2 ธ.ค. 2022 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
App Store ธุรกิจเสือนอนกินของ Apple ที่ทำเงินนับแสนล้าน โดยไม่ต้องลงแรง
รู้หรือไม่ว่า ต่อให้วันหนึ่ง Apple หยุดขาย iPhone, iPad, iMac, MacBook หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีใด ๆ ก็ตาม บริษัทจะยังคงมีรายได้เข้ามาอยู่ดี และสามารถเติบโตได้ต่อไปได้ไม่สิ้นสุด ตราบเท่าที่แอปพลิเคชันทุกรายจะล้มหายตายจากไป
นั่นเพราะว่า Apple มี App Store แพลตฟอร์มที่รวบรวมและวางจำหน่ายแอปพลิเคชัน สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS ซึ่งมีโมเดลธุรกิจสร้างรายได้ จากการกินส่วนแบ่ง 30% จากรายได้ของแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่เกิดบน App Store
หรือพูดง่าย ๆ ว่าหากแอปพลิเคชันใด มีรายได้เข้ามาผ่าน App Store เป็นจำนวน 100 บาท Apple จะได้ส่วนแบ่งไป 30 บาท
นี่จึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมหลายบริษัทถึงไม่ค่อยพอใจ Apple นัก เพราะดึงรายได้สัดส่วนไม่น้อยจากพวกเขาไป ทั้งที่ไม่ได้ลงแรงอะไรเลย นั่นเอง
🔹 ตัวอย่างบริษัทที่มีประเด็นกับ Apple ไม่ว่าจะเป็น Netflix ที่ยกเลิกการให้บริการสมัครสมาชิกผ่าน App Store มาให้เลือกสมัครผ่านแพลตฟอร์ม Netflix โดยตรงเท่านั้น
Spotify ที่กำลังเปิดศึก ไม่ยอมแบ่งรายได้ 30% ให้กับ Apple ทำให้บริษัทไม่สามารถขายหนังสือเสียงสำหรับชาว iOS ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ตัวเองต้องการจะเข้าไปสร้างรายได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง
1
และล่าสุด Meta ที่กำลังจะมีปัญหาโดนชิงรายได้ส่วนสำคัญ จากการที่ Apple จะหักค่าโฆษณาบนเพจ Facebook ต่าง ๆ แล้วด้วย
แน่นอนว่า พอ App Store มีโมเดลธุรกิจแบบนี้ เราก็คงพอคาดการณ์ได้ไม่ยากเลยว่า Apple น่าจะมีรายได้มหาศาลจากช่องทางนี้อย่างแน่นอน
โดยในปี 2564 รายได้ที่เกิดขึ้นบนแอปพลิเคชันทั้งหมดใน App Store อยู่ที่ 2,959,800 ล้านบาท ดังนั้น App Store จะมีรายได้ประมาณ 887,900 ล้านบาทเลยทีเดียว และยังคงเติบโตจากปีก่อนถึง 17%
📱 ซึ่งแอปพลิเคชัน 3 อันดับแรก ที่ทำรายได้บน App Store มากสุด มีดังนี้
1. PUBG Mobile เกมยิงปืนแนว Battle Royale 69,900 ล้านบาท
2. TikTok โซเชียลมีเดีย ที่เน้นวิดีโอขนาดสั้น 59,500 ล้านบาท
3. Honor of Kings เกมตีป้อม MOBA 57,000 ล้านบาท
จากข้อมูล เราจะเห็นได้ว่า App Store ยังมีโอกาสที่เติบโตได้อีกเรื่อย ๆ เพราะแอปพลิเคชันเหล่านี้ก็ดูจะยังได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งจำนวนผู้ใช้งานและเม็ดเงินที่ลงไปในแอปพลิเคชันนั้น ๆ
โดยเฉพาะ TikTok ที่มีผู้ใช้งานแตะ 1,000 ล้านบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะมุ่งไปสู่การให้บริการช็อปปิ้งผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองด้วย
ปิดท้ายด้วยเรื่องน่ารู้อีกเรื่อง แม้ว่าปี 2551 หรือปีแรกที่มี App Store ภายในแพลตฟอร์มจะมีแอปพลิเคชันเพียง 500 แอปเท่านั้น แต่ผ่านไป 14 ปี App Store มีแอปพลิเคชันถึง 2.2 ล้านแอปแล้ว
📌 สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจหุ้น AAPL (Apple) สามารถกดซื้อบนแอป Dime! ได้เลย โดยมีเงินเพียง 50 บาทก็ลงทุนได้ และหากเปิดบัญชีภายในปี 2565 ฟรีค่าคอมมิชชันทุกรายการซื้อขายถึง 30 มิ.ย. 66 ไปเลย และ Dime! ยังใจดีมอบรางวัล Dime! Lucky สูงสุดอีก 1,000 บาท* เพียงชวนเพื่อนเปิดบัญชีกับ Dime! ยิ่งชวนมาก ยิ่งได้มากครับ
อ่านกติกาเพิ่มเติม : https://dime.co.th/th/articles/spread-the-dime-love
โหลดแอปได้เลยที่ 👉 https://dimekkp.onelink.me/sq7H/pya1dxrd
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำด้านการลงทุน บทวิเคราะห์ หรือการเสนอขายแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
◤ = = = = = = = = = = = = = = =
"เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน"
= = = = = = = = = = = = = = =  ◢
Dime! ครบเครื่องเรื่องการเงิน แอปพลิเคชันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! และแนะนำบัญชีเงินฝากของธนาคารเกียรตินาคินภัทร
ติดตามเราหรือศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://linktr.ee/dime.finance
โฆษณา