[labhoon การลงทุนไม่เคยหลับไหล] สถาพร งามเรือนพงษ์ เคยคิดว่าอาจจะไม่ใช่ทางของเราเคยฉุกคิดว่าตลาดหุ้นมันยากไปหาอย่างอื่นทำดีกว่า เหมือนภาพที่เราวาดไว้อย่างสวยงามแล้วมีคนเอาเท้ามาขยี้จนไม่เหลือความสวย เริ่มต้นลงทุนปี 2004 ตอนนั้นยังเร

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

labhoon การลงทุนไม่เคยหลับไหล

•

15 ธ.ค. 2022 เวลา 09:17 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สถาพร งามเรือนพงษ์

เคยคิดว่าอาจจะไม่ใช่ทางของเราเคยฉุกคิดว่าตลาดหุ้นมันยากไปหาอย่างอื่นทำดีกว่า

เหมือนภาพที่เราวาดไว้อย่างสวยงามแล้วมีคนเอาเท้ามาขยี้จนไม่เหลือความสวย

เริ่มต้นลงทุนปี 2004 ตอนนั้นยังเรียนปี 1 คิดว่าอยากเล่น เพราะเห็นเพื่อนเพราะเพื่อนสามารถเล่นกำไรได้

เริ่มต้นที่ web board Thai vi

หาความรู้ และถามคนเก่งๆในนั้น

ช่วงแรกที่ลงทุน 2 ปีแรก ไม่ได้อะไรเลย

เลยเลิกเล่นหุ้นไปพักนึง หันไปทำขายตรง

ประมาณ 1 ปี แต่ก็ไม่รุ่ง เลยกลับมาลุยกับตลาดหุ้นใหม่

พยามศึกษาว่าในอดีตเราผิดพลาดอะไร เริ่มรู้ตัวว่าจับจุดผิด ตลาดหุ้นไม่เหมือนในตำราที่เขียนไว้

การที่เราจะประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างมันจะมี 2 องค์ประกอบ

1.อดทนกับมันยาวนานพอเรียนรู้ให้เยอะ

2.เรื่องที่เราอดทนนั้นมันจะต้องอยู่ในหลักการที่ถูกต้องด้วยและทำได้จริง

เครื่องมือที่ผมเลือกคือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่า

หลังจากที่ผมอยู่ในตลาดหุ้นมานาน

ผมแนะนำ เลยนะครับว่าให้คุณ ใช้วิธีการของ Peter Lynch และ Warren Buffett

2 คนนี้จะวิธีการที่ถูกต้อง

ทำไม่ต้อง 2 คนนี้ เพราะ 2 คนนี้มีสถิติการลงทุนประสบความสำเร็จที่ยาวนานพอ เชื่อถือได้

อย่างหลักการ หุ้น 6ประเภท ของ Peter Lynch

เขาจะบอกหลักการกว้างๆมา เราอาจจะต้องมาหารายละเอียดเอง ว่าเราจะดูอย่างไร ซื้อเมื่อไร ขายตอนไหน โดยหลักการตรงนี้แระ ที่ผมนำมาต่อยอด

ส่วนเครื่องมือ ที่คุณไม่ควรเข้าไปยุ่งเลยคือ เครื่องมือที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ที่นานเพียงพอ กำไร4-5 ปี แล้วก็ออกมายอกว่าวิธีนี้แระใช่ อันนี้ต้องระวัง อาจจะให้คุณเสียเวลาได้ ไป

เมื่อคุณทำตามเครื่องมือที่ถูกต้องแล้ว ช่วงแรกอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จนะ

มันเป็นเพราะ ความรู้และประสบการณ์เรายังไม่ถึงจุด ให้เราพัฒนาต่อไปก่อน อย่าท้อ ผมทำมันต่อเนื่อง 2-3 ปี ถึงจะเริ่มจับจุดได้

จงอย่าลงทุนด้วยการมองกระจงหลัง

เช่น ดูงบ เน้นหรือ ให้น้ำหนักมากเกินไป

จงหาสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง

ผมเน้นดูธุรกิจที่มีศักยภาพทางการแข่งขันสูง ไม่ได้มองงบอย่างเดียวเหมือนในอดีตแล้ว ผลลัพธ์เลยออกมาดีขึ้น

ปี 2011 เป็นปีที่หนักของผม

ขาดทุนเยอะมาก จากพอร์ต 75 ล้านเหลือ 32ล้าน

คือช่วงน้ำท่วม และ วิกฤติกรีซออกจากยูโรโซน

เคยมีคำกล่าวนึงในหนังสือ market Wizards บอกว่า การขาดทุนครั้งใหญ่ อาจจะมาหลังจากคุณได้กำไรครั้งใหญ่มา

เพราะ เรามั่นใจตัวเองมากเกินไป แล้วไปลองอะไรที่มันไม่ควร

ตัวอย่างหุ้นตัวนึง เสียดายมาก ซื้อ Warrant หุ้นอสังหาไป แล้วโดนน้ำท่วม หุ้นตัวนั้นกระทบจากเหตุการณ์ด้วย เลยกลัวขายขาดทุนออกมา สุดท้าย warrant นั้นสามารถวิ่งกลับมาได้ จากราคาที่ผมขาย ขึ้น1600% ใน1 ปี เป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก

ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้คือ จิตใจเราไม่มั่นคง

ถ้าเรามั่นใจในพื้นฐานของหุ้น เราควรให้น้ำหนัก กับข่าวภาพนอก น้อยหน่อยจะดีกว่า

2013 พอร์ต จาก 200 ล้าน ลดลงเหลือ 100 ล้าน สาเหตุไปซื้อหุ้นสื่อสาร เรื่องการประมูล 3G ถ้าประมูลผ่าน ค่าใช้จ่าย จะลดลงเยอะ margin บริษัทจะดี กลายเป็นว่าคิดผิด บริษัทตอนนั้นมีการแจกเครื่อง ทำให้ margin ไม่เป็นไปตามคาด

และดันใช้ margin ด้วย สุดท้ายหนีเข้าวัด เพื่อไปสงบจิตสงบใจ

ได้บทเรียนรอบนี้คือ ต้องคิดและประเมินกรณีที่ไม่เป็นไปตามคาดไว้ด้วย และการมั่นใจเกินไป ใส่margin

คุณจะออกมาจากวิกฤตได้คุณต้องพึ่งศรัทธาการพึ่งศรัทธานั้นจะมีได้คุณต้องมีสภาวะแวดล้อมที่เป็นเชิงบวกเช่นอยู่ในกลุ่มคนที่คิดเชิงบวกไม่คิดร้าย ตรงนี้แระคือจุดสำคัญ

แจกหนังสือ Getting Started in Value Investing

ของดี 🎁 สรุปหนังสือ ไม่ต้องนั่งอ่านเอง

🎉ให้เสียเวลา ไม่ต้องอ่านเนื้อหาน้ำ

🎉เราย่อมาให้แล้ว คัดเฉพาะจุดสำคัญๆ

🎉แถมตัวอย่างหุ้นไทย ให้เห็นภาพชัดๆ

รับหนังสือ ได้เลยเพียง

Add line https://lin.ee/1YbWhil

แล้วพิมพ์ labbook2

Labhoonplus ได้อะไรบ้าง👍👍

1).สแกนหุ้นขาขึ้น สายRun trend กราฟสวย

2).Bot สแกนหุ้นทรงสวย แจ้งเตือน Real time

3).ค้นหาหุ้นนำตลาด ด้วย Sector Rotation แบบBloomberg