10 ธ.ค. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
ทำไมบางบริษัท ถึงกู้ยืมเงิน ทั้งที่มีเงินสด
1
นักลงทุนส่วนใหญ่มักมีความเชื่อว่า หากบริษัทไหน ถือเงินสดอยู่ในปริมาณมาก บริษัทนั้นมักจะเป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง และไม่จำเป็นต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อลงทุน
3
แต่บางบริษัท กลับคิดต่างออกไป
โดยมีการกู้ยืมเงินและยอมเสียดอกเบี้ย ทั้ง ๆ ที่มีเงินสดอยู่ในมือจำนวนมาก
1
บริษัทเหล่านั้นคิดอะไรอยู่ ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
จริง ๆ แล้วแต่ละบริษัท ต่างก็มีจุดประสงค์ในการกู้ยืมเงินที่แตกต่างกัน บ้างก็เพื่อจ่ายหนี้ บ้างก็เพื่อเสริมสภาพคล่อง หรือเพื่อการลงทุน
2
ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่หากมีเงินสดอยู่ ก็มักที่จะหลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงิน เพราะจะมีภาระดอกเบี้ยตามมา
2
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกรณีที่บริษัทเลือกที่จะกู้ยืมเงิน ทั้ง ๆ ที่ถือเงินสดอยู่ในปริมาณมากอยู่แล้ว
โดยเหตุผลหลัก ๆ ได้แก่
- ต้องกันเงินสำรองไว้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง
- อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
- ต้นทุนการเคลื่อนย้ายเงิน ที่ค่อนข้างสูง
12
ต้องบอกว่า แต่ละบริษัทต่างก็มีรูปแบบการประกอบธุรกิจ ที่ไม่เหมือนกัน
1
บางธุรกิจ มีความจำเป็นที่จะต้องสำรองเงินไว้เป็นจำนวนมาก เช่น ธนาคารหรือบริษัทประกัน ที่ต้องมีการกันเงินไว้เผื่อลูกค้ามาขอถอนเงิน หรือเคลมประกัน
3
นอกจากนั้น บริษัทก็จะต้องสำรองเงินไว้ เพื่อเป็นต้นทุนในการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าวัตถุดิบ
4
ในขณะที่บางบริษัท ก็รับเงินสดจากลูกค้ามาก่อน แต่เงินที่รับมา ไม่สามารถนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ เพราะเป็นเงินที่มีภาระผูกพันที่ต้องขายสินค้า หรือให้บริการในอนาคต เช่น สายการบิน โดยเงินเหล่านั้นก็ต้องกันไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในอนาคต
ทำให้เมื่อระดับเงินสำรองไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน หรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2
บริษัทจึงจำเป็นต้องหาเงินมาเติมเข้าระบบ ซึ่งนอกจากการหารายได้เพิ่มแล้ว การกู้ยืมเงิน ก็คือตัวเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาเช่นกัน
ประเด็นต่อมาคือ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยนโยบายของแต่ละประเทศลดต่ำลงอย่างมาก จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในแต่ละประเทศ
4
ทำให้บางบริษัท เลือกที่จะกู้เงินในช่วงเวลานี้ เพราะจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ
1
ยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจกรณีหนึ่ง คือ บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ซึ่งถือเงินสดอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยในปี 2021 ที่ผ่านมา Apple มีเงินสดในมือ เป็นมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งมากถึงขนาดสามารถซื้อกิจการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในไทยได้ทั้งบริษัท
3
แต่ Apple ก็ยังมีการกู้เงินจากภายนอกมาโดยตลอด
และมีภาระจ่ายดอกเบี้ยกว่า 94,000 ล้านบาทต่อปี
แล้วทำไม Apple ถึงต้องกู้เงิน ทั้ง ๆ ที่มีเงินสดเยอะ ?
ต้องบอกว่าสินค้าของ Apple นั้น ถูกส่งไปขายทั่วโลก
ซึ่งเกือบ 60% นั้น มาจากนอกประเทศสหรัฐอเมริกา
การที่จะนำเงินกลับประเทศนั้น จะถูกคิดภาษีในอัตราที่ค่อนข้างสูงถึง 21% Apple จึงเลือกที่จะกู้เงิน มาดำเนินธุรกิจแทน
2
ด้วยเครดิตที่ดีของ Apple และอัตราดอกเบี้ย ที่ค่อนข้างต่ำในเวลานั้น
1
ทำให้ Apple ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ โดยเฉลี่ยเพียง 2.15% เท่านั้น
1
จะเห็นว่า การเลือกกู้เงิน แทนการนำเงินกลับประเทศ ทำให้ Apple ประหยัดค่าภาษีไปได้อย่างมาก
เพราะนอกจากจะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ซ้ำซ้อนแล้ว ดอกเบี้ยเงินกู้ ยังสามารถนำไปคำนวณเป็นรายจ่ายทางบัญชี และช่วยให้บริษัทจ่ายภาษีน้อยลงไปได้อีก
โดยเงินในต่างประเทศ Apple ก็ได้นำไปลงทุนต่อทั้งในหุ้นหรือตราสารหนี้ต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทน ชดเชยดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ซึ่งนับเป็นการกระจายความเสี่ยงได้อีกช่องทางหนึ่ง
1
อย่างไรก็ตาม การกู้ยืมเงินก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะผู้กู้จะต้องบริหารจัดการเงินสดที่อยู่ในมือให้ดี และมีการวางแผนล่วงหน้าว่าจะใช้คืนได้เมื่อใด
1
เพราะอย่าลืมว่า การกู้ยืมเงินมักจะมาพร้อมกับดอกเบี้ยเสมอ
1
หากบริษัท ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายได้
เงินกู้ที่ได้มา แทนที่จะช่วยให้กิจการเติบโต แต่จะกลายเป็นดาบสองคม ที่กลับมาทิ่มแทงกิจการเสียเอง..
1
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
1
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
3
โฆษณา