18 ธ.ค. 2022 เวลา 12:30 • กีฬา
โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นนักเตะที่โดนค่อนขอดมาตลอดชีวิต จากทั้งแฟนบอล หรือเพื่อนนักเตะกันเอง จากสไตล์การเล่นที่เป็น "กองหน้าแบบดั้งเดิม" ตัวใหญ่ วิ่งช้า ใช้พลังกายมากกว่าเทคนิค แต่ทำไมวันนี้เขาได้รับการยอมรับ?
ย้อนกลับไปในฟุตบอลโลก 2018 ที่ฝรั่งเศสได้แชมป์โลก มีสถิติที่น่าเหลือเชื่อคือ ชิรูด์ได้ลงสนามทุกนัด (ตัวจริง 6 สำรอง 1) ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเบอร์ 9 แต่กลับยิงได้ 0 ประตู
3
แน่นอน หน้าที่หลักของกองหน้าก็ควรจะเป็นการทำประตู แต่ในบอลโลกครั้งนั้น ชิรูด์ได้รับคำสั่งจากดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ ว่า "จงเล่นเพื่อทีม" การมีอยู่ของเขาเพื่อทำให้ตัวรุกซ้าย-ขวา คีลียัน เอ็มบัปเป้ กับ อ็องตวน กรีซมันน์ เล่นอย่างโดดเด่นที่สุด
1
ชิรูด์โดนแซวเป็นระยะว่ากองหน้าเบอร์ 9 ประสาอะไร ยิงไม่ได้สักลูก แต่เขาก็อธิบายว่า "แน่นอนผมชอบยิงเองอยู่แล้ว แต่ถ้าผมสามารถสร้างพื้นที่ให้คนอื่นได้ ผมก็จะทำมันเสมอ เพื่อทำให้ทีมได้ประโยชน์มากที่สุด"
2
"ถ้าคุณไปดูประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ตอนได้แชมป์โลกปี 1998 คริสตอฟ ดูการ์รี่ ยิงได้ 1 ประตู ส่วนสเตฟาน กีวาร์ช ยิงไม่ได้เลยสักลูก แต่มันก็ไม่ได้สำคัญถ้าพวกเราเป็นแชมป์โลก ดังนั้นขอแค่โค้ชสั่งมา อยากให้ผมทำอะไร ผมจะทำสิ่งนั้น"
1
ในบอลโลก 2018 เดส์ช็องส์ไม่เลือกกองหน้าคนอื่นที่ยิงประตูได้เยอะกว่าเอาไปเล่นทีมชาติ เช่น อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ (17 ลูก) หรือ วิสซาม เบน เยดแดร์ (22 ลูก) แต่ไปเอาชิรูด์ (12 ประตู) ติดทีมแทน เพราะเหตุผลเดียวนี่แหละ คือชิรูด์จะถูกใช้เพื่อส่งเสริมคนอื่นให้เด่นขึ้น
2
ส่วนสูง 193 ซม. ของเขา มีประโยชน์กับทีมมาก เพราะสามารถพักบอลได้ โหม่งตั้งได้ดี มีบอดี้แข็งแกร่งสามารถกระแทกกับกองหลังได้สบาย กลยุทธ์ของเดส์ช็องส์ชัดเจนตั้งแต่วันแรก คือชิรูด์ต้องทำหน้าที่เปิดทางให้เพื่อนเข้าโจมตี
2
แผนของเดส์ช็องส์สัมฤทธิ์ผล ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 คีลียัน เอ็มบัปเป้ ได้รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ ส่วนกรีซมันน์ได้รางวัลรองดาวซัลโว ส่วนชิรูด์ไม่ได้อะไรเลย ทีมยอดเยี่ยมก็ยังไม่ติด
