เปิดประวัติ ซุปตาร์ป๋าพันปี“เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์”
ธงไชย แมคอินไตย์ เกิดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ที่ย่านสลัมบางแค(เดิมเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอภาษีเจริญหรือเขตภาษีเจริญในปัจจุบัน) ฝั่งธนบุรี จังหวัดธนบุรี มีชื่อภาษาอังกฤษว่า"อัลเบิร์ต แมคอินไตย์"(Albert McIntyre) หรือเรียกชื่อเล่นว่า"เบิร์ด"
เป็นบุตรคนที่ 9 ในจำนวนพี่น้อง 10 คน ของเจมส์(จิมมี่) แมคอินไตย์ แพทย์ทหาร ลูกครึ่งสกอต-มอญ และอุดม แมคอินไตย์ ในวัยเด็กครอบครัวเขามีฐานะยากจน จึงช่วยเหลือครอบครัวด้วยการช่วยพับถุง ขายเรียงเบอร์ เก็บกระป๋องนมขาย และเย็บงอบ เป็นต้น และยังหารายได้จากการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กที่สลัมบางแคซึ่งมีรายได้ 5 ถึง 10 บาท แล้วแต่จะบริจาค
ด้านการศึกษา เบิร์ดเข้าเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดนิมมานรดี ระหว่างนั้นก็รับเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือครูในกิจกรรมร้องรำทำเพลงต่าง ๆ เสมอ และเป็นคนร่าเริง กล้าแสดงออก ต่อมา ศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนปัญญาวรคุณ เขาสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) สาขาการจัดการ ที่วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี
ทั้งนี้ภายหลังจากเขาเข้าวงการบันเทิง และประสบความสำเร็จ เขาได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ 2 ครั้ง จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้แก่ ปริญญากิตติมศักดิ์ คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์ และ ปริญญาศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์(ดนตรีคีตศิลป์สากลศึกษา)
ด้านหน้าที่การงาน เบิร์ดเข้าทำงานอยู่แผนกต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ ขณะเดียวกันเขายังทำงานเสริมอื่นๆ เช่น ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา รวมถึงเป็นพนักงานเปิดประตูในดิสโก้เธคชื่อ ฟามิงโก ในโรงแรมแอมบาสเดอร์ และที่นั่นเขาพบกับ ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา ผู้จัดละครซึ่งเป็นแขกของโรงแรม เขาร้องเต้นสร้างความบันเทิงให้กับแขก ไก่จึงชักชวนให้มาเล่นละครเรื่องแรกในชีวิต น้ำตาลไหม้ ในปี พ.ศ. 2526 โดยมีอดุลย์ ดุลยรัตน์เป็นผู้ช่วยสอน
ละครเรื่องนี้ เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยมรางวัลเมขลา ส่งผลให้ชื่อของเบิร์ดเป็นที่รู้จัก และมีการกล่าวขานในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่มีความสามารถ ต่อมาเขาได้ร่วมงานละครเวทีกับครูเล็ก-ภัทราวดี มีชูธน หนึ่งในนั้นคือคอนเสิร์ตคืนหนึ่งกับภัทราวดี เมื่อ ปี พ.ศ. 2527 และในปีเดียวกัน เขาแสดงภาพยนตร์เรื่อง บ้านสีดอกรัก ในช่วงเวลานั้น เบิร์ดได้สมัครประกวดร้องเพลงเวทีสยามกลการ ครั้งนั้นเขาได้รับรางวัลในการประกวด 3 รางวัล รวมรางวัลนักร้องดีเด่นประเภทเพลงไทยสากลจากเพลง"ชีวิตละคร"
ทำให้ได้เซ็นสัญญากับสยามกลการ ต่อมา เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ ผู้ก่อตั้งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่เห็นพรสวรรค์ของธงไชยได้เข้าพบคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช อดีตประธานสยามกลการ เพื่อเจรจาขอดึงตัวมาเป็นศิลปินของแกรมมี่ เป็นจุดเริ่มต้นอาชีพนักร้องของเจ้าตัวในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
เบิร์ดมีผลงานเพลงอัลบั้มแรกในปี พ.ศ. 2529 ชื่อชุด หาดทราย สายลม สองเรา ซึ่งจัดให้เป็นอัลบั้มของศิลปินชายที่ดีที่สุดแห่งปี โดยเป็นศิลปินชายที่มียอดจำหน่าย 5 แสนตลับคนแรกของแกรมมี่ โดยเพลง"ผ่านมา ผ่านไป" เป็นเพลงแรกที่เขาเข้าบันทึกเสียง แต่เพลงที่ได้รับเผยแพร่คือ"ด้วยรักและผูกพัน", "ฝากฟ้าทะเลฝัน" และ"บันทึกหน้าสุดท้าย" เป็นต้น
ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง จากความสำเร็จของอัลบั้มดังกล่าวได้มีการนำเพลงดังในอัลบั้มไปใช้ประกอบในภาพยนตร์ ด้วยรักและผูกพัน ที่ถ่ายทำในต่างประเทศ จากความสำเร็จเหล่านี้ ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อก้าวสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว โดยเบิร์ดยังรับหน้าที่เป็นพิธีกร 7 สี คอนเสิร์ต อีกด้วย
ปี พ.ศ. 2530 สบาย สบาย อัลบั้มชุดที่ 2 ของเบิร์ดวางแผง ซึ่งต้นสังกัดจัดให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี โดยมีเพลงดัง เช่น เพลง"สบาย สบาย", "เหมือนเป็นคนอื่น" และ "ฝากใจไว้" โดยเพลง"สบาย สบาย" ที่ทำให้เขาดังข้ามประเทศมีการนำลิขสิทธิ์เพลงไปแปลงหลายภาษาเช่น ภาษาจีน ภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น และในปีดังกล่าวเขาได้รับรางวัลศิลปินดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ(สยช.)
