิตเยอะ ๆ ไปเลย
ซึ่งคุณเบลล์ก็ให้คำตอบเรื่องนี้ว่า นี่แหละคือเคล็ดลับของ Larobe8
“สาเหตุที่ไม่ผลิตเยอะ เพราะต้องการงานที่ละเอียดจริง ๆ คิดว่าถ้าผลิตออกมาเยอะกว่าปกติ คุณภาพจะลดลง หรือดูแลลูกค้าได้ไม่ทั่วถึง การมีซัปพลายที่จำกัด จึงเป็นอีกกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้”
นอกจากนี้ การตลาดที่ดีที่สุดในมุมของคุณเบลล์คือ “พลังของการบอกต่อ”
โดยคุณเบลล์พบว่า ยิ่งสินค้าได้รับการรีวิวจากผู้ใช้งานจริงว่าดีมากขนาดไหน ก็ยิ่งกระตุ้นยอดขายให้คึกคักมากขึ้นเท่านั้น..
ปัจจุบัน Larobe8 ขายสินค้าทั้งใน Instagram, Lazada, Line Shopping
และวางขายสินค้าให้ลองสวมใส่ได้ที่ ร้าน SOS สาขาสยามสแควร์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเมกาบางนา
1
สำหรับเป้าหมายในอนาคต
คุณเบลล์เปิดเผยกับลงทุนเกิร์ลว่า อีก 2 ปีข้างหน้า มีแพลนที่จะเปิดหน้าร้าน Larobe8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สั่งตัดชุดตามแพตเทิร์นของร้าน แต่สามารถเลือกไซซ์, เนื้อผ้า และสีได้
เพื่อเป็นทางเลือกให้สาว ๆ ได้สวมชุดสวยได้อย่างมั่นใจในแบบของตนเอง
ยิ่งไปกว่านั้น คุณเบลล์ ยังทิ้งท้ายด้วยเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น คือ
อยากให้ Larobe8 เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ผู้หญิงทุกคนรู้จัก และเข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะแบรนด์เสื้อผ้าคนไทย ที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์เสื้อผ้าดังในต่างประเทศได้ ไม่แพ้กัน..
1
Reference:
-สัมภาษณ์พิเศษ กับคุณเบลล์-นันทิกานต์ สิงหา ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Larobe8
โฆษณา