หลังจบฟุตบอลโลก แม้จะได้แชมป์โลกแต่ตัวชิรูด์ยังโดนแซวอยู่เรื่อยๆ เรื่องการเป็น "กองหน้าตัวรับ" บางคนก็บอกว่า "ใช้พลังมากกว่าสมอง" ส่วนการแซะที่แรงที่สุด มาจากคำพูดของคาริม เบนเซม่า หัวหอกเพื่อนร่วมชาติ
2
ตามจริงแล้วด้วยชื่อชั้น เบนเซม่าควรจะลงเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลก 2018 ให้ฝรั่งเศส แต่ตอนนั้นยังมีคดีพัวพันเรื่องเซ็กส์เทปของมาติเยอ บัลบูเอน่าอยู่ เดสช็องส์เลยไม่ได้เรียก แล้วให้เบอร์ 9 กับชิรูด์แทน
2
31 มีนาคม 2020 เบนเซม่าเปิดอินสตาแกรมไลฟ์ คุยเรื่องต่างๆ กับแฟนบอล และหนึ่งในคำถามที่แฟนๆส่งมา คือคำถามว่าคิดอย่างไรกับชิรูด์ ซึ่งเบนเซม่าตอบแบบไม่กั๊กกันเลยทีเดียว
2
เบนเซม่าบอกว่า "คุณไม่ควรสับสนระหว่างรถ F1 กับ รถโกคาร์ทนะ และคนที่เป็น F1 ก็คือผม เอาเป็นว่า นี่จะเป็นครั้งเดียวที่ผมจะพูดถึงเขาละกัน"
1
"ชิรูด์ก็มีเส้นทางอาชีพของเขา เขาอยากทำอะไรก็ทำไป เขาอยู่ในมุมของเขา ส่วนผมก็อยู่ในมุมของผม ผมไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับเขา แต่ถ้าถามว่าทำไมเขาประสบความสำเร็จกับฝรั่งเศส เพราะสไตล์ของเขามันเหมาะกับทีมชาติ"
"สไตล์แบบนั้นได้ผล เพราะฝรั่งเศสมีนักเตะเร็วๆ อย่างเอ็มบัปเป้ และกรีซมันน์ ที่ฉีกไปเล่นด้านข้างได้ โดยชิรูด์ก็ยืนค้ำด้านหน้าไว้ ร่างกายของเขาทำให้กองหลังคู่แข่งลำบากใจ ซึ่งเป็นการเปิดช่องว่างให้ทั้งเอ็มบัปเป้ และกรีซมันน์ เข้าไปจบสกอร์"
"เขามีหน้าที่ป่วนกองหลัง และมันก็ได้ผลดี จริงอยู่ว่าสไตล์การเล่นแบบนั้นมันไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ คือคุณเห็นเขาเล่น คุณจะไม่พูดหรอกว่า 'ว้าว เล่นได้สุดยอดไปเลย' ไม่ คุณไม่พูดแบบนั้นแน่ แล้วถามว่าคนดูบอลชอบสไตล์การเล่นของชิรูด์หรือเปล่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่า มันเหมาะสมกับทีมชาติฝรั่งเศสละกัน"
1
"แล้วสิ่งที่ผมพูดมันเป็นเรื่องจริงนะ ผมคือ F1 เขาคือโกคาร์ท แต่ถ้าคุณเทียบผมกับโรนัลโด้ นาซาริโอ แน่นอนว่าโรนัลโด้คือ F1 แล้วผมก็คือโกคาร์ท ผมเทียบง่ายๆ แบบนี้ ก็น่าจะเข้าใจนะ"
2
เป็นคำต่อว่ากันตรงๆ ที่รุนแรงมากๆ เหมือนแบ่งชนชั้นว่าสไตล์กองหน้าแบบนั้น ก็ควรเป็นแค่โกคาร์ท และที่น่าสนใจคือ แฟนบอลไม่น้อยก็ดูจะคล้อยตามเบนเซม่าเสียด้วย