เพลง"สบาย สบาย" นี้ยังมีการนำไปใช้ประกอบภาพยนตร์ที่เขาแสดงนำเรื่อง หลังคาแดง และได้รับรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ(สุพรรณหงส์ทองคำ) ในช่วงกลางปี พ.ศ. 2530 และปลายปี เขาออกอัลบั้ม รับขวัญวันใหม่ โดยมีเพลงเด่นคือ"หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ" และ"ขอบใจจริงๆ" เป็นต้น
เบิร์ดรับบทพระเอกในละคร คู่กรรม โดยมีกวาง-กมลชนก เขมะโยธิน(สกุลเดิม โกมลฐิติ) ร่วมแสดงเป็นนางเอก
ถือเป็นละครฉบับที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอันดับ 1 ของไทยตลอดกาล ด้วยเรตติง 40 ละครเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลใหญ่ 2 รางวัล คือ รางวัลนักแสดงนำชายดีเด่น จากงานประกาศผลรางวัลเมขลา ครั้งที่ 10 และรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 5 ทำให้เกิดกระแสเบิร์ดฟีเวอร์ขึ้นมา
ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2538 เบิร์ดจะกลับมารับบทบาท โกโบริ อีกครั้งในภาพยนตร์คู่กรรม สร้างสถิติภาพยนตร์ที่มีผู้เข้าชมสูงสุดใน 3 วันแรกของการเปิดตัวในยุคนั้น ครั้งนั้นประกบนางเอก คือ อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน(น้องสาวของอ่ำ-อัมรินทร์ นิติพน)
ในปีเดียวกัน เจ้าตัวได้ออกอัลบั้ม บูมเมอแรง ซึ่งต้นสังกัดจัดให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี และเป็นลำดับ 3 ของอัลบั้มที่ดีที่สุดของทศวรรษ โดยเป็นศิลปินคนแรกของแกรมมี่ที่มียอดจำหน่ายเกิน 2 ล้านตลับ ซึ่งยอดจำหน่ายรวมได้ถึงสองล้านปลาย โดยมียอดจำหน่ายเกินล้านตลับภายใน 6 สัปดาห์
ปี พ.ศ. 2534 อัลบั้มชุดที่ 6“พริกขี้หนู” มียอดจำหน่ายเกินล้านตลับภายใน 50 วัน และยอดจำหน่ายรวมมากกว่า 3.5 ล้านตลับ สูงที่สุดแห่งยุค 90 นอกจากนี้ยังมีอัลบั้ม ธงไชยเซอร์วิส สไมล์คลับ ชุดรับแขก ที่กระแสตอบรับดี ล่าสุด เจ้าตัวได้ออกอัลบั้ม ธงไชย 22
ด้านชีวิตส่วนตัว แม้ว่าเบิร์ดจะไม่เคยแต่งงาน แต่เป็นคนตั้งใจทำงาน ตรงต่อเวลา มองโลกในแง่ดี และหมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยเขาเคยกล่าวว่า“ความสุขของเขาอยู่ที่งาน ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง หรือการโชว์คอนเสิร์ต” อย่างไรก็ตาม การได้รับคำวิจารณ์จากสื่อทั้งในแง่บวก และลบ ตั้งแต่เข้าวงการ จนมีชื่อเสียง ทำให้เขาพยายามเก็บตัวเงียบ
เรื่องดังกล่าว ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ผู้บริหารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เคยกล่าวว่า"เขากลายเป็นคนสาธารณะแล้ว เขาไม่มีชีวิตส่วนตัว การประพฤติปฏิบัติตัวของเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อได้ทั้งในแง่บวกและลบเสมอ ซึ่งในแง่ลบตัวเองพอจะทนได้ แต่เป็นห่วงแม่ เพราะแม่จะกังวล สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเก็บตัวเงียบ เงียบเพื่อไม่ให้เป็นข่าวใดๆ เลย"
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
