2 ธ.ค. 2022 เวลา 07:42 • ปรัชญา
ความจริงของสิ่งใดๆ มีได้เพียงอย่างเดียว
อะไรมันเป็นแบบไหน มันก็เป็นแบบนั้น มันจะเป็นหลายอย่างไปไม่ได้หรอก
แต่ที่คนเราเห็นต่าง เพราะ เห็นผิด
1
ถ้าศึกษาตามพุทธจะบอกว่า คนเราเกิดมาเป็นมิจฉาทิฏฐิ(เห็นผิด)เสมอ
กระบวนการฝึกฝนทางพุทธก็เพื่อให้เห็นถูกขึ้นมานั่นเอง (สัมมาทิฏฐิ)
ภาพนี้อธิบายสิ่งที่กล่าวมานี้ คนเรามีสิ่งที่ error อยู่ในตัวกันทุกคน
ทางพุทธใช้คำว่า สัญญาวิปลาส (การหมายรู้ผิด)
1
เกิดจากความไม่สมบูรณ์ของ "ความรับรู้"
คนเรามีประสาทสัมผัส 6 ส่วนในการรับรู้สิ่งต่างๆ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)
แต่ลองดูหลักสูตรการเรียนการสอน จะมีเพียง 5 ส่วน ตา หู จมูก ลิ้น กาย
มีส่วนนึงที่ขาดหายไปคือ ความรับรู้ทาง "ใจ"
เมื่อคนเรามีความรับรู้ไม่สมบูรณ์ เกิดการเห็นผิดๆ
บางคนเห็นเป็นสี่เหลี่ยม
บางคนเห็นเป็นวงกลม
จากสิ่งๆเดียวกัน
คำศัพท์ว่า "มุมมอง" ก็มาจากลักษณะนี้
เพราะมองกันคนละมุมจริงๆ
คำว่า "จุดยืน" ก็ความหมายเดียวกัน
สิ่งที่แต่ละคนเห็น อยู่ที่ จุดที่แต่ละคนยืน ว่ายืนมองจากมุมไหน
ถามว่าใครผิด ก็ไม่ผิดด้วยกันทั้งสอง
แต่ก็ไม่ถูกทั้งหมดเช่นเดียวกัน
ถูกแค่เพียงบางส่วน
หากทุกคนเข้าใจได้เช่นนี้ ก็จะรู้ว่าการจะเห็นสิ่งต่างๆได้
ต้องจัดการที่ตัวเองก่อน คือ ฝึกความรับรู้ทางใจให้ใช้เป็นเหมือน ใช้ตาหูจมูกลิ้นกาย
เมื่อความรับรู้สมบูรณ์ จะเห็นสิ่งใดๆอย่างที่มันเป็นจริงๆได้
และยังเข้าใจผู้อื่นที่ยังเห็นเพียงบางส่วนได้ด้วย
จะไม่มีการถกเถียงในเรื่องมองต่างมุมอีกเลย
คนเรายังเถียงกันก็เพราะแบบนี้
และความเข้าใจสิ่งนี้คือการแก้ปัญหาแบบยั่งยืน
1
วิธีสังเกตตัวเองว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นคือส่วนไหนของภาพ ง่ายๆ ถ้ามีคนแสดงความเห็นในสิ่งเดียวกัน แต่ต่างไปจากเรา ให้ลองหาความเชื่อมโยงของทั้งตัวเราและของผู้อื่น
ถ้าเราเชื่อมโยงไม่ได้และไม่เข้าใจด้วยว่า มุมของเขาที่เรามองไม่ออก มันจะเป็นไปได้ยังไง แสดงว่าตัวเรายังเห็นไม่หมดอาจจะเป็นด้านสี่เหลี่ยมหรือวงกลมเท่านั้น
สำหรับผู้ที่เห็นรูปทรงทั้งหมด จะสามารถอธิบายสิ่งๆนั้นได้ในหลายๆมุม มุมไหนก็เข้าใจหมด ใครพูดมุมไหนมาก็ฟังออกว่าคือมุมไหน จะเข้าใจด้วยว่าผู้อื่นยังมองไม่เห็น ก็จะไม่ถกเถียงให้เปล่าประโยชน์เลย
1
โฆษณา