2
เหตุการณ์ผ่านไป เข้าสู่ยูโร 2020 เบนเซม่าเคลียร์คดีเซ็กส์เทปเรียบร้อยแล้ว และด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมกับเรอัล มาดริด ไม่มีทางเลยที่เดส์ช็องส์ จะไม่เรียกเบนเซม่าเข้ามาติดทีมด้วย
1
และเมื่อเบนเซม่ากลับมา ผลลัพธ์คือเบนเซม่าได้ลงเป็นตัวจริงทุกนัด ส่วนชิรูด์ไม่ได้เล่นตัวจริงแม้แต่นัดเดียว ในยูโร 2020
1
สิ่งที่น่าแปลกคือ พอเบนเซม่าลงตัวจริง สามประสาน เบนเซม่า-กรีซมันน์-เอ็มบัปเป้ กลับไม่เวิร์กนัก เบนเซม่ายิงอยู่คนเดียว (4 ประตู) ส่วนอีกสองคนที่เหลือ กรีซมันน์ยิง 1 เอ็มบัปเป้ยิง 0 กลายเป็นว่าสามประสานระดับสุดยอดของโลก แต่กลับเล่นไม่เกื้อหนุนกันอย่างที่คิด
1
หลังจบศึกยูโร ในเดือนมิถุนายน 2021 ปรากฏว่าชิรูด์โดนตัดทิ้งจากทีมชาติไปเลย เหตุผลข้อแรกคือมันทับตำแหน่งกับเบนเซม่า คุณจะมีนักเตะกองหน้าตัวเป้าอายุเยอะๆ หลายคนในทีมทำไม ชิรูด์ก็ 34 ปีแล้ว สู้ไปเอาเด็กใหม่ๆ มาเล่นดีกว่าไหม
1
เหตุผลข้อสองคือ ในฤดูกาล 2020-21 เขาได้ลงตัวจริงกับต้นสังกัดเชลซี แค่ "8 นัด" ในพรีเมียร์ลีก คนที่ไม่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอแบบนี้ จะให้ติดทีมชาติด้วย มันก็แปลกๆ เหมือนกัน เดส์ช็องส์จะตอบสังคมว่าอย่างไรที่เรียกผู้เล่นโดยไม่ดูจากฟอร์ม
หลังจบยูโร ชีวิตของชิรูด์ก็เลยอยู่ในขาลง น้อยคนมากที่จะเชื่อว่าเขาจะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง ในฟุตบอลโลก 2022
เหลืออีกแค่ 1 ปีเศษๆ บอลโลกจะมาถึง ชิรูด์ต้องทำอะไรสักอย่าง ถ้าอยากไปบอลโลก ดังนั้นเขาจึงขอย้ายทีม จากเชลซีไปเล่นให้เอซี มิลานในอิตาลี เขาต้องการพิสูจน์ว่า ขอแค่โอกาสเท่านั้น ถ้าเขาได้โอกาสลงเล่นจากโค้ช ก็พร้อมจะสร้างผลงานได้ แต่ที่เชลซี เขาไม่ได้รับสิ่งนั้นจึงต้องย้ายออก
1
กับเอซี มิลาน ชิรูด์พยายามแล้ว พยายามอีก เขาตั้งใจมากที่จะเล่นให้ดี สร้างประโยชน์ให้กับเพื่อนมากที่สุด และปรากฏว่าชิรูด์เล่นไม่เลวเลย เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพว่าเล่นเกมใหญ่ได้ดีมากๆ
1
เขายิง 1 แอสซิสต์ 1 ในเกมที่มิลานชนะโรม่า, เขายิง 2 ลูกในเกมที่มิลานชนะอินเตอร์ และ เขายิง 1 ลูกในเกมที่มิลานชนะนาโปลี
1
