15 ม.ค. 2023 เวลา 03:13 • ข่าว
#คดีสีดำ #theghostradio
ฆ่ายัดกล่อง ของขวัญปีใหม่สยอง
คดีสะเทือนขวัญเกิดขึ้นที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ พนักงานรถไฟได้พบกล่องปริศนา 1 ใบ ข้างในกล่องมีศพของเด็กผู้ชายถูกยัดไว้ในนั้น แถมข้างกล่องเขียนคำอวยพรภาษาจีนว่า “สุขสันต์วันปีใหม่” เหมือนเป็นของขวัญที่จะส่งมอบในช่วงเทศกาลแห่งความสุขด้วยความสยอง
เด็กชายที่อยู่ในกล่องคือใครและเหตุใดถึงโดนฆ่า วันนี้คดีสีดำจะพาทุกคนมาย้อนรอยคดีลึกลับซ่อนเงื่อนนี้กัน ย้อนกลับไปในวันที่ 4 ก.พ 2508 ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ สายเหนือกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เมื่อโบกี้รถไฟมาส่งหน้าโกดังโรงงานยาสูบตรงข้ามกับสถานีรถไฟเชียงใหม่ พอรถไฟจอดสนิทพนักงานรถไฟก็ทำการยกของลงจากรถไฟทันที
เป็นเรื่องปกติว่า ของที่ส่งมาทางรถไฟอาจจะเน่าเสียบ้าง เพราะสภาพอากาศร้อนและการใส่บรรจุภัณฑ์อาจใส่มาไม่ดี แต่ครั้งนี้กลิ่นรุนแรงเหม็นเน่าโชย กลิ่นเตะจมูกอย่างรุนแรง พนักงานทั้ง 2 คนจึงหาที่มาของกลิ่น จนไปเห็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลใบใหญ่มีเชือกผูกมัดไว้ ข้างกล่องเขียนคำอวยพรภาษาจีนว่า “ สุขสันต์วันปีใหม่ ” วางหลบอยู่ในหลืบของโบกี้ บริเวณก้นกล่องมีคราบน้ำที่แห้งแล้ว
เมื่อพนักงานทั้งสองช่วยกันยกลงมาจากโบกี้ ด้วยความสงสัยจึงแง้มฝากล่องออก พอเปิดกล่องดูเห็นกระดาษหนังสือพิมพ์อัดแน่นเชือกมัดไว้อย่างดี พนักงานเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเดินไปบอกผู้จัดการ ผู้จัดการจึงตัดสินใจเปิดกล่องดูข้างใน ทั้ง 3 คน ช่วยกันแก้เชือกออกทีละเส้น
1
ทุกครั้งที่แก้เชือกออกจะมีกลิ่นเหม็นฟุ้งลอยออกมาด้วย แก้เสร็จก็ดึงกระดาษหนังสือพิมพ์ออก เห็นเป็นกล่องไม้ระแนง ด้านบนกล่องมีแกลลอนน้ำมันและกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดรอบ ๆ ข้างในกล่อง ตรงกลางมีถุงพลาสติกสีแดงขนาดใหญ่ห่อหุ้มสิ่งหนึ่งอยู่ เมื่อแกะถุงออกทุกคนต่างสะดุ้งโหยงทันที พบร่างของเด็กผู้ชายนอนคุดคู้ สภาพศพถูกหั่นเพื่อให้ยัดลงกล่องได้ ศพขึ้นอืดหนอนไต่ยั้ยเยี้ย
2
คาดเดาได้ว่า ตายมาหลายวันแล้ว จึงแจ้งตำรวจให้เขามาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้เอาศพออกมาพิสูจน์ศพเด็กชายคนนี้ตัดผมสั้น นุ่งกางเกงใน 1 ตัว สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว ถูกมัดมือมัดเท้า ที่หัวพบบาดแผลถูกทำลายจนเป็นแผลฉกรรจ์ เพราะผมหายไปเป็นกระจุก ๆ ลูกอัญฑะเหมือนถูกกรีด ที่คอถูกปาดลึกจนถึงกระดูก ไม่มีคราบเลือดติดมากับศพมีเพียงคราบน้ำเหลือง เจ้าหน้าที่ต้องตามสืบกันต่อว่าเด็กชายผู้นี้คือใคร
