Three Thousand Years of Longing ปาฏิหาริย์ตะเกียงวิเศษ 3,000 ปี
นานแล้วไม่ได้รีวิวภาพยนตร์ แต่ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นงานนอกสายตาของคนทั่วไป เป็นงานที่ปล่อยตัวหนังมันเล่า แล้วเราเป็นคนฟังอย่างเดียวพอ แต่คนที่ไม่ชอบหนังสไตล์เล่าเรื่องอาจจะหลับตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เลย เป็นหนังรักแฟนตาซี ที่มันแฟนตาซีจริง ๆ
เรื่องนี้จะเป็นนิทานซ้อนนิทานที่ถ้าหากคุณเคยได้ยินเรื่องพวกนี้มานิด ๆ หน่อย ๆ จะเข้าใจได้ไม่ยาก แล้วยิ่งถ้ารู้รายละเอียดบางส่วนมากก่อนจะยิ่งนึกภาพได้ชัดขึ้น
เรื่องเริ่มต้นจาก ดร.อลิเทีย บินนี่ผู้มีอาชีพเป็นนักเล่าเรื่อง บินสู่อิสตันบูลเพื่อไปขึ้นเวทีสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องเล่า ทันทีที่ลงจากเครื่องบินเธอก็พบอะไรแปลก ๆ ขณะที่ยืนอยู่บนเวทีสัมมนาก็ได้พบเห็นอะไรที่คนไม่เห็นจนเป็นลมบนเวที แต่หลังจากแก้ไขสถานการณ์เธอก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทางเพื่อนที่เชิญมางานสัมมนาก็บอกว่าจะพาไปซื้อของที่ระลึกให้ แต่สิ่งที่เธอติดใจกลับเป็นของที่ระทึกขวดแก้วเป่าสีฟ้าสลับขาว ก่อนจะพบว่าเมื่อนำมันมาขัดล้างแล้วภายในกลับได้เจอจินนี่ (Djinn) อยู่ภายใน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ แล้วทั้งหนังเกือบทั้งเรื่องก็ดำเนินไปภายในห้องพักโรงแรมห้องนั้นเอง โดยที่จินนี่ (พระเอก) จะพยายามย้ำว่าให้อลิเทียขอพร 3 ข้อ แต่อลิเทียก็จะปฏิเสธว่าเธอไม่มีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษเลย
ดังนั้นนางเอกจะคอยตั้งคำถามโน่นนี่นั่น แบบที่ถ้าเรา ๆ ที่เคยอ่านเรื่องอะลาดินมา อ่านเรื่องเกี่ยวกับอาหรับราตรีที่มีตะเกียงวิเศษมาตลอด ก็มักจะเคยสงสัยไม่แพ้อลิเทียแน่ อย่างทำไมถึงมาอยู่ในขวด ถ้าจินนี่เป็นคนไม่ดีละ ถ้าคนขอพรเป็นคนไม่ดีละ แล้วถ้าขอพรไม่ครบสามข้อละ จะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเรื่องราวซึ่งดำเนินมากว่าสามพันปีที่จินนี่ผู้ช้ำรักประสบพบเจอมาก็จะค่อย ๆ ถูกเล่าออกมา โดยมีการเล่าสลับกับอลิเทียเป็นบางครั้ง
เริ่มต้นจากเหตุใดจินนี่ถึงมาถูกขังอยู่ในขวด เดิมทีเขาเป็นญาติทางมารดาของพระนางชีบา แต่ด้วยความที่กษัตริย์โซโลมอนต้องการมาล่อลวงนาง ก็เลยกำจัดเขาที่เป็นตัวขวางทางด้วยการจับขังในขวด จินนี่ก็จะเล่าว่าเวลาที่อยู่ในขวดเขาทำอะไรบ้างทุกข์ทรมานเพียงใด
ถ้าหากขอพรไม่ครบสามข้อจะเกิดอะไรขึ้น นั่นเป็นเรื่องราวของทาสหญิงที่เปิดขวดของจินนี่ออกซึ่งช่วงนี้จะเป็นยุคของสุไลมาน มีการกล่าวถึง ฮูร์เร็ม ถ้าใครเคยอ่านหัวใจในกรงทองจะคุ้นเคยกันดี และโศกนาฎกรรมของอดีตนางทาสและจินนี่ จากนั้นก็เป็นช่วงที่จินนี่พยายามส่งเสียงเรียกคนให้มาหาขวดที่ถูกซ่อนไว้ให้พบ
ซึ่งกินเวลานานมากกว่าจะไปอยู่ในมือของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาคนที่สามของเศรษฐี ซึ่งมีความฝันที่จะครอบครองสรรพความรู้แต่ในขณะเดียวกันก็มีความย้อนแย้งในตัวเองตรง นางอยากให้คนรู้ว่านางคิดค้นประดิษฐ์ แก้สมการได้ นางขอพรให้ตัวเองมีความรู้ แต่กลับไม่ขอพรให้ตัวเองมีอิสระจากที่ต้องมาเป็นนกในกรง...อืม
ซึ่งพอเล่าไปเล่ามา ด้วยความเหงา โดดเดี่ยว จินนี่ยามอยู่ใกล้เจ้านายหญิงแต่ละคนก็ดูจะมีความพึงพอใจรวมถึงความคิดอยากจะครอบครอง (Possession) อยู่แต่ก็นกทุกราย ส่วนอลิเทียเธอก็อยากช่วยจินนี่ปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระโดยที่เขาไม่ต้องใช้พลังวิเศษของตัวเอง แต่จินนี่ก็บอกว่าที่อลิเทียขอมันไม่ต้องตามเงื่อนไข เพราะไม่ใช่ความปรารถนาจากใจ แล้วพรแบบไหนถึงจะตรงตามเงื่อนไข ไม่ทำร้ายจินนี่ และเป็นความปรารถนาของนางเอกกันล่ะ?
เห็นแวบ ๆ ใน End credit ว่าอิงจาก The Djinn in the Nightingale's Eye ของ A.S. Byatt ด้วยก็ร้องอ้อ เบา ๆ มิน่าละ มันมีกลิ่นอายอยู่เราซึ่งเคยอ่าน Possession (ชื่อไทย นิยายรักข้ามศตวรรษ) มาเรื่องเดียวของนักเขียนคนนี้ ซึ่งเขาก็มีลายเซ็นตัวเองจริง ๆ นั่นแหละ แต่อย่าไปดูภาพยนตร์เชียวมันตัดทอนไปมากเลย
ถ้าคนชอบแนวเรื่องเล่าไปเรื่อย ๆ จบฟีลกู๊ด บอกคำตอบที่ปกติไม่ค่อยมีใครพูดถึง (ในฝั่งตะวันตก) แต่ถ้าคนอ่านการ์ตูน มันโดนเอามาแซวไปหมดแล้ว แต่ก็แปลกใหม่ดีในมุมที่เลือกมาเล่า ปกติเราจะได้ฟังเรื่องราวคนขอพร แต่ไม่ค่อยได้ฟังเรื่องราวความรู้สึกฝั่งจินนี่เท่าไร ถือว่าเป็นเรื่องที่โอเคเลย แถมรอบที่ไปดูเป็นรอบโปรโมชันตั๋ว 59 บาทเอง วันอื่นราคาปกติแล้ว
Credit ภาพ จากตัวอย่างหนัง
#ThreeThousandYearsOfLonging #Miran_LichtReview
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