การกลับมาเล่นได้ดี ในวัย 35 ปี ในที่สุด หลังจากถูกเมินมา 280 วัน จนเขาคิดว่าจะถูกลืมจากทีมชาติไปแล้ว จังหวะพอดี ที่คาริม เบนเซม่าบาดเจ็บ ทำให้เดส์ช็องส์ เรียกตัวเขามาติดทีมเสียบแทน ในเกมอุ่นเครื่องกับไอวอรี่โคสต์ และแอฟริกาใต้ ซึ่งก็ไม่มีเสียงกังขาอะไรจากสื่อมวลชน เพราะผลงานกับเอซี มิลาน มันใช้ได้ทีเดียว
1
ชิรูด์กล่าวว่า "ไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบได้ กับสายโทรศัพท์ของโค้ชเดส์ช็องส์ คำพูดที่เขาบอกว่า ผมจะกลับมาติดทีมชาติ มันนำพาความสุขมาให้ผมอย่างคาดไม่ถึง และมันได้นำความมุ่งมั่นของผม ที่อยากจะยิงประตูให้เกมลีกให้ได้เยอะๆ เพื่อฉลองในการกลับมาติดทีมชาติด้วย"
3
ทุกคนรู้ดีว่า เดส์ช็องส์ชอบชิรูด์แค่ไหน จะมีกองหน้าที่ไหนเข้าแท็กติกขนาดนี้ แต่เขาต้องตัดใจหั่นชิรูด์ทิ้งไปถึง 280 วัน เขาอธิบายในการตัดสินใจครั้งนี้ว่า "สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม คือความยุติธรรมในการเรียกตัวนักเตะ แน่นอน โอลิวิเยร์คือองค์ประกอบสำคัญของฝรั่งเศสชุดคว้าแชมป์โลก แต่เขาก็ต้องมีผลงานในระดับสโมสรด้วย และผมจะไม่ให้ความสำคัญกับโอลิวิเยร์มากกว่านักเตะคนอื่น"
1
เคล็ดลับความสำเร็จของฝรั่งเศสนั้น ทัศนคติของเดส์ช็องส์ คือคีย์สำคัญ ถ้าคุณให้ท้ายนักเตะที่ตัวเองชอบเป็นพิเศษ แล้วคนอื่นๆ ที่รอโอกาสในทีมชาติจะคิดยังไง เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง ต้องไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แต่ต้องเลือกคนที่ฟอร์มดีจริงๆ สร้างความเท่าเทียมขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหน้าใหม่ หรือหน้าเก่า
2
การกลับมาติดทีมชาติของชิรูด์นั้น เขาไม่ทิ้งโอกาสให้หลุดลอย เมื่อยิงทั้งไอวอรีโคสต์ และ ยิงแอฟริกาใต้ พาทีมชนะสองเกม ถึงจุดนี้ไม่แปลกแล้ว ที่เขาจะติดทีมไปฟุตบอลโลกที่กาตาร์ด้วย
3
เราจะเห็นว่า ชิรูด์นั้นเป็น Fighter อย่างแท้จริง โดนใครค่อนแคะอย่างไรเขาก็ไม่สน ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไป จะโดนตัดทิ้งจากทีมชาติก็ไม่เป็นไร เขาเชื่อว่าถ้าตั้งใจเล่นแล้วมีผลงานดี โค้ชก็ต้องมองเห็นเอง
2
ชิรูด์ไม่เคยออกมาไซโคโค้ช ทำงานหนักไปอย่างเงียบๆ และสุดท้ายก็ได้ผลตอบแทนทุกอย่าง จากความพยายามของตัวเอง
3
เวลาผ่านไป เมื่อฟุตบอลโลกใกล้มาถึง คำถามที่เดส์ช็องส์ต้องกลุ้มใจที่สุดก็มาถึง คือ เบนเซม่า กับ ชิรูด์ จะเอาใครลงเป็นตัวจริง?
