เช็คเงื่อนไข 5 ประเทศในเอเชีย ให้ต่างชาติเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้
1. มาเลเซีย
- ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านและห้องชุดที่มีราคา 8-16 ล้านบาทขึ้นไป (1-2 ล้านริงกิต) ต้องเสียค่าโอนประมาณ 3-4% ต้องเสียภาษี 4% เมื่อต้องการขายต่อใน 5 ปีแรก และต้องเสียภาษีกำไรในอัตรา 30% ของกำไร
- กรณีต่างชาติจะซื้อที่ดิน ต้องได้รับการพิจารณาเป็นรายๆ ไป
- อสังหาริมทรัพย์ที่ชาวต่างชาติไม่สามารถซื้อได้คือ "อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมรดก" หรืออสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ในยุคอาณานิคม
- ชาวต่างชาติสามารถขอที่พักอาศัยในมาเลเซียได้ โดยการลงทุนผ่าน My Second Home Program (MM2H) ซึ่งช่วยให้ชาวต่างชาติได้รับวีซ่า 10 ปี โดยฝากเงินประมาณ 70,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 2.7 ล้านบาท) และเก็บไว้ในธนาคาร ห้ามถอน
2. เกาหลีใต้
- ที่เกาะเชจู เขตปกครองพิเศษ อนุญาตให้ทุกคนเข้าชมได้ โดยไม่ต้องมีวีซ่า มีใบอนุญาตผู้พำนักสำหรับนักลงทุนทุกคนที่ต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่าประมาณ 430,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งใบอนุญาตผู้พำนักดังกล่าวสามารถนำไปสู่การถือสัญชาติเกาหลีได้
- แต่ไม่อนุญาตให้ซื้อที่ดินในเขตสงวน พื้นที่ทหาร เขตคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรม และเขตสงวนทางธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อระบบนิเวศ
3. ไต้หวัน
- การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไต้หวัน ไม่ได้ให้สิทธิ์ชาวต่างชาติในการพักอาศัยที่นั่นโดยอัตโนมัติ
- ก่อนหน้านี้มีโปรแกรมการอยู่อาศัยสำหรับนักลงทุนบางรูปแบบสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ชาวต่างชาติจะต้องผ่านช่องทางการย้ายถิ่นฐานปกติ เพื่ออาศัยอยู่ในไต้หวันอย่างถาวร
- ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านหรือที่ดินที่ยังไม่พัฒนาในไต้หวันได้
- อสังหาริมทรัพย์ในไต้หวันมีราคาสูงมาก
- ในขณะที่อัตราผลตอบแทนค่าเช่าเต็มที่แล้วจะอยู่ที่ 1.5% ทำให้ชาวไต้หวันเองก็มองหาบ้านหลังที่สองในประเทศอื่นๆ เช่นกัน
4. ญี่ปุ่น
- ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อได้
- ชาวต่างชาติจึงสามารถเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในชื่อตนเองได้ ภายใต้กระบวนการซื้อที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่
- นโยบายการเข้าเมืองของญี่ปุ่นมีข้อจำกัด และการเป็นเจ้าของที่ดินในประเทศไม่ได้ให้สิทธิในการอาศัยอยู่ เพราะจะต้องมีงานทำ มีธุรกิจ หรือมีวีซ่าประเภทอื่นๆ เพื่อใช้ชีวิตในญี่ปุ่นแบบเต็มเวลา
5. สิงคโปร์
- ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของคอนโด บ้าน และที่ดินได้ตามกฎหมาย
- สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ง่ายที่สุดในเอเชียในการซื้อคอนโด
- แม้ว่าชาวต่างชาติจะได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของบ้านหรือที่ดินได้ แต่การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์อาจเป็นเรื่องยากและมีราคาแพงอย่างเหลือเชื่อ
- การที่คนต่างชาติจะถือครองที่ดิน ต้องได้รับอนุญาตจากทางราชการก่อน
- การอนุมัติดังกล่าวต้องมีการซื้อจำนวนมาก (คิดมูลค่าที่ดินมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์) และพิสูจน์ว่าการซื้อดังกล่าว “เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของสิงคโปร์” ซึ่งต้องผ่านการตีความโดยละเอียดจากภาครัฐ
- ตลาดที่อยู่อาศัยของสิงคโปร์ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่แพงที่สุดในโลก และการเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรที่นี่เป็นเรื่องยาก
การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านและที่ดินได้ เป็นกลยุทธ์สำคัญของหลายประเทศ เพื่อดึงดูดการลงทุนของต่างชาติ แต่การกำหนดเงื่อนไขและมาตรการกำกับดูแลอย่างเหมาะสม ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อป้องกันปัญหาทางสังคมและความมั่นคงของประเทศ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