4
มีหลักฐานสำคัญที่จะสืบได้ ตรวจพบแหวนทองลงยา หัวแหวนหลุดหายไป สวมอยู่นิ้วกลางขวา ระบุชื่อร้าน “ฮั่วเซ่งเฮง” เป็นภาษาจีน นอกจากนี้ในกล่องกระดาษยังมีหนังสือเขียนด้วยหมึกสีน้ำเงินข้อความว่า “ส่งถึงคุณเกษม 757 รัตนเขต เชียงราย จากย่งเส็ง เซียงกง”
2
จากนั้นมีตำรวจนครบาลเดินทางขึ้นมาขอดูศพ ได้แจ้งว่าศพนี้น่าจะเป็น นายกิมบั๊ก แซ่อึ้ง อายุ 15 ปี ซึ่งญาติได้แจ้งว่าถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่
1
จากนั้น นาย สรศักดิ์ แซ่อึ้ง อายุ 31 ปี เจ้าของร้านขายยามหาชัย จึงได้เดินทางมาพบทีมสวบสวน สภ.อ.เชียงใหม่ ขอดูศพปริศนา หัวใจเขาแทบสลาย เพราะมั่นใจว่าศพนี้คือน้องชายของเขาเอง
3
นายสรศักดิ์ได้เล่าให้ตำรวจฟังว่า วันที่น้องชายหายตัวไปเป็น วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2508 ตรงกับวันตรุษจีนพอดี จู่ๆก็มีลูกค้าคนหนึ่งโทรมาสั่งยาให้ไปส่งที่ซอยปราโมทย์ ถนนสุรวงค์ นายกิมบั๊ก น้องชายจึงอาสาจะไปส่งยาให้ และเขาได้หายตัวไปหลังจากนั้น พอช่วงเย็นก็มีสายโทรศัพท์จากบุคคลปริศนาโทรมาที่ร้านยาบอกว่า นายกิมบั๊กไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ที่บางปูไม่ต้องเป็นห่วง หลังจากเที่ยวเสร็จจะไปค้างที่บ้านเพื่อนต่อ นายสรศักดิ์จึงไม่ได้ติดใจอะไร
ตกดึกมีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาอีกรอบ ปลายสายเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง อ้างว่าเป็นคนของแก๊ง “กระทิงแดง ศิษย์พระกาฬ” ได้จับตัวนายกิมบั๊กไว้ ให้นำเงิน 25,000 บาท มาไถ่ตัว ไม่งั้นไม่รับรองความปลอดภัยใด ๆ ทั้งสิ้น สายนี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้นายสรศักดิ์ เป็นอย่างมากเพราะเป็นห่วงน้องชาย
เช้าวันรุ่งขึ้นมีเสียงโทรศัพท์เข้ามาอีก ปลายสายเป็นเสียงเดิมสั่งว่า ให้ลงไปหน้าบ้านจะเจอจดหมาย เมื่ออ่านเสร็จให้มาพบกันที่ป้ายรถเมล์หน้าสวนลุมพินี นอกจากนี้ปลายสายยังกำชับให้นำจดหมายฉบับดังกล่าว พร้อมเงินสด 25,000 บาทไปพบตามที่นัดไว้ ที่สำคัญห้ามบอกตำรวจและนักข่าวเด็ดขาด
1
