UX คือหน่วยงานที่สำคัญมากในอันดับต้นๆของธุรกิจแต่องค์กรธุรกิจของคนไทบกลับไม่รู้จัก ทั้งที่ทำให้เกิดความแตกต่างของอัตราการเติบโตของธุรกิจได้อย่างชัดเจน
Source: Neil Patel
หลายครั้งก็เป็นที่น่าสงสัยว่าทำองค์กรธุรกิจของชาวตะวันตกอเมริกาหรือแม้แต่ในเอเชียอย่างประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและจีน มีอัตราการเติบโตที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทในประเทศไทยมีน้อยมากๆที่จะสามารถทำได้ ทั้งที่การทำธุรกิจก็ไม่ได้จะเสียบเปรียบหรือได้เปรียบแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญสักเท่าไหร่
ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างเกิดมาจากหน่วยงานที่ชื่อว่า UX หรือ User experience ที่บางครั้งอาจจะเรียกว่า UX designer
สิ่งที่ทำให้ผู้บริหารหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับหน่วยงานนี้ก็เพราะเข้าใจไปว่า เป็นหน่วนงานที่มาออกแบบสื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้ง Website, Application หรือ Online Medias ภาพรวมก็คือคนไทยไม่เข้าใจว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากหน่วยงานนี้นั่นเอง
การมองข้ามหรือมองไม่เห็นคุณค่าของหน่วยงานนี้ ทำให้เกิดการสูญเสียโอกาสมากมายในธุรกิจ บางครั้งร้ายแรงถึงขั้นต้องปิดกิจการไปเลย
Source: Tuemaster
UX หรือ User experience ก็คือประสบการณ์ของผู้ใช้ คนส่วนมากมักสับสนกับ UI หรือ User Interface ที่หมายถึงหน้าตาที่ลูกค้าเห็น
ยกตัวอย่างเช่น การอออกแบบแผนผังกการเดินรถของรถไฟฟ้า สิ่งที่ต้องทำก็คือ การใช้สี การออกแบบสัญลักษณ์(Logo) การแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของตราสินค้า ภาพรวมทั้งหมดคือสิ่งที่ลูกค้าเห็น ซึ่งเป็นหน้าที่ของส่วนงาน UI
ความแตกต่างของ UX ก็คือ สิ่งที่ลูกค้าเห็นจะถูกนำไว้วางไว้บริเวณใด ในขณะที่มีข้อมูลที่จำนวนมาก การนำเสนอข้อมูลให้มากที่สุดก็จะเป็นการทำให้ลูกค้าได้มีข้อมูลในการตัดสินใจ
Source: PRUXUS
แต่ความเป็นจริงแล้วหากเราเป็นผู้โดยสาร แล้วเราเห็นข้อมูลจำนวนมากที่มีการระบุละเอียดจำนวนมากอยู่เบื้องหน้า เราจะรู้สึกอย่างไร ภาพที่ออกมาก็คงต้องยืนดูแบบงงๆว่าจะดูตรงไหนก่อน อะไรจำเป็นอะไรไม่จำเป็น ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารคนอื่นๆที่ต้องต่อแถวรออ่านข้อมูลไปด้วย กลายเป็นเกิดความแออัดเบียดเสียดยัดเยียด
แต่การดำเนินการจริงๆแทบไม่มีผู้โดยสารคนไหนมาอ่านรายละเอียดกันอยู่แล้ว สิ่งที่หน่วยงานที่ชื่อว่า UX ทำก็คือ วินาทีที่ผู้โดยสารออกจากรถไฟฟ้า ก็จะเห็นป้ายบอกทางว่าต้องไปทางไหน หรืออาจจะบอกเพียงว่าบันไดเลื่อนอยู่ทางซ้ายหรือขวา เพื่อที่จะนำทางให้ผู้โดยสารไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้
ที่มา Tasty Thailand
ระหว่างที่อยู่บนบันไดเลื่อนผู้โดยสารก็จะมองเห็นป้ายบอกทางว่าจะต้องไปทางไหนต่อ จะไปทางซ้ายหรือไปทางขวา นี่คือการใส่ใจในรายละเอียด
ธุรกิจที่ต้องใช้ UX มากเป็นพิเศษก็คือธุรกิจเทคโนโลยี อย่างเช่นการใช้ Application ที่ผู้ใช้เข้าไปใช้งาน ภายใน 3-5 วินาทีหากหาปุ่มที่ใช้งานไม่เจอผู้ใช้งานก็จะเริ่มหงุดหงิด จนเลิกใช้ในที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีการแนะนำวิธีการใช้งานให้แล้วก็ตาม
แต่แกนของ UX ก็คืออย่าปล่อยให้ผู้ใช้งานได้มีเวลาคิด ถ้าผู้ใช้งานหรือลูกค้ากำลังคิดว่าต้องทำอะไร นั่นก็แสดงว่าการออกแบบไม่ดีพอ
Source: Usability Geek
ตัวอย่างที่เรามักเห็นได้เป็นประจำก็คือ การเข้าใช้งาน Google ที่คนส่วนมากไม่ได้สังเกตเห็นปุ่ม Feedback และอีกหลากหลายปุ่ม ทั้งรูปแบบการใช้งานอีกมากมายมาย ทั้งหมดอยู่ในหน้าแรกที่เข้าใช้งานทั้งหมด แต่เราอาจจะไม่เคยเห็น นั่นก็เพราะว่า Google ไม่ได้ต้องการให้เห็นตลอด แต่ให้เห็นในช่วงเวลาที่เราต้องการใช้
กรณีตัวอย่างที่ลูกค้าเดินไปที่ประตูทางเข้าของบริษัทหรือร้านค้าที่จะเข้าไปใช้บริการ พบว่าประตูถูกออกแบบให้มีลูกบิดแต่แท้ที่จริงแล้วเป็นการออกแบบเพื่อให้เลื่อนประตูไปด้านซ้าย ลูกค้าจะรู้สึกอย่างไรกับการใช้งานที่ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เคยรับรู้มาก่อน โดยมากแล้วก็หงุดหงิดแล้วไม่เข้าไปข้างในหรือเข้าไปแบบรู้สึกไม่พอใจ
Source: ProductPlan
ผู้บริหารที่ไม่เข้าใจเรื่อง UX: User experience มีโอกาสสูงมากที่จะสูญเสียเงินจำนวนมากในการสร้างการรับรู้ของลูกค้าจากการทำการสื่อสารการตลาด แต่ลูกค้ามีประสบการณ์ไม่ดีกับขบวนการที่ทำเสนอ จึงทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใช้งบประมาณน้อยกว่าแต่สามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าและมีจำนวนยอดขายมากกว่า
UX จึงคือคำตอบว่ามีความสำคัญต่อองค์กรธุรกิจขนาด
ที่มา:
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
