5 ธ.ค. 2022 เวลา 03:59 • ความคิดเห็น
แค่เรื่องฝนตกไม่ทั่วฟ้า ก็สามารถให้บทเรียนกับเราได้....
16.00น. ของวันเลิกงานวันหนึ่งใน กทม ฝนเริ่มตกแล้วตั้งแต่ออกจากที่ทำงาน จนหนักขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างที่ผมกำลังขับรถกลับบ้านจากถนนพระราม 6 ไปเส้นวิภาวดี ผมได้ขับไปทางแยกประดิพัทธ์ และใช้ถนนของสถานีกลางบางซื่อเป็นทางเลี่ยงถนนใหญ่ ฝนตกหนักแบบที่ว่ารถมอไซไม่สามารถขับขี่ได้ จึงต้องพักอยู่ใต้ถนนด้านบน หรือใต้ถนนทางด่วน แต่บางคันก็ไม่สนใจว่าจะเปียกหรือไม่สบาย เค้าก็ยืนยันจะขับต่อไปเพื่อให้ถึงที่หมายโดยเร็ว
ปรากฏว่าขับไปสักพัก จากถนนที่แฉะไปด้วยน้ำ กลายเป็นว่าสภาพอากาศนิ่งมาก มีแค่ฟ้าที่ครึ้มนิดหน่อยแต่ไม่มีฝน ถนนมีแค่รอยเปียกของรถที่ฝ่าฝนมา พื้นที่นี่แห้งสนิท .....
สิ่งที่จะกล่าวต่อไปจากเรื่องนี้คือ การที่คนขับมอไซหยุดรถรอฝนหยุดตก กับคนที่ขับฝ่าฝนไปอีกนิดก็ไม่มีฝนแล้ว มันเหมือนการที่เราทำพยายามทำอะไรแล้วทำให้สำเร็จ ไม่สนใจว่าจะมีอุปสรรคใดมาขวางกั้น จนสุดท้ายก็ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือการจะทำอะไรบางอย่างแล้วเกิดความกลัวขึ้นมา จึงหยุดที่จะทำแล้วรอให้เหตุการณ์คลี่คลาย แต่บางทีเวลาที่เราเสียไปก็อาจจะทำอะไรไม่ทันการเสียแล้ว
จริงๆก็รู้สึกว่าถ้าตัวเองเป็นคนขับมอไซแล้วหยุดรอเป็นครึ่งชม 1 ชม แล้วขับไปอีกนิดพบว่าไม่มีฝนแล้ว มันก็น่าหงุดหงิดจริงๆละฮะ แx่งเอ๊ยยยย
โฆษณา