สรศักดิ์จึงเดินลงไปหน้าบ้านพบจดหมายฉบับหนึ่งอยู่ในซองสีฟ้า ผู้เขียนใช้พิมพ์ดีดแทนที่จะเขียนด้วยลายมือเพื่อให้ตำรวจติดตามตัวได้ยาก ข้อความในจดหมายไม่ผิดแปลกอะไรกับบทสนทนาในโทรศัพท์มากนัก เมื่อสรศักดิ์ไปถึงที่นัดหมาย มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาทวงถามเงินค่าไถ่ สรศักดิ์พยายามต่อรองขอลดเงินค่าไถ่ลง เพราะเป็นช่วงตรุษจีนเงินสะสมไว้ถูกใช้ไปหมดแล้ว โจรจึงกลับไปแต่โดยดี และโจรไม่ได้ตกลงอะไรกับสรศักดิ์
1
วันที่ 29 มกราคม สรศักดิ์ได้รับโทรศัพท์ติดต่อจากจากผู้ชายคนเดิมอีกครั้ง คราวนี้มันยอมลดค่าไถ่ลงเหลือ 20,000 บาท พร้อมกับนัดหมายให้ส่งเงินที่เก่าของเย็นวันนั้น
พอถึงเวลานัด สรศักดิ์กลับนำเงินมาไปแค่ 1,000 บาทเท่านั้น ทำให้โจรโมโหมาก โจรจึงนัดส่งเงินอีกครั้ง ตอนเวลา 15.00 น. ของวันถัดไป พร้อมกับขู่ว่าจะต้องนำเงินไปให้ไม่อย่างนั้นนายกิมบั๊กจะต้องตาย แล้วเสียงโทรศัพท์ลึกลับนั้นก็วางไป สรศักดิ์เลยคิดว่านายกิมบั๊กต้องมาตายเพราะเขาไม่เอาเงินไปให้โจรเพิ่มอย่างแน่นอน
1
เมื่อตำรวจได้ฟังดังนั้นจึงเร่งตามหาคนร้ายทันที ตามหาจากที่มาของกล่องกระดาษ บนกระดาษมีชื่อที่อยู่ของผู้ส่งระบุบนกล่องด้วย กล่องสยองนี้ถูกส่งมาจากบริษัทชุนหวัฒนา ถนนตรีมิตร ร้านนำเข้าเครื่องยนต์ เจ้าของบริษัทอุทัย เอ็กซ์ปอร์ต ถนนสุรวงศ์ เบาะแสนี้ทำให้การตามหาตัวฆาตกรเป็นไปอย่างง่ายดาย
ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่พบว่าิมีคนงานในบริษัทอุทัยเอ็กซ์ปอร์ตหายตัวไปนานเป็นเดือนแล้วทราบชื่อ คือ นายจรินทร์ สิทธิธรรม มีฉายา “กระทิงแดง ศิษย์พระกาฬ” ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นห้องพัก เจอเครื่องพิมพ์ดีด หนังสืออาชญากรรม และมีปอยผมตกอยู่ หลักฐานนี้ทำให้ตำรวจมั่นใจว่านายจรินทร์ คือ ฆาตกรเลือดเย็น พอตรวจอย่างละเอียดก็เจอเข้ากับคราบเลือดที่ซึมอยู่ใต้พื้นไม้ นายจรินทร์ ถูกจับตัวและศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต แต่นายจรินทร์ รับสารภาพ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ปัจจุบันนายจรินทร์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว
เรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดังของจังหวัดเชียงใหม่ คนละแวกนั้นรวมถึงคนไทยทั้งประเทศต่างหดหู่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปีศาจโหดเหี้ยมมาพรากชีวิตที่สดใสของเด็กคนเพียงเพราะเงินเท่านั้นหรือ บ้านเมืองย่อมมีกฎหมายคุ้มครอง อย่าคิดเบียดเบียนชีวิตใครเพราะความโลภของตัวเอง
ติดตามเรื่องเล่าสุดหลอนได้ในช่องทางต่อไปนี้
โฆษณา