1
ถ้าด้วยแท็กติกแล้ว ชิรูด์เหมาะกว่าแน่นอน เขาจะทำให้เอ็มบัปเป้, กรีซมันน์ และ อุสมาน เดมเบเล่ เล่นง่ายขึ้นมาก ยิ่งเบนเซม่าพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในยูโร 2020 ว่าไม่คลิกกับคนอื่นขนาดนั้น
1
นอกจากนั้น หลังจบยูโร เบนเซม่า ยิง 6 ลูกจาก 10 เกม ให้ทีมชาติ ผลงานส่วนตัวถือว่าไม่เลว แต่ผลงานของทีมฝรั่งเศสจบรองบ๊วยรายการเนชั่นส์ลีก
1
อย่างไรก็แล้วแต่ เบนเซม่าเพิ่งจะได้รางวัลบัลลงดอร์มาสดๆ ร้อนๆ คุณจะกล้าปฏิเสธนักเตะที่ฟอร์มดีที่สุดในโลกได้อย่างไร มันจะตอบสังคมได้ยังไง ถ้าคุณดร็อปผู้เล่นดีกรีขนาดนี้เป็นสำรอง
3
ในระหว่างที่เดส์ช็องส์เองก็ปวดหัวว่าจะเอายังไง เบนเซม่า ที่มีอาการบาดเจ็บต้นขาอยู่ ตอนแรกสื่อฟันธงว่าน่าจะหายทันบอลโลกพอดี แต่ก่อนบอลโลกจะเริ่ม 1 วัน ก็ได้คำยืนยันว่า "ไม่ไหว" ทำให้เบนเซม่าถอนตัวออกไป และถึงตรงนี้ การจัดทัพก็ไม่มีสับสนแล้ว เดส์ช็องส์สามารถใช้ชิรูด์เป็นหน้าเป้าอย่างที่ต้องการได้เลย
2
ระบบของฝรั่งเศสคือ 4-2-3-1 มีชิรูด์เป็นหน้าเป้า หน้าที่หลักของเขาไม่ต่างกับในฟุตบอลโลก 2018 คือ "ทำทาง"โดยเฉพาะเอ็มบัปเป้จะมีพื้นที่เล่นอย่างอิสระมากด้านซ้าย เมื่อมีชิรูด์คอยช่วยล่อกองหลังคนอื่นไปให้
2
ถ้าดูในรายละเอียดการมีส่วนร่วมกับเกมแล้ว ทุกเกมที่ฝรั่งเศสเล่นมา ชิรูด์จับบอลไม่เกินเกมละ 20 ครั้ง หน้าที่หลักของเขาคือวิ่งกระแทกกองหลัง ชนกับเซ็นเตอร์แบ็ก ทำสกรีน เพื่อให้เพื่อนเล่นง่ายที่สุด
3
หน้าที่หลักของตัวเองเขาทำได้ดี คือทำให้เพื่อนเล่นง่าย แต่บอลโลกคราวนี้ ชิรูด์อัพเกรดยิ่งกว่า 4 ปีก่อน เพราะสามารถจบสกอร์เองได้ด้วย ณ เวลานี้ ซัดไปแล้ว 4 ลูก เป็นรองดาวซัลโวเวิลด์คัพ ตามหลังเอ็มบัปเป้แค่ 1 ลูกเท่านั้น
1
และล่าสุดก็ทำสถิติยิงประตูสูงสุดตลอดกาลของฝรั่งเศส (53 ประตู) แซงหน้าเธียร์รี่ อองรี (51 ประตู) ไปแล้วด้วย
1
ถ้าหากสุดท้ายแล้ว ฝรั่งเศสไปถึงแชมป์โลกได้จริงๆ ล่ะก็ คงไม่มีใครกล้าดิสเครดิตชิรูด์อีกต่อไปแล้ว เขาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์ ใช้ทักษะ พลังกาย และความมุ่งมั่นของตัวเอง สร้างความแตกต่างให้ฝรั่งเศส ตัวเองก็ยิงได้ เพื่อนก็เล่นง่าย อะไรๆ ก็คลิกไปหมด
1
เบนจาแม็ง ปาวาร์ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส กล่าวถึงชิรูด์ว่า "ตอนที่ไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวโอลิวิเยร์ เขาลุกขึ้นสู้และพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่ผู้คนคิดกันมันผิด เขาเป็นนักเตะที่ไม่เคยเห็นแก่ตัว และสร้างประโยชน์ให้กับทีมเสมอ"
2
ขณะที่ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าที่น้อยครั้งมาก จะชมนักเตะคนอื่น ก็ยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวชมชิรูด์ "เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นคนจริงจัง มีความสง่างาม และที่สำคัญคือเป็นมืออาชีพอย่างที่สุด"
2
รถโกคาร์ท อาจจะไม่แรงที่สุด หากนำไปเทียบกับฟอร์มูล่าวัน อันนั้นแน่นอน แต่ถ้ามันทำหน้าที่ของตัวเองได้สมบูรณ์ นำพาผู้ขับขี่ไปถึงเส้นชัยได้ล่ะก็ คงไม่มีอะไรจะสุดยอดไปกว่านี้แล้ว
1
#GOKARTWORLDCHAMPION
โฆษณา