ทุกอาชีพมีโอกาสรวยเท่าๆกันครับ เพียงแต่วิธีคิด มุมมอง วิสัยทัศน์ วิธีการบริหารจัดการ ความสามารถ ทุน โอกาส ที่แตกต่างกัน คนหนึ่งรวยเอาๆ อีกคนก็ยังยากจน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเช่น ทำไมเกษตรกรถึงยังไม่รวย ทั้งๆที่มีทรัพยากรอยู่ในมือ แต่่ทำไมพ่อค้าคนกลาง ยี่ปั้ว ซาปั้วและเจ้าสัวถึงร่ำรวยทั้งๆที่ไม่ได้มีทรัพยากรอยู่ในมือ เกษตรกรและพ่อค้าคนกลางและเจ้าสัวต่างก็ซื้อขายข้าว พืชผัก ผลไม้ อาหาร หมู เห็ด เป็ด ไก่ เนื้อ ปลา เหมือนกัน ก็คงต้องกลับมาดูวิธีคิดและกระบวนการทำงานของพ่อค้าคนกลางและเจ้าสัวครับ
ซึ่งในปัจจุบันนี้ เกษตรกรรุ่นใหม่ๆ ได้นำความรู้และวิธีการบริหารจัดการด้านต่่างๆ กลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง ปลูกเอง แปรรูปเอง สร้างแบรนด์เอง ทำการตลาดเอง มีร้านเป็นของตนเอง ตัดวงจรพ่อค้าคนกลางได้ รู้จักการใช้เทคโนโลยีต่างๆมาแทนที่การทำงานแบบเดิม อาจจะไม่ถึงกับร่ำรวยแบบเจ้าสัว แต่ก็น่าจะไปได้ดีกว่าการทำในรูปแบบเดิม เช่น ชาวสวนชา กาแฟ ชาวนา บางส่วนที่สร้างแบรนด์สินค้าของตนเองได้ ซึ่งมันก็อยู่ที่ว่าพ่อแม่จะสนับสนุนและให้โอกาสลูกๆได้เข้ามาใช้ความรู้ที่เรียนมา มาบริหารจัดการหรือเปล่า
บางอย่างต้องอาศัยประสบการณ์ของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ในการบริหารจัดการ แต่บางอย่างก็จำเป็นต้องใช้ความรู้และเทคโนโลยีของลูกๆเข้ามาบริการจัดการครับ ที่สำคัญ พ่อค้าคนกลางคิดและทำอย่างไรถึงรวย เจ้าสัวคิดและบริหารจัดการอย่างไรถึงร่ำรวยมหาศาล ต้องศึกษาและลงมือปฏิบัติครับ อีกประการคือ ประสบการณ์จะช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจนขึ้น อาชีพอื่นๆที่มิได้ยกตัวอย่างก็เช่นกันครับ มันอยู่ที่ว่าวิธีคิด มุมมอง วิสัยทัศน์ วิธีบริหารจัดการ ทุน ความสามารถและโอกาสที่แตกต่างกัน
ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีที่่ทันสมัย ช่วยให้คนทำธุรกิจเล็กๆมีโอกาสเข้ามาสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นได้ จงใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
