2 ม.ค. 2023 เวลา 00:00 • ประวัติศาสตร์
เรื่องของฮ่าเตียนสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ
เมืองบันทายมาศหรือพุทไธมาศเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของเขมรด้านอ่าวไทย หากจะโจมตีหรือป้องกันแผ่นดินเขมรโดยใช้กำลังทางเรือ จะใช้เมืองบันทายมาศเป็นจุดสำคัญในการเคลื่อนพลเข้าออก
แต่กรุงศรีอยุธยาถือว่าเมืองบันทายมาศอยู่ในฐานะหัวเมืองในอารักขาจนเมื่อกรุงศรีอยุธยาสูญสิ้นไป ในช่วงสงครามกู้กรุงฯ สมเด็จพระเจ้าตากสินพยายามจะขอความช่วยเหลือจากเมืองฮ่าเตียนหรือบันทายมาศก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด
จนเมื่อหลังจากปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ที่กรุงธนบุรีแล้ว ปลายปี พ.ศ. ๒๓๑๔ จึงยกทัพไปตีเมืองพุทไธมาศและเมืองเขมร โดยยกทั้งทัพบกและทัพเรือ บันทึกตระกูลมักกล่าวว่า มักเทียนตื๊อส่งข่าวด่วนไปยังราชสำนักญวนเพื่อขอกองทัพมาเสริม แต่เพราะมีสถานการณ์เช่นนี้หลายปีแล้วทางราชสำนักจึงขอให้รอทัพสยามมาจริงก่อน
แต่ครั้งนี้ทัพจากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทางเรือ คุมทัพโดยสมเด็จพระเจ้าตากสินเองเสด็จพระราชดำเนินประทับยืนอยู่ฟากตะวันออกตรงป้อมหน้าเมืองและใช้กำลังกองทัพเข้าตีเมืองรวมเวลาราว ๒ เดือน ก็ยึดเมืองฮ่าเตียนได้ และพระยาราชาเศรษฐีญวนหรือมักเทียนตื๊อหนีออกไปทางคลองวิ่นเตมุ่งสู่เจาด๊กที่กองทัพญวนตั้งอยู่
เมื่อตีเมืองฮ่าเตียนสำเร็จ สมเด็จพระเจ้าตากสินจึงตั้ง “พระยาพิพิธโภคากร” หรือพระยาราชาเศรษฐีจีนผู้เคยปกครองเมืองตราดขึ้นปกครองเมืองบันทายมาศแทน ต่อมาพระยาพิพิธมารับราชการอยู่ ณ กรุงธนบุรีพร้อมด้วยจีนจากหัวเมืองตะวันออกซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ทางฝั่งที่เป็นพระบรมมหาราชวังของกรุงเทพมหานครในปัจจุบันนี้ เมืองบันทายมาศหรือฮ่าเตียนก็กลับมาเป็นของสยามในช่วงเวลานั้น ครั้งนั้นนำชาวญวนเข้ารีตที่นับถือคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาธอลิคกลับมาด้วย
แต่หลังจากมักเทียนตื๊อหนีไปก็สามารถกลับมาครองเมืองฮ่าเตียนได้อีกครั้ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเห็นว่าอยู่ไกลจึงปล่อยมือจากเมืองนี้ ต่อมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ไตเซินในปลายรัชกาล จนทำให้มักเทียนตื๊อต้องหนีมาพึ่งสยาม อยู่อาศัยแถบตลาดน้อย แต่แล้วก็ถูกประหารพร้อมกับองเชียงชุนในปลายแผ่นดินธนบุรี
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ หนังสือ “บ้านเมืองเบื้องบูรพา” : วลัยลักษณ์ ทรงศิริ
ติดตามบทความ วิดีโอ และรายการต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่
Official Web : https://siamdesa.org
โฆษณา